คอลัมน์ คุยกับผู้จัดการกองทุน
โดยบลจ. แอสเซท พลัส
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (SET Index) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.83 จุดหรือ 0.56% โดย ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 52 SET Index ปิดที่ระดับ 689.07 และมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันประมาณ 18,506ล้านบาท ในช่วงแรกของเดือน SET Index ปรับตัวลดลงจากความกังวลของหุ้นในหมวดพลังงานหลังเกิดเหตุเพลิงไหม้แท่นขุดเจาะน้ำมัน “เวสต์ แอตลาส” ของบริษัท พีทีทีอีพี ออสเตรลาเซีย (บริษัทลูกของ PTTEP) ซึ่งถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 25 ปีในทะเลติมอร์ตะวันออก ประกอบกับความกังวลต่อการไต่สวนของศาลปกครองสูงสุดกรณีที่ศาลปกครองกลางสั่งให้ระงับการดำเนินกิจการของ 76 โครงการในพื้นที่มาบตาพุด และปัจจัยเสี่ยงทางการเมืองที่เพิ่มสูงขึ้นหลังจากกัมพูชาแต่งตั้งให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรเป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจและเป็นเหตุให้รัฐบาลเรียกตัวเอกอัครราชฑูตไทยกลับประเทศ โดย SET Index ปรับตัวลดลงและแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 666.81 ในวันที่ 3 พฤศจิกายน
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยปรับตัวดีขึ้นตามตลาดต่างประเทศหลังจากที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (FOMC) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0 – 0.25% ประกอบกับดัชนีภาคการผลิตในสหรัฐอเมริกาปรับตัวขึ้นและบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดย SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้นและแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 717.90 ในวันที่ 11 พฤศจิกายน หลังจากนั้น SET Index ปรับตัวลดลงอีกครั้งตามความกังวลกรณีที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) มีมตินัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 28 พ.ย. – 2 ธ.ค. เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา และถึงแม้ว่าในเวลาต่อมาสภาพัฒน์ประกาศตัวเลขการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจในไตรมาส 3 ปี 2552 ที่ระดับ -2.8% ซึ่งดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ประกอบกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดง มีมติเลื่อนการนัดชุมนุมใหญ่ออกไปก่อน แต่ SET Index ก็ยังคงปรับตัวลดลงตามตลาดหุ้นในภูมิภาคหลังจากที่บริษัท ดูไบ เวิลด์ ของรัฐบาลดูไบประกาศการเลื่อนชำระหนี้จำนวนหลายพันล้านดอลล่าร์สหรัฐและเป็นเหตุให้สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือมูดี้ส์ อินเวสเตอร์เซอร์วิส และสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของสถาบันการเงินในดูไบประกอบกับธนาคารกลางเวียดนามประกาศลดค่าเงินดองลง 5.2%
โดย SET Index ปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำกว่า 670 อีกครั้ง ในวันที่ 27 พฤศจิกายน หลังจากนั้นธนาคารกลาง UAE และ อาบูดาบีประกาศให้ความช่วยเหลือธนาคารของดูไบ จึงทำให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคปรับตัวดีขึ้นและทำให้ SET Index สามารถยืนเหนือระดับ 680 โดยในเดือนพฤศจิกายนนักลงทุนต่างชาติเป็นผู้ขายสุทธิ 13,135 ล้านบาท
คาดการณ์การลงทุนในเดือนธันวาคม
ในช่วงเดือนธันวาคม SET น่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 660-710 จุด โดยตลาดหุ้นน่าจะปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นหลังจากที่แรงขายทำกำไรของนักลงทุนต่างชาติเริ่มชะลอตัวลง ประกอบกับเม็ดเงินลงทุนจากกองทุนภาษีที่จะเข้ามาในช่วงปลายปีน่าจะทำให้นักลงทุนสถาบันในประเทศกลับเข้ามาซื้อหุ้นในตลาด อย่างไรก็ตาม มาตรการแก้ไขปัญหากรณีดูไบเวิลด์ตลอดจนผลกระทบต่อระบบสถาบันการเงินในภูมิภาค และปัจจัยการเมืองในประเทศยังเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
