บลจ. บีที เลื่อนขายกองทุนพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์เป็นปีหน้า หลีกทางให้มนุษย์เก็บแอลทีเอฟ-อาร์เอ็มเอฟ เข้าพอร์ต เผยเล็งไว้ 2 กองทุน ลุยโรงแรมเกาะสมุย
นายนกุล ไชยนิล ผู้จัดการกองทุนอสังหาริมทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บีที จำกัด เปิดเผยว่า จากเดิมที่บริษัทมีแผนจะเปิดขายกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ หรือพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ขณะนี้ต้องเลื่อนออกไปเป็นต้นปีหน้า เนื่องจากมองว่าช่วงสิ้นปี นักลงทุนจะยังไม่ค่อยให้ความสนใจกับการลงทุนในกองทุนดังกล่าวมากนัก แต่จะให้ความสนใจกับกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ อาร์เอ็มเอฟและกองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือแอลทีเอฟมากกว่า
โดยกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่จะเปิดขายในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้านั้น เตรียมไว้ด้วยกันทั้งสิ้น 2 กองทุน ซึ่งเป็นกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในธุรกิจโรงแรมที่สมุยทั้ง 2 กองทุน แต่เป็นคนละหาดกัน ซึ่งทั้ง 2 โรงแรมมีจุดเด่นที่น่าสนใจคือ เป็นโรงแรมที่ติดชายหาดมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวอย่างต่อเนื่อง
สำหรับมูลค่าโครงการของทั้ง 2 กองทุนนั้น ตกอยู่กองทุนละประมาณ 800 ล้านบาท ซึ่งเป็นกองทุนที่มีมูลค่าไม่ใหญ่มากนักประมาณกลาง ๆ เพราะมองว่าถ้าขนาดมูลค่ากองทุนไม่ใหญ่มากนักจะสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุนได้
นายนกุล กล่าวต่อว่า กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทั้ง 2 กองทุนจะสามารถให้การตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากว่ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทสามารถให้ผลตอบแทนที่สูง อีกทั้งในขณะนี้การลงทุนในตราสารหนี้หรือเงินฝาก ต่างให้ผลตอบแทนที่น้อยไม่ค่อยน่าจูงใจมากนัก ดังนั้น กองทุนดังกล่าวจึงเป็นอีกทางเลือกให้แก่นักลงทุน โดยนักลงทุนส่วนใหญ่ที่เข้ามาลงทุนนั้นยังคงเป็นนักลงทุนรายย่อยเป็นหลักมากกว่านักลงทุนสถาบัน เนื่องจากว่ากองทุนมีขนาดที่ไม่ใหญ่มากนัก
"ทั้ง 2 กองทุนจะเน้นลทุนในธุรกิจโรงแรมที่สมุย เพราะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าทั้ง 2 กองทุนจะสามารถเปิดขายได้ตามกำหนดที่ได้ตั้งเป้าไว้ ซึ่งเราเองมีประสบการณ์ในการเปิดขายกองทุนกองทุนแรกแล้ว และคิดว่าจะไม่ช้าเหมือนกองทุนแรก เพราะเราได้ประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองไว้แล้ว คงไม่มีอะไรรุนแรงเหมือนครั้งที่ผ่านมา"
นายนกุล กล่าวเพิ่มเติมว่า การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่จะเป็นนักลงทุนที่มีฐานะสามารถซื้อสะสมไว้เก็งกำไรได้เป็นอย่างดี เนื่องจากว่าราคาที่ดิน ราคาอสังหาริมทรัพย์ทุกวันนี้ มีแต่จะเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ แต่สำหรับนักลงทุนสมัยใหม่นี้ การเข้ามาลงทุนผ่านในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าลงทุนเป็นอย่างยิ่ง
นายนกุล ไชยนิล ผู้จัดการกองทุนอสังหาริมทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บีที จำกัด เปิดเผยว่า จากเดิมที่บริษัทมีแผนจะเปิดขายกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ หรือพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ขณะนี้ต้องเลื่อนออกไปเป็นต้นปีหน้า เนื่องจากมองว่าช่วงสิ้นปี นักลงทุนจะยังไม่ค่อยให้ความสนใจกับการลงทุนในกองทุนดังกล่าวมากนัก แต่จะให้ความสนใจกับกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ อาร์เอ็มเอฟและกองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือแอลทีเอฟมากกว่า
โดยกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่จะเปิดขายในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้านั้น เตรียมไว้ด้วยกันทั้งสิ้น 2 กองทุน ซึ่งเป็นกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในธุรกิจโรงแรมที่สมุยทั้ง 2 กองทุน แต่เป็นคนละหาดกัน ซึ่งทั้ง 2 โรงแรมมีจุดเด่นที่น่าสนใจคือ เป็นโรงแรมที่ติดชายหาดมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวอย่างต่อเนื่อง
สำหรับมูลค่าโครงการของทั้ง 2 กองทุนนั้น ตกอยู่กองทุนละประมาณ 800 ล้านบาท ซึ่งเป็นกองทุนที่มีมูลค่าไม่ใหญ่มากนักประมาณกลาง ๆ เพราะมองว่าถ้าขนาดมูลค่ากองทุนไม่ใหญ่มากนักจะสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุนได้
นายนกุล กล่าวต่อว่า กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทั้ง 2 กองทุนจะสามารถให้การตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากว่ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทสามารถให้ผลตอบแทนที่สูง อีกทั้งในขณะนี้การลงทุนในตราสารหนี้หรือเงินฝาก ต่างให้ผลตอบแทนที่น้อยไม่ค่อยน่าจูงใจมากนัก ดังนั้น กองทุนดังกล่าวจึงเป็นอีกทางเลือกให้แก่นักลงทุน โดยนักลงทุนส่วนใหญ่ที่เข้ามาลงทุนนั้นยังคงเป็นนักลงทุนรายย่อยเป็นหลักมากกว่านักลงทุนสถาบัน เนื่องจากว่ากองทุนมีขนาดที่ไม่ใหญ่มากนัก
"ทั้ง 2 กองทุนจะเน้นลทุนในธุรกิจโรงแรมที่สมุย เพราะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าทั้ง 2 กองทุนจะสามารถเปิดขายได้ตามกำหนดที่ได้ตั้งเป้าไว้ ซึ่งเราเองมีประสบการณ์ในการเปิดขายกองทุนกองทุนแรกแล้ว และคิดว่าจะไม่ช้าเหมือนกองทุนแรก เพราะเราได้ประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองไว้แล้ว คงไม่มีอะไรรุนแรงเหมือนครั้งที่ผ่านมา"
นายนกุล กล่าวเพิ่มเติมว่า การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่จะเป็นนักลงทุนที่มีฐานะสามารถซื้อสะสมไว้เก็งกำไรได้เป็นอย่างดี เนื่องจากว่าราคาที่ดิน ราคาอสังหาริมทรัพย์ทุกวันนี้ มีแต่จะเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ แต่สำหรับนักลงทุนสมัยใหม่นี้ การเข้ามาลงทุนผ่านในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าลงทุนเป็นอย่างยิ่ง