ผู้สื่อข่าวรายงานการเข้าซื้อขายหุ้นวันแรกของบริษัท เกียรติธนา ขนส่ง จำกัด (มหาชน) หรือ KIAT ในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) โดยเปิดตลาดราคาหุ้นอยู่ที่ 5.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท หรือเพิ่มขึ้น 13.33 % จากราคาจองที่ 4.50 บาทต่อหุ้น ระหว่างวันราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุด 5.20 บาท ปรับตัวลดลงต่ำสุด 4.62บาท และกลับมาปิดตลาดที่ระดับ 4.62 บาท มูลค่าการซื้อขาย 292.30ล้านบาท
นายเกียรติชัย มนต์เสรีนุสรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกียรติธนา ขนส่ง จำกัด (มหาชน)หรือ KIAT กล่าวว่า พอใจกับราคาหุ้นของบริษัทที่เปิดการซื้อขายสามารถยืนสูงกว่าราคาจองได้ โดยช่วงแรกของการเปิดซื้อขายราคาปรับเพิ่มขึ้นเหนือจองกว่า 10% และปริมาณการซื้อขายค่อนข้างคึกคัก ซึ่งเชื่อว่านักลงทุนน่าจะพิจารณาถึงผลประกอบการของบริษัทฯ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเติบโตอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ และบริษัทจะพยายามสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัท
ทั้งนี้ บริษัทฯ เตรียมจะประชุมคณะกรรมการบริษัทเพื่อรับรองงบผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3 ปีนี้ภายในวันที่ 15
พ.ย.นี้ ซึ่งจะประชุมพิจารณาการจ่ายปันผล โดยคาดว่าการจ่ายปันผลในปี 52 จะไม่ต่ำกว่าปี 51 ตามผลกำไรที่เติบโตและบริษัทมีแผนจ่ายเงินปันผลต่อปีมากกว่า 1 ครั้ง โดยมีนโยบายการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิ ซึ่งคาดรายได้และกำไรไตรมาส 4 ปีนี้สูงกว่าไตรมาส 3
สำหรับรายได้รวมปีนี้มั่นใจว่าจะโตตามเป้าหมายที่วางไว้คือ 600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 480 ล้านบาท เพราะบริษัทฯ ยังเข้าไปประมูลงานใหม่อย่างสม่ำเสมอ โดยไตรมาส 4 มีแผนที่จะเข้าไปประมูลงานเพิ่มซึ่งเชื่อว่าจากการที่ได้เข้ามาจดทะเบียนในตลาด เอ็ม เอ ไอ จะส่งผลให้มีความได้เปรียบคู่แข่งในแง่ของความโปร่งใส รวมถึงบริษัทฯ ยังมีศักยภาพในการดีลงานใหม่ ส่วนปี 53 คาดหวังว่ารายได้และกำไรจะเติบโต 10-15% จากปีนี้ ตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวและการเข้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง
นายสุชาย สุทัศน์ธรรมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การที่ราคาหุ้น KIAT ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าราคาจอง เนื่องจาก KIAT มีศักยภาพในการเติบโตสูง แม้ช่วงที่เกิดภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ แต่บริษัทสามารถผ่านมาได้และธุรกิจเติบโตดี และมีอัตรากำไรขั้นต้นสูง และจากการที่ได้เงินจากการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ยิ่งทำให้บริษัทมีศักยภาพการเเติบโตของธุรกิจขนส่งสูง ซึ่งจะขยายตามการเติบโตของแก๊สและสารเคมีที่จะมีการขนส่งมากขึ้น
นายเกียรติชัย มนต์เสรีนุสรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกียรติธนา ขนส่ง จำกัด (มหาชน)หรือ KIAT กล่าวว่า พอใจกับราคาหุ้นของบริษัทที่เปิดการซื้อขายสามารถยืนสูงกว่าราคาจองได้ โดยช่วงแรกของการเปิดซื้อขายราคาปรับเพิ่มขึ้นเหนือจองกว่า 10% และปริมาณการซื้อขายค่อนข้างคึกคัก ซึ่งเชื่อว่านักลงทุนน่าจะพิจารณาถึงผลประกอบการของบริษัทฯ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเติบโตอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ และบริษัทจะพยายามสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัท
ทั้งนี้ บริษัทฯ เตรียมจะประชุมคณะกรรมการบริษัทเพื่อรับรองงบผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3 ปีนี้ภายในวันที่ 15
พ.ย.นี้ ซึ่งจะประชุมพิจารณาการจ่ายปันผล โดยคาดว่าการจ่ายปันผลในปี 52 จะไม่ต่ำกว่าปี 51 ตามผลกำไรที่เติบโตและบริษัทมีแผนจ่ายเงินปันผลต่อปีมากกว่า 1 ครั้ง โดยมีนโยบายการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิ ซึ่งคาดรายได้และกำไรไตรมาส 4 ปีนี้สูงกว่าไตรมาส 3
สำหรับรายได้รวมปีนี้มั่นใจว่าจะโตตามเป้าหมายที่วางไว้คือ 600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 480 ล้านบาท เพราะบริษัทฯ ยังเข้าไปประมูลงานใหม่อย่างสม่ำเสมอ โดยไตรมาส 4 มีแผนที่จะเข้าไปประมูลงานเพิ่มซึ่งเชื่อว่าจากการที่ได้เข้ามาจดทะเบียนในตลาด เอ็ม เอ ไอ จะส่งผลให้มีความได้เปรียบคู่แข่งในแง่ของความโปร่งใส รวมถึงบริษัทฯ ยังมีศักยภาพในการดีลงานใหม่ ส่วนปี 53 คาดหวังว่ารายได้และกำไรจะเติบโต 10-15% จากปีนี้ ตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวและการเข้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง
นายสุชาย สุทัศน์ธรรมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การที่ราคาหุ้น KIAT ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าราคาจอง เนื่องจาก KIAT มีศักยภาพในการเติบโตสูง แม้ช่วงที่เกิดภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ แต่บริษัทสามารถผ่านมาได้และธุรกิจเติบโตดี และมีอัตรากำไรขั้นต้นสูง และจากการที่ได้เงินจากการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ยิ่งทำให้บริษัทมีศักยภาพการเเติบโตของธุรกิจขนส่งสูง ซึ่งจะขยายตามการเติบโตของแก๊สและสารเคมีที่จะมีการขนส่งมากขึ้น