บลจ.กสิกรไทย เตรียมจ่ายปันผลกองอสังหาเซ็นทารา รอบ 4 อัตราหน่วยละ 0.1531 บาท หลังดำเนินงานมากว่า 1 ปี นักลงทุนเตรียมรับพร้อมกัน 4 ธันวาคมนี้ ด้าน"รพี"จ่อเจรจาเปิดกองทุนอสังหาเพิ่ม ส่วนสถาการณ์ท่องเที่ยวไทยQ4 อาจปรับตัวดีขึ้น หลังเข้าช่วงไอซีซั่นของชาวยุโรป
รายงานจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า คณะกรรมการพิจารณาการลงทุนของบริษัทได้พิจารณาและมีมติ ให้จ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานของกองทุนสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม ถึง 30 กันยายน 2552 ในอัตราหน่วยละ 0.1531 บาทต่อหน่วย แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา (CTARAF) ที่มีชื่อในสมุดทะเบียน ณ วันที่ 26 พฤศจิกายน 2552 โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 4 ธันวาคม 2552
สำหรับกองทุน CTARAF จะลงทุนในสิทธิการเช่าระยะเวลา 30 ปี ของโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ทสมุย ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวที่ตั้งอยู่บนหากเฉวง จังหวัดสุราษฎร์ธานี เนื้อที่ประมาณ 25 ไร่ และจะมีโครงสร้างการลงทุนจากผู้ลงทุนทั่วไปจำนวน 67-75% และอีก 25-33% เป็นผู้ลงทุนทั่วไปรวมถึงสถาบัน ซึ่งจะมีการจ่ายเงินปันผล 4 ครั้งต่อปี และรับประกันรายได้ค่าเช่าสะสมของกองทุนรวมไม่ต่ำกว่า 9% ต่อปี เป็นระยะเวลา 4 ปีเต็ม
ส่วนประวัติการจ่ายเงินปันผลนั้น กองทุน CTARAF ทำการจ่ายเงินปันผลไปแล้วจำนวน 3 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 จ่ายเงินปันผลไปจำนวน 0.2324 บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 8.68% ครั้งที่ 2 จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.1718 บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 6.97% และครั้งที่ 3 จ่ายผลตอบแทนในอัตรา 0.1715 บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 6.88%
อนึ่ง โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ทสมุย บริหารโดยบมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนโรงแรมภายใต้การบริหาร 12 โรงแรม จำนวนห้องพัก 2,799 ห้อง และคาดว่าในอนาคตกองทุนนี้จะมีขนาดใหญ่ขึ้น เนื่องจาก กลุ่ม CENTEL จะนำโรงแรมในเครือเซ็นทาราเข้ามารวมในกองทุนนี้ด้วย
นอกจากนี้ นายรพี สุจริตกุล ประธานกรรมการบริหาร บลจ. กสิกรไทย เปิดเผยว่า นอกจาการเปิดขายกองทุนรวมหุ้นและตราสารหนี้แล้ว ในส่วนของกองทุนอสังหาริมทรัพย์ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างเจรจากับเจ้าของสินทรัพย์อยู่ ซึ่งการจัดทำกองทุนอสังหาริมทรัพย์นั้นค่อนข้างจะยาก แต่อย่างไรก็ตามกองทุนประเภทนี้ยังอยู่ในแผนงานของบริษัทต่อไป
ด้าน สถาการณ์การท่องเที่ยของประเทศไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันนับเป็นช่วงไฮซีซั่นโดยเฉพาะตลาดยุโรปที่เป็นลูกค้าส่วนใหญ่ของประเทศนั้น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ได้มีการรณรงค์และกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้มีการอัดแคมเปญช่วงโค้งสุดท้ายที่เหลือของปี 2552 ขณะที่ยอดตัวเลขนักท่องเที่ยวยุโรปตั้งแต่ ม.ค.-ก.ย. 2552 มีจำนวน 2,676,780 คนลดลงจากระยะเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อย แต่จนถึงสิ้นปีมีเป้าหมายจะผลักดันนักท่องเที่ยวยุโรปให้ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว 3.8 ล้านคน
รายงานจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า คณะกรรมการพิจารณาการลงทุนของบริษัทได้พิจารณาและมีมติ ให้จ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานของกองทุนสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม ถึง 30 กันยายน 2552 ในอัตราหน่วยละ 0.1531 บาทต่อหน่วย แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา (CTARAF) ที่มีชื่อในสมุดทะเบียน ณ วันที่ 26 พฤศจิกายน 2552 โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 4 ธันวาคม 2552
สำหรับกองทุน CTARAF จะลงทุนในสิทธิการเช่าระยะเวลา 30 ปี ของโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ทสมุย ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวที่ตั้งอยู่บนหากเฉวง จังหวัดสุราษฎร์ธานี เนื้อที่ประมาณ 25 ไร่ และจะมีโครงสร้างการลงทุนจากผู้ลงทุนทั่วไปจำนวน 67-75% และอีก 25-33% เป็นผู้ลงทุนทั่วไปรวมถึงสถาบัน ซึ่งจะมีการจ่ายเงินปันผล 4 ครั้งต่อปี และรับประกันรายได้ค่าเช่าสะสมของกองทุนรวมไม่ต่ำกว่า 9% ต่อปี เป็นระยะเวลา 4 ปีเต็ม
ส่วนประวัติการจ่ายเงินปันผลนั้น กองทุน CTARAF ทำการจ่ายเงินปันผลไปแล้วจำนวน 3 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 จ่ายเงินปันผลไปจำนวน 0.2324 บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 8.68% ครั้งที่ 2 จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.1718 บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 6.97% และครั้งที่ 3 จ่ายผลตอบแทนในอัตรา 0.1715 บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 6.88%
อนึ่ง โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ทสมุย บริหารโดยบมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนโรงแรมภายใต้การบริหาร 12 โรงแรม จำนวนห้องพัก 2,799 ห้อง และคาดว่าในอนาคตกองทุนนี้จะมีขนาดใหญ่ขึ้น เนื่องจาก กลุ่ม CENTEL จะนำโรงแรมในเครือเซ็นทาราเข้ามารวมในกองทุนนี้ด้วย
นอกจากนี้ นายรพี สุจริตกุล ประธานกรรมการบริหาร บลจ. กสิกรไทย เปิดเผยว่า นอกจาการเปิดขายกองทุนรวมหุ้นและตราสารหนี้แล้ว ในส่วนของกองทุนอสังหาริมทรัพย์ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างเจรจากับเจ้าของสินทรัพย์อยู่ ซึ่งการจัดทำกองทุนอสังหาริมทรัพย์นั้นค่อนข้างจะยาก แต่อย่างไรก็ตามกองทุนประเภทนี้ยังอยู่ในแผนงานของบริษัทต่อไป
ด้าน สถาการณ์การท่องเที่ยของประเทศไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันนับเป็นช่วงไฮซีซั่นโดยเฉพาะตลาดยุโรปที่เป็นลูกค้าส่วนใหญ่ของประเทศนั้น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ได้มีการรณรงค์และกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้มีการอัดแคมเปญช่วงโค้งสุดท้ายที่เหลือของปี 2552 ขณะที่ยอดตัวเลขนักท่องเที่ยวยุโรปตั้งแต่ ม.ค.-ก.ย. 2552 มีจำนวน 2,676,780 คนลดลงจากระยะเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อย แต่จนถึงสิ้นปีมีเป้าหมายจะผลักดันนักท่องเที่ยวยุโรปให้ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว 3.8 ล้านคน
