บลจ.ยูโอบี (ไทย) เตรียมส่งกองทุนโรลโอเวอร์ 3 โครางการลุยต่อ เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ และรัฐวิสาหกิจ ตลอดจนเงินฝาก โดยมีอายุโครงการให้เลือกทั้งแบบ 3 เดือนและ 6 เดือน เปิดขายในวันที่ 8 – 12 ธ.ค.นี้ การันตผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนล่าสุดโตกว่าเกณฑ์มาตรฐาน
รายงานจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนสำหรับรอบระยะการลงทุนใหม่ (โรลโอเวอร์) ของกองทุนรวมตราสารหนี้จำนวน 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดยูโอบี มันนี่ ฟันด์ 3 (UOBMF3) มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท อายุประมาณ 3 เดือน กองทุนเปิดยูโอบี โพรเทค 3 เอ็ม 1 (UOB Protect 3M1) มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท อายุประมาณ 3 เดือน และกองทุนเปิดยูโอบี โพรเทค 6 เอ็ม 3 (UOB Protect 6M3) มูลค่าโครงการ 10,000 ล้านบาท อายุประมาณ 6 เดือน โดยจะเปิดจองซื้ออีกครั้งในวันที่ 8 - 12 ธันวาคม 2551 มูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท
สำหรับกองทุนเปิดยูโอบี มันนี่ ฟันด์ 3 จะมุ่งลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นเป็นหลัก เพื่อลดความผันผวนของการลงทุนจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย โดยคาดหวังผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากประจำระยะสั้นของธนาคารพาณิชย์ ทั้งนี้จะไม่ลงทุนหรือมีไว้ในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ตราสารหนี้ ที่มีผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร (Structured Notes) และหลักทรัพย์ หรือตราสารที่เสนอขายในต่างประเทศ
โดยมีผลการการดำเนินงานของกองทุน ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2551 ย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 3.22% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.76% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 2.92% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.69% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 2.85% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.53% และมีผลการดำเนินงานย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 2.85% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.56%
ขณะที่ กองทุนเปิดยูโอบี โพรเทค 3 เอ็ม 1 จะลงทุนเฉพาะในตราสารหนี้ภาครัฐ และรัฐวิสาหกิจที่มีกระทรวงการคลังค้ำประกัน พันธบัตรที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือบัตรเงินฝากที่บริษัทเงินทุนหรือบริษัทเครดิตฟองซิเอร์เป็นผู้ออกเพื่อการกู้ยืมหรือรับเงินจากประชาชนเงินฝาก หรือบัตรเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์เป็นผู้ออก ที่มีวันครบกำหนดอายุตราสารภายใน หรือใกล้เคียงกับรอบการเปิดให้ทำการซื้อขายหน่วยลงทุน (ประมาณ 3 เดือน) แต่จะไม่ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหลักทรัพย์หรือตราสารที่เสนอขายในต่างประเทศ, ตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร (Structured Notes) และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ซึ่งผลการการดำเนินงานของกองทุน ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2551 ย้อนหลัง 3 เดือนพบว่าอยู่ที่ 3.08% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.37% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 2.88% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.31% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 2.79% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.21% ย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 3.42% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.83% และมีผลการดำเนินงานย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 2.81% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.23%
ส่วน กองทุนเปิดยูโอบี โพรเทค 6 เอ็ม 3 จะลงทุนเฉพาะในตราสารหนี้ภาครัฐ และรัฐวิสาหกิจที่มีกระทรวงการคลังค้ำประกัน พันธบัตรที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือบัตรเงินฝากที่บริษัทเงินทุน หรือ บริษัทเครดิตฟองซิเอร์เป็นผู้ออกเพื่อการกู้ยืมหรือรับเงินจากประชาชนเงินฝากหรือบัตรเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์เป็นผู้ออก ที่มีวันครบกำหนดอายุตราสารภายในหรือใกล้เคียงกับรอบการเปิดให้ทำการซื้อขายหน่วยลงทุน (ประมาณ 6 เดือน) แต่จะไม่ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหลักทรัพย์หรือตราสารที่เสนอขายในต่างประเทศ ,ตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร (Structure Note) และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivative)
โดยผลการการดำเนินงานของกองทุน ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2551 พบว่า มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 3.06% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.50% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 2.86% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.41% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 2.89% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.28% ย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 3.33% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.83% และมีผลการดำเนินงานย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 2.95% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.29%
รายงานจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนสำหรับรอบระยะการลงทุนใหม่ (โรลโอเวอร์) ของกองทุนรวมตราสารหนี้จำนวน 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดยูโอบี มันนี่ ฟันด์ 3 (UOBMF3) มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท อายุประมาณ 3 เดือน กองทุนเปิดยูโอบี โพรเทค 3 เอ็ม 1 (UOB Protect 3M1) มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท อายุประมาณ 3 เดือน และกองทุนเปิดยูโอบี โพรเทค 6 เอ็ม 3 (UOB Protect 6M3) มูลค่าโครงการ 10,000 ล้านบาท อายุประมาณ 6 เดือน โดยจะเปิดจองซื้ออีกครั้งในวันที่ 8 - 12 ธันวาคม 2551 มูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท
สำหรับกองทุนเปิดยูโอบี มันนี่ ฟันด์ 3 จะมุ่งลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นเป็นหลัก เพื่อลดความผันผวนของการลงทุนจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย โดยคาดหวังผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากประจำระยะสั้นของธนาคารพาณิชย์ ทั้งนี้จะไม่ลงทุนหรือมีไว้ในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ตราสารหนี้ ที่มีผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร (Structured Notes) และหลักทรัพย์ หรือตราสารที่เสนอขายในต่างประเทศ
โดยมีผลการการดำเนินงานของกองทุน ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2551 ย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 3.22% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.76% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 2.92% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.69% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 2.85% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.53% และมีผลการดำเนินงานย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 2.85% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.56%
ขณะที่ กองทุนเปิดยูโอบี โพรเทค 3 เอ็ม 1 จะลงทุนเฉพาะในตราสารหนี้ภาครัฐ และรัฐวิสาหกิจที่มีกระทรวงการคลังค้ำประกัน พันธบัตรที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือบัตรเงินฝากที่บริษัทเงินทุนหรือบริษัทเครดิตฟองซิเอร์เป็นผู้ออกเพื่อการกู้ยืมหรือรับเงินจากประชาชนเงินฝาก หรือบัตรเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์เป็นผู้ออก ที่มีวันครบกำหนดอายุตราสารภายใน หรือใกล้เคียงกับรอบการเปิดให้ทำการซื้อขายหน่วยลงทุน (ประมาณ 3 เดือน) แต่จะไม่ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหลักทรัพย์หรือตราสารที่เสนอขายในต่างประเทศ, ตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร (Structured Notes) และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ซึ่งผลการการดำเนินงานของกองทุน ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2551 ย้อนหลัง 3 เดือนพบว่าอยู่ที่ 3.08% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.37% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 2.88% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.31% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 2.79% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.21% ย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 3.42% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.83% และมีผลการดำเนินงานย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 2.81% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.23%
ส่วน กองทุนเปิดยูโอบี โพรเทค 6 เอ็ม 3 จะลงทุนเฉพาะในตราสารหนี้ภาครัฐ และรัฐวิสาหกิจที่มีกระทรวงการคลังค้ำประกัน พันธบัตรที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือบัตรเงินฝากที่บริษัทเงินทุน หรือ บริษัทเครดิตฟองซิเอร์เป็นผู้ออกเพื่อการกู้ยืมหรือรับเงินจากประชาชนเงินฝากหรือบัตรเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์เป็นผู้ออก ที่มีวันครบกำหนดอายุตราสารภายในหรือใกล้เคียงกับรอบการเปิดให้ทำการซื้อขายหน่วยลงทุน (ประมาณ 6 เดือน) แต่จะไม่ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหลักทรัพย์หรือตราสารที่เสนอขายในต่างประเทศ ,ตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร (Structure Note) และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivative)
โดยผลการการดำเนินงานของกองทุน ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2551 พบว่า มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 3.06% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.50% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 2.86% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.41% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 2.89% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.28% ย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 3.33% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.83% และมีผลการดำเนินงานย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 2.95% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.29%