บลจ.กสิกรไทย ชี้นักลงทุนหน้าใหม่แห่ลงทุน LTF-RMF เพิ่มกว่า 2 หมื่นราย ดันยอดลงทุนปี 52 แตะ 9 พันล้านบาท เตรียมเดินหน้ากลยุทธ์ปีเสืออัดแคมเปญพร้อมข้อมูลเชิงลึก เพื่อการตัดสินใจแก่ลูกค้ามากขึ้น หลังยอดโปโมชั่นซื้อผ่านบัตรเครดิตฉลุยจ่าย Cash Back คืนนักลงทุนได้กว่า 47 ล้านบาท
นายรพี สุจริตกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทย เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา(2552) มีผู้ลงทุนรายใหม่ที่ให้ความสนใจซื้อกองทุน LTF และ RMF ของบลจ.กสิกรไทย เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากถึง 23,355 ราย หรือ เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.36 จากปี 2551 ส่งผลให้ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2552 กองทุน LTF ภายใต้การบริหารของบลจ.กสิกรไทย มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ทั้งสิ้น 21,428 ล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 25.06 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 22.36 ในปี 2551 ในขณะที่กองทุน RMF ภายใต้การบริหารของ บลจ.กสิกรไทย มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 16,914 ล้านบาท รักษาส่วนแบ่งการตลาดที่ร้อยละ 28.89
ทั้งนี้ ต้องขอแสดงความขอบคุณผู้ลงทุนที่ให้ความไว้วางใจลงทุนในกองทุน LTF และ RMF ในปี 2552 อย่างล้นหลาม ซึ่งเป็นผลมาจากความสนใจในการลงทุนเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เพิ่มขึ้น รวมถึงความตั้งใจของบลจ.กสิกรไทยในการตอบแทนผู้ลงทุนด้วยการมอบ Cash Back สูงสุดถึง 12,000 บาท
และการอำนวยความสะดวกด้วยการซื้อผ่านบัตรเครดิตกสิกรไทย และให้คะแนนสะสม 25 บาทต่อ 1 คะแนน ซึ่งถือเป็นการต่อยอดให้ผู้ลงทุนได้นำคะแนนสะสมจากการซื้อกองทุนซึ่งสูงสุดถึง 60,000 คะแนนไปแลกเป็นของสมนาคุณอื่นๆ ที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นคะแนนสะสมรอยัลออคิด พลัส หรือ ตั๋วเครื่องบินของสายการบินที่ร่วมรายการ
“ยอดซื้อสุทธิของกองทุน LTF และ RMF ในปี 2552 ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 8,000-9,000 ล้านบาท ในขณะที่ประมาณการยอด Cash Back ที่จะตอบแทนให้กับผู้ลงทุนมีมูลค่าถึง 47 ล้านบาท ทั้งนี้โปรโมชั่น Cash Back และการเปิดให้ซื้อกองทุน LTF และ RMF ด้วยบัตรเครดิตกสิกรไทยยังมีต่อเนื่องถึงวันที่ 29 มกราคม 2553 และ บลจ.กสิกรไทยจะทำการโอน Cash Back เข้าบัญชีเงินฝาก และโอนคะแนนสะสมบัตรเครดิตภายในเดือนมีนาคม 2553” นายรพีกล่าว
นายรพี กล่าวต่อว่า ความสำเร็จที่ได้รับเป็นการแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่ครอบคลุมทุกสื่ออย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ วิทยุ อินเตอร์เน็ท โดยเฉพาะโฆษณาทางโทรทัศน์ รวมถึงการขยายเวลาทำการของบางสาขาถึงเวลา 21.00 น ในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของเดือนธันวาคม จากแคมเปญ KBank Extra Hour ช่วยเพิ่มความสะดวกในการซื้อกองทุน LTF และ RMF มากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ เป้าหมายของบลจ.กสิกรไทย ในปี 2553 นี้ คือการให้ข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจลงทุนในกองทุน LTF และ RMF ไม่ว่าจะเป็นมุมมองการลงทุนจากผู้จัดการกองทุน การรายงานสภาวะตลาดอย่างต่อเนื่อง ผ่านเว็บไซต์ของบลจ.กสิกรไทย เพื่อความพึงพอใจสูงสุดของผู้ลงทุนและตอบโจทย์การลงทุนเพื่อชีวิตเอกเขนกอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม กระแสการตอบรับกองทุน LTF และ RMF ที่ดีเกินคาดในช่วงเวลาดังกล่าว ทำให้ผู้ลงทุนต้องรอทำรายการซื้อกองทุนที่สาขาธนาคารกสิกรไทยเป็นเวลานาน ซึ่งบลจ.กสิกรไทยต้องขออภัยในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น และบริษัทพร้อมที่จะปรับปรุงบริการให้รวดเร็วยิ่งขึ้น รวมถึงได้เตรียมบริการใหม่ๆ ไว้เพื่ออำนวยความสะดวกและลดเวลาในการเดินทางมาทำรายการที่สาขา นอกจากนี้ผู้ลงทุนยังสามารถใช้บริการ K-Cyber Invest ซึ่งช่วยให้ผู้ลงทุนทำการซื้อขายสับเปลี่ยนกองทุนได้สะดวกรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์การลงทุน