ผู้ถือหน่วย กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน เตรียมเฮ รับเงินปันผล 0.20 บาทต่อหน่วยลงทุน ในวันที่ 12 พ.ย. 52 นี้
นายสุทธิพงศ์ พัวพันธ์ประเสริฐ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายจัดการลงทุน กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทจะทำการจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TFUND) ครั้งที่ 19 จากกำไรสะสมและผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม 2552 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2552 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.20 บาท โดยบริษัทจัดการกำหนด จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2552 โดยจะกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน เพื่อกำหนดสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2552 นี้
โดยผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2552 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 96.77 ล้านบาท เเละมีกำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 0.1273 บาท ทั้งนี้หากเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปี 2551 นั้นกองทุนมีกำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 141.06 ล้านบาท มีกำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 0.2497 บาท
ส่วนผลการดำเนินงานในรอบ 9 เดือนเเรก ณ วันที่ 30 กันยายน 2552 ว่า กองทุนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 333.2 ล้านบาท มีกำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 0.4385 บาท โดยหากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา กองทุนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 526.4 ล้านบาท เเละมีกำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 0.9318 บาท
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ บลจ.บัวหลวง มีแผนว่าในช่วงประมาณสิ้นปีจะมีการเพิ่มทุนกองทุนTFUND เเต่ต้องเลื่อนการเพิ่มทุนออกไปเป็นในปีหน้าแทน เนื่องจากว่าในช่วงที่ผ่านมามีผู้เช่าโรงงานน้อยเหตุเกิดจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ผู้เช่าต่างถอนตัวอออกไปบ้าง ทั้งนี้ในช่วงไตรมาส 4 นี้คาดว่าอัตราการเช่าจะมีเพิ่มขึ้นเนื่องจากเศรษฐกิจปรับตัวพลิกฟื้นดีขึ้น และมีผู้เช่าได้ทยอยเข้ามาเช่าโรงงานบ้างแล้ว นอกจากนี้บริษัทยังคาดว่ามูลค่าทรัพย์สินสุทธิหรือ เอ็นเอวีในช่วงสิ้นปีนี้จะไม่ต่ำไปกว่า 8,000 ล้านบาท
ขณะเดียวกันในเดือนพฤศจิกายนนี้ บลจ. บัวหลวง จะเปิดขายหน่วยลงทุนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทีพาร์ค โลจิสติคส์ หรือทีโลจิส (TLOGIS) โดยกองทุนดังกล่าวจะเข้าไปลงทุนในกรรมสิทธิที่ดินและคลังสินค้าใน 2 โครงการ ด้วยการซื้อทรัพย์สินจากบริษัท ไทคอน โลจิสติคส์ พาร์ค จำกัด ประกอบด้วยคลังสินค้าในโครงการเขตอุตสาหกรรมโลจิสติคส์ ทีพาร์ค วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา บนที่ดินจำนวน 48-3-32 ไร่ และคลังสินค้าทั่วไป และคลังสินค้าในเขตปลอดอากร (Custom Free Zone) ของโครงการเขตอุตสาหกรรมโลจิสติคส์ ทีพาร์ค บางนา บนที่ดินจำนวน 41-1-80 ไร่ โดยมีมูลค่าโครงการไม่ต่ำกว่า 1,500 ล้านบาท
นายสุทธิพงศ์ พัวพันธ์ประเสริฐ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายจัดการลงทุน กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทจะทำการจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TFUND) ครั้งที่ 19 จากกำไรสะสมและผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม 2552 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2552 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.20 บาท โดยบริษัทจัดการกำหนด จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2552 โดยจะกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน เพื่อกำหนดสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2552 นี้
โดยผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2552 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 96.77 ล้านบาท เเละมีกำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 0.1273 บาท ทั้งนี้หากเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปี 2551 นั้นกองทุนมีกำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 141.06 ล้านบาท มีกำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 0.2497 บาท
ส่วนผลการดำเนินงานในรอบ 9 เดือนเเรก ณ วันที่ 30 กันยายน 2552 ว่า กองทุนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 333.2 ล้านบาท มีกำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 0.4385 บาท โดยหากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา กองทุนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 526.4 ล้านบาท เเละมีกำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 0.9318 บาท
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ บลจ.บัวหลวง มีแผนว่าในช่วงประมาณสิ้นปีจะมีการเพิ่มทุนกองทุนTFUND เเต่ต้องเลื่อนการเพิ่มทุนออกไปเป็นในปีหน้าแทน เนื่องจากว่าในช่วงที่ผ่านมามีผู้เช่าโรงงานน้อยเหตุเกิดจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ผู้เช่าต่างถอนตัวอออกไปบ้าง ทั้งนี้ในช่วงไตรมาส 4 นี้คาดว่าอัตราการเช่าจะมีเพิ่มขึ้นเนื่องจากเศรษฐกิจปรับตัวพลิกฟื้นดีขึ้น และมีผู้เช่าได้ทยอยเข้ามาเช่าโรงงานบ้างแล้ว นอกจากนี้บริษัทยังคาดว่ามูลค่าทรัพย์สินสุทธิหรือ เอ็นเอวีในช่วงสิ้นปีนี้จะไม่ต่ำไปกว่า 8,000 ล้านบาท
ขณะเดียวกันในเดือนพฤศจิกายนนี้ บลจ. บัวหลวง จะเปิดขายหน่วยลงทุนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทีพาร์ค โลจิสติคส์ หรือทีโลจิส (TLOGIS) โดยกองทุนดังกล่าวจะเข้าไปลงทุนในกรรมสิทธิที่ดินและคลังสินค้าใน 2 โครงการ ด้วยการซื้อทรัพย์สินจากบริษัท ไทคอน โลจิสติคส์ พาร์ค จำกัด ประกอบด้วยคลังสินค้าในโครงการเขตอุตสาหกรรมโลจิสติคส์ ทีพาร์ค วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา บนที่ดินจำนวน 48-3-32 ไร่ และคลังสินค้าทั่วไป และคลังสินค้าในเขตปลอดอากร (Custom Free Zone) ของโครงการเขตอุตสาหกรรมโลจิสติคส์ ทีพาร์ค บางนา บนที่ดินจำนวน 41-1-80 ไร่ โดยมีมูลค่าโครงการไม่ต่ำกว่า 1,500 ล้านบาท