กองทุนวายุภักษ์ หนึ่ง ไปได้สวยโชว์ผลงานเตรียมจายปันผลให้ผู้ถือหน่วย 0.65 บาทต่อหน่วย เฮรับพร้อมกัน 19 กุมภาพันธ์ นี้
นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนรวมวายุภักษ์ และประธานกรรมการในคณะกรรมการลงทุนกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานสำหรับปี 2552 ว่า จะจ่ายเงินปันผลงวดปี 2552 สำหรับนักลงทุนประเภท ก. ในอัตราร้อยละ 6.5 หรือเท่ากับ 0.65 บาทต่อหน่วย และนักลงทุนประเภท ข. ในอัตราร้อยละ 5.17 หรือเท่ากับ 0.5167 บาทต่อหน่วย ซึ่งจะทำการจ่ายสำหรับงวดครึ่งปีหลัง
สำหรับนักลงทุนประเภท ก ในอัตราร้อยละ 3.5 หรือ 0.35 บาทต่อหน่วย และสำหรับนักลงทุนประเภท ข ในอัตราร้อยละ 5.17 หรือเท่ากับ 0.5167 บาทต่อหน่วย
ทั้งนี้ในที่ประชุมของคณะกรรมการกองทุนดังกล่าว ได้มีมติเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2553 ที่ผ่านมา อนุมัติให้จ่ายเงินปันผลสำหรับรอบผลการดำเนินงาน 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2552 ในอัตราร้อยละ 6.5 สำหรับผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก. หรือนักลงทุนทั่วไป โดยพิจารณาจากรายได้จากการลงทุนสุทธิรวมกับกำไร (ขาดทุน) ที่เกิดขึ้นจริง สำหรับงวดปี 2552 เท่ากับ 4,912.95 ล้านบาท โดยมีผลกำไรจากการลงทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงเท่ากับ 12,622.03 ล้านบาท เพิ่มสูงขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับผลขาดทุนจากการลงทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงในงวดเดียวกันของปี 2551 ที่มีผลขาดทุน 15,140.67 ล้านบาท และมูลค่าทรัพย์สินสุทธิจากการดำเนินงานในปี 2552 เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2551 เท่ากับ 17,534.98 ล้านบาท
โดยกองทุนได้รับผลบวกจากสภาวะตลาดตราสารทุนที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดย SET Index งวดปี 2552 ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 63.2 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลรายปีในอัตราร้อยละ 6.5 สำหรับนักลงทุนประเภท ก. เป็นระดับที่สูงกว่าอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 4 ปี ที่ประมาณอัตราร้อยละ 3.17 และสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปี ที่ประมาณอัตราร้อยละ 0.79
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์จะประกาศวันงดจ่ายเงินปันผล (XD) ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2553 และศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ จะทำการปิดสมุดทะเบียน (XR) ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2553 และผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้รับเงินปันผลในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2553
อย่างไรก็ตาม กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง มีขนาดมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2552 เท่ากับ 148,455.40 ล้านบาท และมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อหน่วยลงทุนของนักลงทุนประเภท ก (นักลงทุนทั่วไป) เท่ากับ 10.7961 บาท กองทุนเป็นกองทุนรวมผสมแบบยืดหยุ่นซึ่งมีนโยบายการลงทุนทั้งในตราสารแห่งทุนและตราสารแห่งหนี้ โดยปัจจุบันลงทุนในตราสารแห่งทุนประมาณอัตราร้อยละ 80 และ ตราสารแห่งหนี้ ประมาณอัตราร้อยละ 20
นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนรวมวายุภักษ์ และประธานกรรมการในคณะกรรมการลงทุนกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานสำหรับปี 2552 ว่า จะจ่ายเงินปันผลงวดปี 2552 สำหรับนักลงทุนประเภท ก. ในอัตราร้อยละ 6.5 หรือเท่ากับ 0.65 บาทต่อหน่วย และนักลงทุนประเภท ข. ในอัตราร้อยละ 5.17 หรือเท่ากับ 0.5167 บาทต่อหน่วย ซึ่งจะทำการจ่ายสำหรับงวดครึ่งปีหลัง
สำหรับนักลงทุนประเภท ก ในอัตราร้อยละ 3.5 หรือ 0.35 บาทต่อหน่วย และสำหรับนักลงทุนประเภท ข ในอัตราร้อยละ 5.17 หรือเท่ากับ 0.5167 บาทต่อหน่วย
ทั้งนี้ในที่ประชุมของคณะกรรมการกองทุนดังกล่าว ได้มีมติเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2553 ที่ผ่านมา อนุมัติให้จ่ายเงินปันผลสำหรับรอบผลการดำเนินงาน 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2552 ในอัตราร้อยละ 6.5 สำหรับผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก. หรือนักลงทุนทั่วไป โดยพิจารณาจากรายได้จากการลงทุนสุทธิรวมกับกำไร (ขาดทุน) ที่เกิดขึ้นจริง สำหรับงวดปี 2552 เท่ากับ 4,912.95 ล้านบาท โดยมีผลกำไรจากการลงทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงเท่ากับ 12,622.03 ล้านบาท เพิ่มสูงขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับผลขาดทุนจากการลงทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงในงวดเดียวกันของปี 2551 ที่มีผลขาดทุน 15,140.67 ล้านบาท และมูลค่าทรัพย์สินสุทธิจากการดำเนินงานในปี 2552 เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2551 เท่ากับ 17,534.98 ล้านบาท
โดยกองทุนได้รับผลบวกจากสภาวะตลาดตราสารทุนที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดย SET Index งวดปี 2552 ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 63.2 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลรายปีในอัตราร้อยละ 6.5 สำหรับนักลงทุนประเภท ก. เป็นระดับที่สูงกว่าอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 4 ปี ที่ประมาณอัตราร้อยละ 3.17 และสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปี ที่ประมาณอัตราร้อยละ 0.79
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์จะประกาศวันงดจ่ายเงินปันผล (XD) ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2553 และศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ จะทำการปิดสมุดทะเบียน (XR) ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2553 และผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้รับเงินปันผลในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2553
อย่างไรก็ตาม กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง มีขนาดมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2552 เท่ากับ 148,455.40 ล้านบาท และมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อหน่วยลงทุนของนักลงทุนประเภท ก (นักลงทุนทั่วไป) เท่ากับ 10.7961 บาท กองทุนเป็นกองทุนรวมผสมแบบยืดหยุ่นซึ่งมีนโยบายการลงทุนทั้งในตราสารแห่งทุนและตราสารแห่งหนี้ โดยปัจจุบันลงทุนในตราสารแห่งทุนประมาณอัตราร้อยละ 80 และ ตราสารแห่งหนี้ ประมาณอัตราร้อยละ 20
