บลจ.ไทยพาณิชย์ เตรียมหาสินทรัพย์กองทุนอสังหาฯเพิ่ม ชูแบรนด์ดี กลุ่มบลูชิพน่าสนใจ เผยมีความเป็นไปได้ในอนาคต ที่จะระดมทุนกองทุน QHPF เพื่อลงทุนสินทรัพย์เพิ่ม
นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า การหาสินทรัพย์ใหม่ในการออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ (พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์) ตอนนี้ เราจะเน้นเป็นสินทรัพย์ประเภทบลูชิพ ที่จะต้องมีผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ต้องเก่ง แบรนด์ดี เเละที่สำคัญเป็นผู้นำตลาด
ทั้งนี้ สินทรัพย์ที่เรามองหาอยู่นั้นจะเป็นประเภทสิทธิการเช่า หรือลีสโฮลด์ โดยหลักเกณฑ์ที่เราตั้งไว้คือ ต้องมีการเติบโตของอัตราค่าเช่าประมาณ 3-5% ต่อปี เเละมีเเนวโน้มว่าจะโตขึ้นเรื่อยๆ มีสภาพคล่องประมาณ 5 พันล้านขึ้นไป ซึ่งหากมีการจัดตั้งกองทุนจะต้องมีสภาพคล่องก่อนเป็นอันดับเเรก ที่สำคัญต้องปราศจากความขัดเเย้งทางด้านผลประโยชน์ เป็นต้น
ในช่วงที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา กองทุนอสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงเเรม เเละเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ อาจได้รับผลกระทบจากอัตราการเช่าที่ลดลง ส่วนกองทุนอสังหาฯประเภทสำนักงานให้เช่านั้น ก็ยังถือว่าได้รับผลกระทบน้อยกว่ากองทุนอสังหาฯประเภทโรงเเรม เเละเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง
สำหรับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ควอลิตี้เฮ้าส์ (QHPF) โดยเรามีสินทรัพย์ที่ลงทุนอยู่ 3 อาคาร ได้แก่ โครงการคิวเฮ้าส์ ลุมพินี โครงการเวฟ เพลส และโครงการคิวเฮ้าส์ เพลินจิต โดยที่ผ่านมากองทุน QHPF มีอัตราการเช่าเติบโตดีขึ้นจากเดิม ซึ่งในอนาคตมีความเป็นไปได้ที่จะมีการเพิ่มทุนเพื่อจะซื้อสินทรัพย์เพิ่มคล้ายกับกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNRF) ทั้งนี้ขั้นตอนการดำเนินงานทั้งหมดนั้นจะต้องผ่านการเห็นชอบของคณะกรรมการของบริษัทก่อนเช่นกัน
นางโชติกา กล่าวว่า กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่ไปลงทุนต่างประเทศนั้น เราก็สนใจอยู่เช่นกัน โดยกองทุนอสังหาฯต่างประเทศส่วนใหญ่จะเป็นลีสโฮลด์ ซึ่งนักลงทุนต่างประเทศจะชอบการลงทุนเเบบลีสโฮลด์มากกว่าฟรีโฮลด์ ทั้งนี้หากเราจัดตั้งกองทุนประเภทดังกล่าวขึ้นมานั้น เราคงจะทำกองทุนไปลงทุนในกองทุนหลัก หรือ Feeder Fund
เนื่องจากเรามองว่าความสามารถของผู้จัดการกองทุนของไทยอาจจะไม่เท่ากับความสามารถของผู้จัดการกองทุนต่างประเทศที่ดูเเลรับผิดชอบในกองทุนอสังหาฯนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการใกล้ชิดในสินทรัพย์ หรือความใกล้ชิดเรื่องผู้บริหารสินทรัพย์นั้นๆ เป็นต้น
ทั้งนี้ คณะกรรมการลงทุนกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNRF) มีมติให้จ่ายเงินปันผลจากการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม 2552 ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2552 ในอัตราหน่วยละ 0.3046 บาท เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ถือหน่วยเดิม ก่อนที่จะเพิ่มทุนเพื่อลงทุนเพิ่มเติมในโครงการเซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า
โดยกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน เพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2552 และจะมีการจ่ายเงินปันผลในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2552 โดย ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา กองทุน CPNRF ได้มีการปันผลไปแล้ว 15 ครั้ง รวมเป็นเงินปันผลประมาณ 3.22 บาทต่อหน่วย