โดยบลจ. แอสเซท พลัส
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (SET Index) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.83 จุดหรือ 0.56% โดย ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 52 SET Index ปิดที่ระดับ 689.07 และมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันประมาณ 18,506ล้านบาท ในช่วงแรกของเดือน SET Index ปรับตัวลดลงจากความกังวลของหุ้นในหมวดพลังงานหลังเกิดเหตุเพลิงไหม้แท่นขุดเจาะน้ำมัน “เวสต์ แอตลาส” ของบริษัท พีทีทีอีพี ออสเตรลาเซีย (บริษัทลูกของ PTTEP) ซึ่งถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 25 ปีในทะเลติมอร์ตะวันออก ประกอบกับความกังวลต่อการไต่สวนของศาลปกครองสูงสุดกรณีที่ศาลปกครองกลางสั่งให้ระงับการดำเนินกิจการของ 76 โครงการในพื้นที่มาบตาพุด และปัจจัยเสี่ยงทางการเมืองที่เพิ่มสูงขึ้นหลังจากกัมพูชาแต่งตั้งให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรเป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจและเป็นเหตุให้รัฐบาลเรียกตัวเอกอัครราชฑูตไทยกลับประเทศ โดย SET Index ปรับตัวลดลงและแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 666.81 ในวันที่ 3 พฤศจิกายน
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยปรับตัวดีขึ้นตามตลาดต่างประเทศหลังจากที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (FOMC) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0 – 0.25% ประกอบกับดัชนีภาคการผลิตในสหรัฐอเมริกาปรับตัวขึ้นและบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดย SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้นและแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 717.90 ในวันที่ 11 พฤศจิกายน หลังจากนั้น SET Index ปรับตัวลดลงอีกครั้งตามความกังวลกรณีที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) มีมตินัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 28 พ.ย. – 2 ธ.ค. เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา และถึงแม้ว่าในเวลาต่อมาสภาพัฒน์ประกาศตัวเลขการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจในไตรมาส 3 ปี 2552 ที่ระดับ -2.8% ซึ่งดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ประกอบกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดง มีมติเลื่อนการนัดชุมนุมใหญ่ออกไปก่อน แต่ SET Index ก็ยังคงปรับตัวลดลงตามตลาดหุ้นในภูมิภาคหลังจากที่บริษัท ดูไบ เวิลด์ ของรัฐบาลดูไบประกาศการเลื่อนชำระหนี้จำนวนหลายพันล้านดอลล่าร์สหรัฐและเป็นเหตุให้สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือมูดี้ส์ อินเวสเตอร์เซอร์วิส และสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของสถาบันการเงินในดูไบประกอบกับธนาคารกลางเวียดนามประกาศลดค่าเงินดองลง 5.2%
โดย SET Index ปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำกว่า 670 อีกครั้ง ในวันที่ 27 พฤศจิกายน หลังจากนั้นธนาคารกลาง UAE และ อาบูดาบีประกาศให้ความช่วยเหลือธนาคารของดูไบ จึงทำให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคปรับตัวดีขึ้นและทำให้ SET Index สามารถยืนเหนือระดับ 680 โดยในเดือนพฤศจิกายนนักลงทุนต่างชาติเป็นผู้ขายสุทธิ 13,135 ล้านบาท
คาดการณ์การลงทุนในเดือนธันวาคม
ในช่วงเดือนธันวาคม SET น่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 660-710 จุด โดยตลาดหุ้นน่าจะปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นหลังจากที่แรงขายทำกำไรของนักลงทุนต่างชาติเริ่มชะลอตัวลง ประกอบกับเม็ดเงินลงทุนจากกองทุนภาษีที่จะเข้ามาในช่วงปลายปีน่าจะทำให้นักลงทุนสถาบันในประเทศกลับเข้ามาซื้อหุ้นในตลาด อย่างไรก็ตาม มาตรการแก้ไขปัญหากรณีดูไบเวิลด์ตลอดจนผลกระทบต่อระบบสถาบันการเงินในภูมิภาค และปัจจัยการเมืองในประเทศยังเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
