บลจ.วรรณ เพิ่มทุน กองทุนเปิด"ONE-PROP" อีก 700 ล้านบาท จาก 300 ล้านบาท เป็น 1,000 ล้านบาท เพื่อรองรับดีมานด์จากนักลงทุนที่ทยอยเข้ามาลงทุนไม่ขาดสาย ล่าสุด เผยกลยุทธ์การบริหารเน้นเข้าเก็บหุ้นที่มีการจ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอ พร้อมแจ้งข่าวดี เตรียมรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ (Auto Redemption) ครั้งแรกได้ประมาณเดือนมีนาคมนี้
นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม(บลจ.) วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ ได้ปิดการเสนอขาย (IPO) กองทุนเปิด วรรณ พร็อพเพอร์ตี้ พลัส ฟันด์ (ONE PROPERTY PLUS FUND: ONE-PROP) ไปเมื่อวันที่ 16 พ.ย. 52 โดยปัจจุบัน กองทุนดังกล่าวนักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในกองทุนเปิดONE-PROP เป็นจำนวนมาก และล่าสุด ณ วันที่ 11 มกราคม 2553 มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 269.68 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการที่ 300 ล้าน จึงส่งผลให้บลจ.วรรณได้ทำการจดทะเบียนเพิ่มทุนอีก 700 ล้านบาท รวมเป็นจำนวนเงินทุนของโครงการ 1,000 ล้านบาท เพื่อเปิดโอกาสให้กับผู้ลงทุนที่สนใจจะลงทุนในกองทุนนี้
ทั้งนี้ การจดทะเบียนเพิ่มทุนของกองทุนเปิด ONE-PROP จาก 300 ล้านบาทเป็น 1,000 ล้านบาท เป็นการเพิ่มทุนเพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุน โดยที่ผ่านมาหลังจากที่ได้เปิดขายกองทุนไปเป็นเวลาไม่ถึง 3 เดือนนักลงทุนได้เข้ามาลงทุนในกองทุนจนเกือบเต็มมูลค่าโครงการที่ตั้งเอาไว้ในช่วงที่จัดตั้งกองทุน ขณะเดียวกัน จากการเข้าไปเยี่ยมชมการทำงานของหลายบริษัทที่กองทุนเปิดONE-PROP ได้เข้าไปลงทุน พบว่าหุ้นในบริษัทดังกล่าวนั้นให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าที่ได้มีการคาดการณ์กันไว้ จึงทำให้บริษัทตัดสินใจเพิ่มทุนในครั้งนี้
สำหรับพอร์ตการลงทุนของกองทุนเปิดONE-PROP บริษัทได้มีการปรับพอร์ตการลงทุนอย่างต่อเนื่องโดยการเลือกหุ้นที่มีพื้นฐานดีเข้าเก็บไว้ในพอร์ตการลงทุน ซึ่งการปรับพอร์ตของบริษัทนั้น จะพิจารณาในเรื่องของผลตอบแทนของกองทุนที่เข้าไปลงทุนว่ากองทุนอสังหาริมทรัพย์กองไหนให้ผลตอบแทนที่เท่าไหร่ และเลือกขายหน่วยลงทุนของกองทุนที่ให้ผลตอบแทนน้อยออกไป แล้วเลือกซื้อหุ้นที่มีการจ่ายผลตอบแทนและมีการเติบโตที่ดีเข้ามาเก็บไว้แทน
"กองทุนเปิดONE-PROPมีหุ้นหลักๆอยู่ในพอร์ตการลงทุนของกองทุนได้ แก่ CPNRF สนามบินสมุย ฟิวเจอร์พาร์ค เป็นต้น โดยกองทุนเหล่านี้ เรามองว่าสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนได้"นายมนรัฐกล่าว
กองทุนเปิด วรรณ พร็อพเพอร์ตี้ พลัส ฟันด์ (ONE-PROP) เป็นกองทุนรวมที่ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยเฉลี่ยในรอบระยะเวลาบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยผู้ลงทุนสามารถซื้อหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ และสามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ทุกวันที่ 1 และวันที่ 16 ของเดือน โดย ณ วันที่ 11 ม.ค. 53 กองทุนมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 269.68 ล้านบาท และมูลค่าหน่วยลงทุนเท่ากับ 10.2684 บาท
นายมนรัฐ กล่าวอีกว่า สำหรับกองทุนเปิด ONE-PROP มีการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง และกองทุนไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล แต่กองทุนจะมีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ ปีละไม่เกิน 4 ครั้ง โดยจะจัดสรรจากเงินที่ได้รับจากเงินปันผลของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่กองทุนได้เข้าไปลงทุน ซึ่งกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่ กองทุนเปิด ONE-PROP ไปลงทุนนั้น มีการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ
"การลงทุนในกองทุนเปิด ONE-PROP จะทำให้ผู้ลงทุนได้รับเงินคืนเป็นระยะๆ คล้ายกับได้รับดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร โดยเราคาดว่ากองทุนดังกล่าวจะสามารถรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ (Auto Redemption) ครั้งแรกได้ประมาณเดือนมีนาคม กองทุน ONE-PROP ซึ่งจึงเป็นอีกทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงเพื่อเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น โดยนักลงทุนสามารถเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ได้ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 10,000 บาทเท่านั้น"นายมนรัฐกล่าว
นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม(บลจ.) วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ ได้ปิดการเสนอขาย (IPO) กองทุนเปิด วรรณ พร็อพเพอร์ตี้ พลัส ฟันด์ (ONE PROPERTY PLUS FUND: ONE-PROP) ไปเมื่อวันที่ 16 พ.ย. 52 โดยปัจจุบัน กองทุนดังกล่าวนักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในกองทุนเปิดONE-PROP เป็นจำนวนมาก และล่าสุด ณ วันที่ 11 มกราคม 2553 มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 269.68 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการที่ 300 ล้าน จึงส่งผลให้บลจ.วรรณได้ทำการจดทะเบียนเพิ่มทุนอีก 700 ล้านบาท รวมเป็นจำนวนเงินทุนของโครงการ 1,000 ล้านบาท เพื่อเปิดโอกาสให้กับผู้ลงทุนที่สนใจจะลงทุนในกองทุนนี้
ทั้งนี้ การจดทะเบียนเพิ่มทุนของกองทุนเปิด ONE-PROP จาก 300 ล้านบาทเป็น 1,000 ล้านบาท เป็นการเพิ่มทุนเพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุน โดยที่ผ่านมาหลังจากที่ได้เปิดขายกองทุนไปเป็นเวลาไม่ถึง 3 เดือนนักลงทุนได้เข้ามาลงทุนในกองทุนจนเกือบเต็มมูลค่าโครงการที่ตั้งเอาไว้ในช่วงที่จัดตั้งกองทุน ขณะเดียวกัน จากการเข้าไปเยี่ยมชมการทำงานของหลายบริษัทที่กองทุนเปิดONE-PROP ได้เข้าไปลงทุน พบว่าหุ้นในบริษัทดังกล่าวนั้นให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าที่ได้มีการคาดการณ์กันไว้ จึงทำให้บริษัทตัดสินใจเพิ่มทุนในครั้งนี้
สำหรับพอร์ตการลงทุนของกองทุนเปิดONE-PROP บริษัทได้มีการปรับพอร์ตการลงทุนอย่างต่อเนื่องโดยการเลือกหุ้นที่มีพื้นฐานดีเข้าเก็บไว้ในพอร์ตการลงทุน ซึ่งการปรับพอร์ตของบริษัทนั้น จะพิจารณาในเรื่องของผลตอบแทนของกองทุนที่เข้าไปลงทุนว่ากองทุนอสังหาริมทรัพย์กองไหนให้ผลตอบแทนที่เท่าไหร่ และเลือกขายหน่วยลงทุนของกองทุนที่ให้ผลตอบแทนน้อยออกไป แล้วเลือกซื้อหุ้นที่มีการจ่ายผลตอบแทนและมีการเติบโตที่ดีเข้ามาเก็บไว้แทน
"กองทุนเปิดONE-PROPมีหุ้นหลักๆอยู่ในพอร์ตการลงทุนของกองทุนได้ แก่ CPNRF สนามบินสมุย ฟิวเจอร์พาร์ค เป็นต้น โดยกองทุนเหล่านี้ เรามองว่าสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนได้"นายมนรัฐกล่าว
กองทุนเปิด วรรณ พร็อพเพอร์ตี้ พลัส ฟันด์ (ONE-PROP) เป็นกองทุนรวมที่ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยเฉลี่ยในรอบระยะเวลาบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยผู้ลงทุนสามารถซื้อหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ และสามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ทุกวันที่ 1 และวันที่ 16 ของเดือน โดย ณ วันที่ 11 ม.ค. 53 กองทุนมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 269.68 ล้านบาท และมูลค่าหน่วยลงทุนเท่ากับ 10.2684 บาท
นายมนรัฐ กล่าวอีกว่า สำหรับกองทุนเปิด ONE-PROP มีการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง และกองทุนไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล แต่กองทุนจะมีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ ปีละไม่เกิน 4 ครั้ง โดยจะจัดสรรจากเงินที่ได้รับจากเงินปันผลของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่กองทุนได้เข้าไปลงทุน ซึ่งกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่ กองทุนเปิด ONE-PROP ไปลงทุนนั้น มีการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ
"การลงทุนในกองทุนเปิด ONE-PROP จะทำให้ผู้ลงทุนได้รับเงินคืนเป็นระยะๆ คล้ายกับได้รับดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร โดยเราคาดว่ากองทุนดังกล่าวจะสามารถรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ (Auto Redemption) ครั้งแรกได้ประมาณเดือนมีนาคม กองทุน ONE-PROP ซึ่งจึงเป็นอีกทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงเพื่อเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น โดยนักลงทุนสามารถเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ได้ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 10,000 บาทเท่านั้น"นายมนรัฐกล่าว
