บลจ.กรุงไทย ส่งกองทุนตราสารหนี้ 2 สัญชาติ จับบอนด์สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พ่วงบอนด์เกาหลีใต้ กระจายสัดส่วน 75/25 ล็อกเงินยาว 2 ปี 11 เดือน ชูผลตอบเเทน 3.00% ต่อปี เปิดขายหน่วยลงทุนเเล้วตั้งเเต่วันนี้ถึง 24 พย.นี้
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ต้นปีบริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนตราสารหนี้ประเทศเกาหลีใต้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งฝ่ายจัดการลงทุนของบริษัทได้เฝ้าติดตามสถานะการลงทุนในประเทศเกาหลีใต้อย่างใกล้ชิด และเห็นว่าในรอบ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา แนวโน้มผลตอบแทนของพันธบัตรภาครัฐเกาหลีใต้เริ่มปรับตัวลดลง ตามพันธบัตรสหรัฐฯ และกระแสเงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรเกาหลีใต้ปรับตัวลดลง
ดังนั้น บริษัทจึงมองหาช่องทางการลงทุนอื่นๆ ที่ผู้ลงทุนมีโอกาสรับผลตอบแทนที่ดี จึงเสนอขายกองทุนรวมกรุงไทยตราสารหนี้ต่างประเทศ เอฟไอเอฟ 2 (KTFF2) ตั้งแต่วันนี้ถึง 24 พฤศจิกายน 2552
โดยกองทุนดังกล่าว มีนโยบายเน้นกระจายการลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลหรือบริษัทที่ถือหุ้นโดยรัฐบาลในตะวันออกกลาง ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านพลังงานในสัดส่วนประมาณ 75% ร่วมกับการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ในสัดส่วนประมาณ 25% โดยกองทุนมีอายุโครงการประมาณ 2 ปี 11 เดือน เเละมีขนาดของกองทุนประมาณ 400 ล้าน
"กองทุนกรุงไทยตราสารหนี้ต่างประเทศ เอฟไอเอฟ 2 ถือว่าเป็นกองทุนเเรกของประเทศไทย ที่เป็นกองทุนตราสารหนี้ผสมระหว่างเกาหลีใต้ เเละ UAE ซึ่งจริงๆเเล้วตราสารหนี้ของ UAE นั้นมีเครดิตเรทติ้ง AA ซึ่งสูงกว่าเกาหลีใต้ โดยตราสารหนี้ที่บลจ. เลือกลงทุนส่วนใหญ่จะเป็นบริษัท ที่รัฐบาลของยูเออี เป็นเจ้าของ หากว่ากองทุนนี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เราก็จะมีกองทุนในลักษณะดังกล่าวออกมาให้นักลงทุนได้เลือกลงทุนอีก" นายสมชัยกล่าว
โดยกองทุนนี้จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ในการกระจายการลงทุนไปยังกลุ่มประเทศผู้ผลิตพลังงาน ซึ่งมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง มีความเสี่ยงด้านเครดิตค่อนข้างต่ำ และเงินลงทุนในต่างประเทศจะมีการทำสัญญาป้องกันควาเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน
ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวจะลงทุนในพันธบัตรที่ออกโดยรัฐอาบูดาบี ซึ่งมีสถานะเป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ลงทุนในบริษัท ลาส รัฟฟาน ลิควีไฟด์ เนเชอรัล แก๊ส จำกัด ลงทุนในบริษัทอาบูดาบี เนชั่นแนล เอ็นเนอร์จี จำกัด (มหาชน) และลงทุนในพันธบัตรที่ออกโดยรัฐบาลเกาหลีใต้ ในสัดส่วนสถาบันละประมาณ 25 %ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนโดยผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณการที่ 3.00% ต่อปี 3.00% ต่อปี ซึ่งกองทุนจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทุก6เดือน
ขณะเดียวกันบลจ.ได้การจัดโปรโมชั่นสำหรับผู้ลงทุนในกองทุนดังกล่าว โดยลงทุน 5 ล้านบาทขึ้นไป รับ Cash Back มูลค่า1,200 บาท ลงทุน10 ล้านบาท ขึ้นไป รับ Cash Back มูลค่า 3,600 บาท ลงทุน 20 ล้านบาท ขึ้นไป รับ Cash Back มูลค่า 6,000 ล้านบาท เเละลงทุน 50 ล้านบาท ขึ้นไป รับ Cash Back มูลค่า 12,000 บาท