บลจ.แอสเซทพลัส กระตุ้นยอดกองทุนเปิดแอสเซทพลัสสมาร์ท 3 แนะจับจังหวะดัชนีปรับฐาน เก็บเข้าพอร์ตรับกำไรระยะยาว
นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงที่ตลาดหุ้นมีความผันผวนและมีการปรับฐาน การลงทุนโดยการตั้งเป้าหมายผลตอบแทน (ทาร์เก็ต ฟันด์) ที่แน่ชัดถือได้ว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ดังนั้น การลงทุนในกองทุนเปิดแอสเซทพลัสสมาร์ท 3 (ASP-SMART3) ที่ลงทุนในตลาดหุ้นไทย จึงถือเป็นการตอบโจทก์การลงทุนที่ดีสำหรับนักลงทุนเนื่องจากกองทุนดังกล่าวมีการกำหนดการผลตอบแทนที่ชัดเจนจากการลงทุน
โดยกองทุนASP-SMART3 มีระยะเวลาโครงการประมาณ 2 ปี โดยในช่วงระยะเวลาดังกล่าวเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนเพิ่มขึ้นทุก 0.50 บาท กองทุนจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนทุกรายภายใน 3 วันทำการ ซึ่งสามารถให้ผลตอบแทนที่มากกว่าดอกเบี้ยเงินฝากและสามารถที่จะชนะเงินเฟ้อได้ โดยผลตอบแทนขั้นต่ำของกองทุนนั้นอยู่ที่ประมาณ 5%
ขณะเดียวกัน การลงทุนในกองทุนASP-SMART3 ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน เนื่องจากว่ากองทุนมีความยืดหยุ่นในการลงทุนระหว่างตราสารทุนและตราสารหนี้ เพื่อให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ โดยเฉพาะในกรณีที่เกิดภาวะความผันผวนของตลาดหุ้นจนอาจส่งผลกระทบกับผลการดำเนินงานของกองทุน
"ลักษณะเด่นของกองทุน ASP-SMART3 เราจะใช้กลยุทธ์การบริหารกองทุนเชิงรุก และลงทุนแบบคัดเลือกหลักทรัพย์ตามปัจจัยพื้นฐาน โดยใช้อนุพันธ์ประกอบการบริหารกองทุนเพื่อลดความเสี่ยงในช่วงตลาดผันผวน (Minimize Downside) และผลตอบแทนจากการลงทุนได้รับการยกเว้นภาษี สำหรับ
ผู้ลงทุนประเภทบุคคลธรรมดา"นางสาวจารุลักษณ์ กล่าว
ด้านการคัดเลือกหุ้นที่จะลงทุน บริษัทจะเลือกลงทุนในบริษัทที่มีสินทรัพย์เป็นเงินสดอยู่ในระดับสูง บริษัทที่เป็นผู้นำอันดับต้น ๆ ของอุตสาหกรรม มีความสามารถในการจ่ายเงินปันผลในอัตราที่สูงและต่อเนื่อง โดยอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิหรือมีศักยภาพในการเติบโตสูง พร้อมทั้งได้รับประโยชน์โดยตรงจากการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจ และราคาอยู่ในระดับที่น่าลงทุน
นอกจากนี้ การลงทุนในกองทุนรวมหุ้นนั้นเมื่อเทียบกับการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) หรือกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (อาร์เอ็มเอฟ) ที่นักลงทุนส่วนใหญ่จะเข้ามาลงทุนในช่วงปลายปี จึงอยากแนะนำว่า การลงทุนในกองทุนทั้งสองชนิดนี้นักลงทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี แต่การลงทุนในกองทุนดังกล่าวจะมีข้อจำกัดในเรื่องของวงเงินที่ใช้ลงทุนต้องไม่เกิน 15% หรือประมาณ 500,000 บาท ขณะที่กองทุนASP-SMART3 จะไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของเงินที่จะเข้ามาลงทุน นักลงทุนสามารถที่จะลงทุนได้ตามที่ต้องการไม่จำกัดเงินลงทุน ดังนั้น หากนักลงทุนมีความต้องการที่จะลงทุนในตลาดหุ้นเพิ่ม กองทุนASP-SMART3 จึงถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจในขณะนี้
นางสาวจารุลักษณ์ กล่าวอีกว่า สำหรับกองทุน ASP-SMART3 มีอายุโครงการประมาณ 2 ปี โดยจะเสนอขายครั้งเดียว ตั้งแต่วันนี้ถึง 3 ธันวาคม 2552 ซึ่งกองทุนมีนโยบายการลงทุนแบบผสม โดยสามารถปรับสัดส่วนการลงทุนระหว่างตราสารทุนและตราสารหนี้ได้ เพื่อให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ ซึ่งจะส่งผลให้กองทุนมีความยืดหยุ่นในด้านการลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้น โดยเฉพาะในกรณีที่เกิดภาวะความผันผวนของตลาดหุ้นจนอาจส่งผลกระทบกับผลการดำเนินงานของกองทุน
นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงที่ตลาดหุ้นมีความผันผวนและมีการปรับฐาน การลงทุนโดยการตั้งเป้าหมายผลตอบแทน (ทาร์เก็ต ฟันด์) ที่แน่ชัดถือได้ว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ดังนั้น การลงทุนในกองทุนเปิดแอสเซทพลัสสมาร์ท 3 (ASP-SMART3) ที่ลงทุนในตลาดหุ้นไทย จึงถือเป็นการตอบโจทก์การลงทุนที่ดีสำหรับนักลงทุนเนื่องจากกองทุนดังกล่าวมีการกำหนดการผลตอบแทนที่ชัดเจนจากการลงทุน
โดยกองทุนASP-SMART3 มีระยะเวลาโครงการประมาณ 2 ปี โดยในช่วงระยะเวลาดังกล่าวเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนเพิ่มขึ้นทุก 0.50 บาท กองทุนจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนทุกรายภายใน 3 วันทำการ ซึ่งสามารถให้ผลตอบแทนที่มากกว่าดอกเบี้ยเงินฝากและสามารถที่จะชนะเงินเฟ้อได้ โดยผลตอบแทนขั้นต่ำของกองทุนนั้นอยู่ที่ประมาณ 5%
ขณะเดียวกัน การลงทุนในกองทุนASP-SMART3 ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน เนื่องจากว่ากองทุนมีความยืดหยุ่นในการลงทุนระหว่างตราสารทุนและตราสารหนี้ เพื่อให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ โดยเฉพาะในกรณีที่เกิดภาวะความผันผวนของตลาดหุ้นจนอาจส่งผลกระทบกับผลการดำเนินงานของกองทุน
"ลักษณะเด่นของกองทุน ASP-SMART3 เราจะใช้กลยุทธ์การบริหารกองทุนเชิงรุก และลงทุนแบบคัดเลือกหลักทรัพย์ตามปัจจัยพื้นฐาน โดยใช้อนุพันธ์ประกอบการบริหารกองทุนเพื่อลดความเสี่ยงในช่วงตลาดผันผวน (Minimize Downside) และผลตอบแทนจากการลงทุนได้รับการยกเว้นภาษี สำหรับ
ผู้ลงทุนประเภทบุคคลธรรมดา"นางสาวจารุลักษณ์ กล่าว
ด้านการคัดเลือกหุ้นที่จะลงทุน บริษัทจะเลือกลงทุนในบริษัทที่มีสินทรัพย์เป็นเงินสดอยู่ในระดับสูง บริษัทที่เป็นผู้นำอันดับต้น ๆ ของอุตสาหกรรม มีความสามารถในการจ่ายเงินปันผลในอัตราที่สูงและต่อเนื่อง โดยอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิหรือมีศักยภาพในการเติบโตสูง พร้อมทั้งได้รับประโยชน์โดยตรงจากการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจ และราคาอยู่ในระดับที่น่าลงทุน
นอกจากนี้ การลงทุนในกองทุนรวมหุ้นนั้นเมื่อเทียบกับการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) หรือกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (อาร์เอ็มเอฟ) ที่นักลงทุนส่วนใหญ่จะเข้ามาลงทุนในช่วงปลายปี จึงอยากแนะนำว่า การลงทุนในกองทุนทั้งสองชนิดนี้นักลงทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี แต่การลงทุนในกองทุนดังกล่าวจะมีข้อจำกัดในเรื่องของวงเงินที่ใช้ลงทุนต้องไม่เกิน 15% หรือประมาณ 500,000 บาท ขณะที่กองทุนASP-SMART3 จะไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของเงินที่จะเข้ามาลงทุน นักลงทุนสามารถที่จะลงทุนได้ตามที่ต้องการไม่จำกัดเงินลงทุน ดังนั้น หากนักลงทุนมีความต้องการที่จะลงทุนในตลาดหุ้นเพิ่ม กองทุนASP-SMART3 จึงถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจในขณะนี้
นางสาวจารุลักษณ์ กล่าวอีกว่า สำหรับกองทุน ASP-SMART3 มีอายุโครงการประมาณ 2 ปี โดยจะเสนอขายครั้งเดียว ตั้งแต่วันนี้ถึง 3 ธันวาคม 2552 ซึ่งกองทุนมีนโยบายการลงทุนแบบผสม โดยสามารถปรับสัดส่วนการลงทุนระหว่างตราสารทุนและตราสารหนี้ได้ เพื่อให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ ซึ่งจะส่งผลให้กองทุนมีความยืดหยุ่นในด้านการลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้น โดยเฉพาะในกรณีที่เกิดภาวะความผันผวนของตลาดหุ้นจนอาจส่งผลกระทบกับผลการดำเนินงานของกองทุน