บลจ.กสิกรไทย เดินหน้าขายกองทุนตราสารหนี้ระหว่างวันที่ 2-8 กุมภาพันธ์นี้ ประเดิม 2 กองแรกยังมั่นใจกองทุนพันธบัตรโสม หลังยิลด์ปรับตัวดีขึ้น ส่วนอีก 1 กองเป็นตราสารหนี้ในประเทศอายุ 6 เดือน ห้ผลตอบแทนประมาณ 1% ต่อปี
นางสาวยุพาวดี ตู้จินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้ บลจ. กสิกรไทย มีแผนจะเสนอขายกองทุนประเภทตราสารหนี้แบบกำหนดอายุโครงการ ซึ่งให้ทางเลือกที่หลากหลายทั้งตราสารที่ลงทุน คือให้ทางเลือกครบถ้วนทั้งการลงทุนในประเทศและต่างประเทศ และต้องตอบรับความต้องการของลูกค้าทั้งที่ต้องการลงทุนช่วงสั้นๆ และลงทุนระยะยาว โจทย์หลักของเรา คือ เน้นลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดีและให้โอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจ แม้ว่าระยะเวลาการเสนอขายที่ต่างกัน อาจส่งผลให้แต่ละกองทุนมีอัตราผลตอบแทนที่ต่างกันไปบ้างตามสภาวะของตลาดในแต่ละช่วง อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีกองทุนในลักษณะเช่นนี้เสนอขายอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์
ทั้งนี้ ล่าสุดบริษัทจึงเตรียมเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ทั้งไทยและต่างประเทศแบบกำหนดอายุโครงการต่อเนื่องอีกในระหว่างวันที่ 2-8 กุมภาพันธ์ 2553 เพื่อตอบรับผู้ลงทุนที่ยังคงต้องการทางเลือกที่น่าสนใจกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก และมุ่งตอบโจทย์การวางแผนการลงทุนทั้งระยะสั้นและระยะยาว
สำหรับกองทุนที่จะทำการเปิดขายนั้นได้แก่ กองทุนตราสารหนี้ในประเทศ 1 กองทุน คือ กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 6 เดือน อี (KFI6ME)เพื่อเป็นทางเลือกเพิ่มเติมสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการทางเลือกลงทุนกับตราสารในประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำแสวงหาโอกาสรับผลตอบแทนที่แน่นอน และคาดหวังโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่าการฝากเงิน โดยกองทุนดังกล่าว เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐเป็นหลัก และส่วนที่เหลือจะลงทุนในหุ้นกู้ระยะสั้นธนาคารเกียรตินาคิน ประมาณการผลตอบแทน หลังหักค่าใช้จ่ายกองทุน ที่ 1.00%
ส่วนกองทุนต่างประเทศนั้น จะเป็น กองทุนพันธบัตรเกาหลีที่จะเสนอขาย ประกอบด้วย 2 กองทุน คือ กองทุนเปิดเค พันธบัตรเกาหลี 1 ปี บีเอฟ (KKG1YBF) ขนาดกองทุนกองทุน 2,000 ล้านบาท ระยะเวลาลงทุนประมาณ 1 ปี โอกาสรับผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนประมาณ 1.75% ต่อปี กองทุนเปิดเค พันธบัตรเกาหลี 3 เดือน เอช (KKG3MH) ขนาดกองทุน 3,000 ล้านบาท ระยะเวลาลงทุนประมาณ 3 เดือน ประมาณการอัตราผลตอบแทน 1.25% ต่อปี โดยทั้ง 2 กองทุน ยังคงเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลประเทศเกาหลีใต้ พร้อมนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน สำหรับผู้ลงทุนประเภทบุคคลธรรมดาผลตอบแทนไม่ต้องเสียภาษี
นางสาวยุพาวดี กล่าวต่อว่า กองทุนพันธบัตรเกาหลีก็ยังคงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ลงทุนที่คาดหวังโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุนในพันธบัตรในประเทศที่มีอายุตราสารใกล้เคียงกัน ที่ผ่านมากองทุนกลุ่มนี้ยังได้รับการตอบรับที่ดีมากจากผู้ลงทุน เห็นได้จากกองทุนพันธบัตรเกาหลีอายุ 3 เดือนที่เราเปิดขายไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กวาดยอดขายไปเต็มมูลค่าโครงการกว่า 3,000 ล้านบาท“ นางสาวยุพาวดีกล่าว
