บลจ.ฟิลลิป คาดปี 53 เม็ดเงินเกาหลีใต้ ทยอยเข้ากองทุนฟิลลิปบริหารเงิน หลังนักลงทุนโยกเงินไปบอนด์กิมจิ ล่าสุดเตรียมออกกองทุน FIF ลงทุนในหุ้นเอช แชร์ ปีหน้า
นายวรรธนะ วงศ์สีนิล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ฟิลลิป จำกัด เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในช่วงปี 2552 ว่า ขณะนี้ มูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การบริหารจัดการ หรือ AUM ของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 450 ล้านบาท โดยครึ่งปีเเรกนั้นบริษัทมี AUM อยู่ที่ 520 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้มูลค่าสินทรัพย์ฯลดลงเนื่องจาก นักลงทุนหันไปลงทุนในกองทุนพันธบัตรเกาหลีใต้ที่ให้ผลตอบเเทนสูงกว่ากองทุนตราสารหนี้ในประเทศ
ซึ่งทางบลจ.ฟิลลิปเองไม่มีการเปิดขายกองทุนพันธบัตรเกาหลีใต้เเต่อย่างใด ทั้งนี้เชื่อว่าหากกองทุนพันธบัตรเกาหลีใต้ทยอยครบอายุ เม็ดเงินดังกล่าวก็น่าจะไหลกลับเข้ามาในกองทุนเปิดฟิลลิปบริหารเงิน หรือ PCASH ของบลจ.ฟิลลิปเช่นกัน
ขณะที่เเนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในปี 2553 นั้นตนมองว่า น่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยประมาณกลางปี 2553 นี้ซึ่งอาจจะปรับขึ้นได้ไม่มากนัก เนื่องจากเเนวโน้มเศรษฐกิจในปีหน้านี้อาจจะยังฟื้นตัวไม่เเข่งเกร่งเท่าที่ควร ทำให้ธนาคารกลางเเห่งประเทศไทย (ธปท.) น่าจะคงดอกเบี้ยต่อไปอีกระยะหนึ่ง
นายวรรธนะ กล่าวอีกว่า ส่วนกระเเสการตอบรับกองทุนเปิด ฟิลลิป ทองคำ หรือ PGOLD นั้นนักลงทุนให้ความสนใจเเละทยอยเข้ามาลงทุนกับบลจ.เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อยมากกว่านักลงทุนสถาบัน เนื่องจาก กองทุนดังกล่าวเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน SPDR GOLD TRUST ซึ่งเป็นกองทุนทองที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ฮ่องกง
และกองทุนเปิด ฟิลลิป ทองคำ (PGOLD) ยังแตกต่างจากกองทุนประเภทเดียวกัน คือ การป้องกันความเสี่ยงจากการผันผวนของราคาทองคำด้วย Gold Future ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ อีกทั้งยังมีสภาพคล่องสูงอีกด้วย
สำหรับเเผนงานปี 2553 นั้นเรามีจะออกกองทุนรวมเอช แชร์ ซึ่งเป็นกองทุนหุ้นของบริษัทในประเทศจีนที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นประเทศฮ่องกองและสิงคโปร์ และเป็นกองทุนที่เราเข้าไปจัดตั้งบริหารกองทุนเองทั้งสิ้น
โดยกองทุนจะมีมูลค่าโครงการประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการรออนุมัติจากทาง ก.ล.ต. อยู่ ซึ่งสาเหตุที่จัดตั้งกองทุนดังกล่าวนั้น เนื่องจากว่าบริษัทได้เล็งเห็นในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ยังมีนักลงทุนกลุ่มหนึ่งยังชอบลงทุนในกองทุนประเภทดังกล่าวอยู่
"เมื่อจัดตั้งกองทุนดังกล่าวได้แล้วคาดว่าจะมีนักลงทุนฮ่องกงส่วนใหญ่เข้ามาลงทุน เพราะเนื่องจากว่าในฮ่องกงกองทุนประเทศดังกล่าวได้รับความนิยมจากนักลงทุนอยู่พอสมควร อีกทั้งค่าบริการกองทุนของบ้านก็มีราคาที่ถูกมาก เมื่อเทียบกับของฮ่องกงเอง" นายวรรธนะ กล่าว