คอลัมน์ – เงินทองต้องวางแผน
โดยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)
ชีวิตคนเราส่วนใหญ่ทุกวันนี้ ทำงานกันหนักมากเพื่อหารายได้มาใช้สำหรับจ่ายสำหรับค่ากินอยู่ ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ เพื่อสร้างฐานะ ส่วนที่เหลือจากนั้นก็จะเก็บออมไว้อีกนิดหน่อย หรือถ้าไม่เหลือเลยก็ไม่ออมเลย เพราะไม่รู้ว่าจะเอาที่ไหนมาเหลือออม ใช้ก็แทบจะไม่พออยู่แล้ว
และไม่ว่าหน่วยงานไหนๆ จะทำแบบสำรวจข้อมูลเรื่องการออมกี่ครั้งกี่หน ผลก็จะออกมาไม่ค่อยแตกต่าง นั่นคือมีหนี้สินมากกว่าเงินออม ด้วยเหตุผลหลักคือ ไม่มีเงินเหลือออม และที่สำคัญเมื่อสอบถามถึงความรู้ความเข้าใจในเรื่องความสำคัญของการออม คำตอบก็ชัดเจนมากว่า ไม่ใช่ว่าไม่รู้ไม่เข้าใจหรอก แต่ว่า ที่ต้องใช้จ่ายมันมากกว่ารายได้ที่หาได้นั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่ายที่จำเป็น หรือไม่จำเป็นแต่ในที่สุด ผู้ที่ใช้เงินก็มักจะมีเหตุผลที่เข้าข้างตัวเองเสมอว่า ที่ต้องใช้จ่ายไปทั้งหมดนั่นเป็นสิ่งจำเป็นต้องจ่ายทั้งสิ้น ไม่มีอะไรเลยที่สุรุ่ยสุร่าย และถ้าถามต่อไปว่า คุณมีการวางแผนการเงินอย่างถูกต้องเหมาะสมหรือเปล่า คุณคิดเรื่องการออม หรือการออมเพื่อการเกษียณไปบ้างหรือเปล่า ส่วนใหญ่ก็จะงงกับคำถาม และตอบไม่ได้ในที่สุด
ดังนั้น หากเราต้องการอยู่ใน Track ก็ต้องมีหลักการให้ยึดถือและปฏิบัติไว้ง่าย ๆ ดังนี้ คือ ประการแรก จัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายรายวันส่วนตัว ประการที่สอง จัดทำบัญชีรายการแหล่งที่มาของรายได้ และ รายจ่ายหลักๆ ทั้งปีของเราเอง และประการสุดท้าย จัดทำแผนและสัดส่วนการออมการลงทุนให้ชัดเจน
หลักการง่าย ๆ เพียง 3 ข้อเท่านี้ก็จะทำให้เรามีกติกา มีแนวทางในการวางแผนการเงิน การใช้เงิน การหาเงิน การออมเงิน และการลงทุนของเราได้อย่างไม่ยากเลย ทั้งนี้ เมื่อเรากำหนดและถือปฎิบัติได้แล้วนั้น ให้เราใช้ชีวิตยึดติดกติกานี้ไว้ และเริ่มต้นใช้ให้น้อยกว่าที่หามาได้และวางแผนออมเงินไปตลอดชีวิตนับจากวันนี้เป็นต้นไป และที่สำคัญจะต้องรู้จักกู้ยืมเงินให้ฉลาด ไม่ใช่คิดอะไรไม่ออกก็ออกไปกู้เงินมาใช้ ยังมีวิธีอื่น ๆ ที่จะหารายได้เพิ่มเติมได้ถ้าเราไม่อายและไม่กลัวเหน็ดเหนื่อย
การที่เราเริ่มต้นคิดแบบง่าย ๆ ไม่ซับซ้อนแบบนี้ หากลงมือทำวันนี้ได้เลย ก็นับว่าเราได้เริ่มต้นออมและลงทุนแล้ว เพราะเพียงการเริ่มต้นออม เงินก็จะงอกเงย เหตุผลง่าย ๆ คือ TIME IS MONEY ไม่เชื่อก็ลองลงมือทำเลยสิคะ แล้วอีกปีมาดูกันค่ะ ว่าเงินงอกได้จริงหรือเปล่า
โดยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)
ชีวิตคนเราส่วนใหญ่ทุกวันนี้ ทำงานกันหนักมากเพื่อหารายได้มาใช้สำหรับจ่ายสำหรับค่ากินอยู่ ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ เพื่อสร้างฐานะ ส่วนที่เหลือจากนั้นก็จะเก็บออมไว้อีกนิดหน่อย หรือถ้าไม่เหลือเลยก็ไม่ออมเลย เพราะไม่รู้ว่าจะเอาที่ไหนมาเหลือออม ใช้ก็แทบจะไม่พออยู่แล้ว
และไม่ว่าหน่วยงานไหนๆ จะทำแบบสำรวจข้อมูลเรื่องการออมกี่ครั้งกี่หน ผลก็จะออกมาไม่ค่อยแตกต่าง นั่นคือมีหนี้สินมากกว่าเงินออม ด้วยเหตุผลหลักคือ ไม่มีเงินเหลือออม และที่สำคัญเมื่อสอบถามถึงความรู้ความเข้าใจในเรื่องความสำคัญของการออม คำตอบก็ชัดเจนมากว่า ไม่ใช่ว่าไม่รู้ไม่เข้าใจหรอก แต่ว่า ที่ต้องใช้จ่ายมันมากกว่ารายได้ที่หาได้นั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่ายที่จำเป็น หรือไม่จำเป็นแต่ในที่สุด ผู้ที่ใช้เงินก็มักจะมีเหตุผลที่เข้าข้างตัวเองเสมอว่า ที่ต้องใช้จ่ายไปทั้งหมดนั่นเป็นสิ่งจำเป็นต้องจ่ายทั้งสิ้น ไม่มีอะไรเลยที่สุรุ่ยสุร่าย และถ้าถามต่อไปว่า คุณมีการวางแผนการเงินอย่างถูกต้องเหมาะสมหรือเปล่า คุณคิดเรื่องการออม หรือการออมเพื่อการเกษียณไปบ้างหรือเปล่า ส่วนใหญ่ก็จะงงกับคำถาม และตอบไม่ได้ในที่สุด
ดังนั้น หากเราต้องการอยู่ใน Track ก็ต้องมีหลักการให้ยึดถือและปฏิบัติไว้ง่าย ๆ ดังนี้ คือ ประการแรก จัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายรายวันส่วนตัว ประการที่สอง จัดทำบัญชีรายการแหล่งที่มาของรายได้ และ รายจ่ายหลักๆ ทั้งปีของเราเอง และประการสุดท้าย จัดทำแผนและสัดส่วนการออมการลงทุนให้ชัดเจน
หลักการง่าย ๆ เพียง 3 ข้อเท่านี้ก็จะทำให้เรามีกติกา มีแนวทางในการวางแผนการเงิน การใช้เงิน การหาเงิน การออมเงิน และการลงทุนของเราได้อย่างไม่ยากเลย ทั้งนี้ เมื่อเรากำหนดและถือปฎิบัติได้แล้วนั้น ให้เราใช้ชีวิตยึดติดกติกานี้ไว้ และเริ่มต้นใช้ให้น้อยกว่าที่หามาได้และวางแผนออมเงินไปตลอดชีวิตนับจากวันนี้เป็นต้นไป และที่สำคัญจะต้องรู้จักกู้ยืมเงินให้ฉลาด ไม่ใช่คิดอะไรไม่ออกก็ออกไปกู้เงินมาใช้ ยังมีวิธีอื่น ๆ ที่จะหารายได้เพิ่มเติมได้ถ้าเราไม่อายและไม่กลัวเหน็ดเหนื่อย
การที่เราเริ่มต้นคิดแบบง่าย ๆ ไม่ซับซ้อนแบบนี้ หากลงมือทำวันนี้ได้เลย ก็นับว่าเราได้เริ่มต้นออมและลงทุนแล้ว เพราะเพียงการเริ่มต้นออม เงินก็จะงอกเงย เหตุผลง่าย ๆ คือ TIME IS MONEY ไม่เชื่อก็ลองลงมือทำเลยสิคะ แล้วอีกปีมาดูกันค่ะ ว่าเงินงอกได้จริงหรือเปล่า
