บลจ.แอสเซท ปลื้ม กองทุนเปิด"แอสเซทพลัสโกลด์"ผลการดำเนินงานสุดหรูดันสินทรัพย์รวมโตกว่า 50% หลังราคาทองโลกพุ่งถึง 1,000 เหรียญเชื่อระยะสั้นทองคำยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีก แนะนักลงทุนทยอยเทขายทำกำไรเป็นบางช่วง
นายวิน อุดมรัชต์วนิชย์ ผู้จัดการกองทุนอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ตั้งแต่จัดตั้ง จนถึงเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2552 กองทุนเปิดแอสเซทพลัสโกลด์ (ASP-GOLD) มีผลการดำเนินงานปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.23% โดยกองทุนได้รับอนิสงส์จากราคาทองคำที่ปรับตัวสูงกว่า 1,000 เหรียญ เทียบกับช่วงที่จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ที่ราคาทองได้อยู่ที่ 930-940 เหรียญ ซึ่งการปรับตัวได้เป็นไปตามกระแสตลาดโลกทั่วโลก ที่นักลงทุนเริ่มให้ความสนใจกลับเข้ามาลงทุนเพิ่มมากขึ้นด้วย
ขณะเดียวกัน การปรับขึ้นของราคาทองได้ส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ(เอ็นเอวี)ของกองทุนปรับตัวเพิ่มขึ้นมาถึง 50-60% โดยขนาดเอ็นเอวีช่วงที่มีการจัดตั้งไอพีโอ อยู่ที่ประมาณ 40 ล้าน แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 กันยายน พบว่าเอ็นเอวีปรับตัวขึ้นอยู่ที่ 60 ล้านบาท
"นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน การที่ขนาดของกองทุนปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 60% ถือว่าเยอะมากสำหรับกองทุนขนาดเล็ก เพราะช่วงที่เปิดไอพี่โอเราสามารถระดมทุนได้ถึง 40 ล้าน ก่อนที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นจนถึง 70 ล้านบาท และลดลงมาเหลือ 60 ล้านบาท โดยการที่เอ็นเอวีของเราปรับลดลงเนื่องเราได้แนะนำให้นักลงทุนมีการขายเพื่อทำกำไรบ้าง นอกจากนี้ การที่เอ็นเอวีของกองทุนได้เพิ่มขึ้นได้มาจากการที่นักลงทุนบางส่วนได้หันมาลงทุนในทองคำมากแทนการลงทุนในตลาดหุ้นหรือลงทุนในสกุลเงินต่างๆด้วย"
สำหรับเหตุที่นักลงทุนเลือกที่จะหันมาลงทุนในทองคำเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมองถึงปัจจัยเงินเฟ้อจะเริ่มกลับมาอีกครั้ง นักลงทุนจึงหันมาลงทุนในกลุ่มโภคภัณฑ์ (คอมอดิตี้) หรือสินทรัพย์ที่นักลงทุนสามารถซื้อง่ายขายคล่องมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น น้ำมัน หรือทองคำ จึงส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมไปถึงสภาพคล่องที่นักลงทุนได้รับนั้นมากกว่าการลงทุนในเงินฝาก ตลาดหุ้น รวมไปถึงตราสารหนี้ด้วย
"ที่ผ่านเรามีการแนะนำนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในกองทุนเปิดแอสเซทพลัสโกลด์ สำหรับนักลงทุนระยะสั้นเราแนะนำให้นักลงทุนมีการเข้าซื้อและขายออกบ้างเพื่อทำกำไร จากการที่ราคาทองคำได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลงตลอดเวลา ขณะที่นักลงทุนระยะยาวที่เชื่อว่าเงินเฟ้อจะกลับมาก็ได้เข้ามาลงทุนด้วย ทั้งนรี้การลงทุนในทองคำนั้น ขึ้นอยู่กับมุมมองของนักลงทุนว่าต้องการลงทุนระยะสั้นหรือระยะยาว แต่การลงทุนในทองคำนั้น เหมาะกับนักลงทุนทั้ง2แบบที่ต้องการเล่นสั้นและเล่นยาว"นายวินกล่าว
นายวิน ยังกล่าวอีกว่า สำหรับแนวโน้มราคาทองคำในระยะสั้นยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีกเล็กน้อย โดยสังเกตุได้จากปัจจัยต่างๆที่ส่งผลต่อราคาทองคำ ไม่ว่าจะเป็นค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่ยังคงอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง จากการประชุมของกลุ่มG20 รวมไปถึงภาพรวมเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้นของยุโรปเมื่อเทียบกับสหรัฐอเมริกา ซึ่งการอ่อนค่าของเงินส่งผลให้นักลงทุนเกิดความกังวลพร้อมกับโยกเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยมากกว่า นอกจากนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่ที่ลงทุนในทองคำจะมองว่าทองคำถือเป็นสกุลเงินอีก 1สกุลเงินด้วย
นายวิน อุดมรัชต์วนิชย์ ผู้จัดการกองทุนอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ตั้งแต่จัดตั้ง จนถึงเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2552 กองทุนเปิดแอสเซทพลัสโกลด์ (ASP-GOLD) มีผลการดำเนินงานปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.23% โดยกองทุนได้รับอนิสงส์จากราคาทองคำที่ปรับตัวสูงกว่า 1,000 เหรียญ เทียบกับช่วงที่จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ที่ราคาทองได้อยู่ที่ 930-940 เหรียญ ซึ่งการปรับตัวได้เป็นไปตามกระแสตลาดโลกทั่วโลก ที่นักลงทุนเริ่มให้ความสนใจกลับเข้ามาลงทุนเพิ่มมากขึ้นด้วย
ขณะเดียวกัน การปรับขึ้นของราคาทองได้ส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ(เอ็นเอวี)ของกองทุนปรับตัวเพิ่มขึ้นมาถึง 50-60% โดยขนาดเอ็นเอวีช่วงที่มีการจัดตั้งไอพีโอ อยู่ที่ประมาณ 40 ล้าน แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 กันยายน พบว่าเอ็นเอวีปรับตัวขึ้นอยู่ที่ 60 ล้านบาท
"นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน การที่ขนาดของกองทุนปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 60% ถือว่าเยอะมากสำหรับกองทุนขนาดเล็ก เพราะช่วงที่เปิดไอพี่โอเราสามารถระดมทุนได้ถึง 40 ล้าน ก่อนที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นจนถึง 70 ล้านบาท และลดลงมาเหลือ 60 ล้านบาท โดยการที่เอ็นเอวีของเราปรับลดลงเนื่องเราได้แนะนำให้นักลงทุนมีการขายเพื่อทำกำไรบ้าง นอกจากนี้ การที่เอ็นเอวีของกองทุนได้เพิ่มขึ้นได้มาจากการที่นักลงทุนบางส่วนได้หันมาลงทุนในทองคำมากแทนการลงทุนในตลาดหุ้นหรือลงทุนในสกุลเงินต่างๆด้วย"
สำหรับเหตุที่นักลงทุนเลือกที่จะหันมาลงทุนในทองคำเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมองถึงปัจจัยเงินเฟ้อจะเริ่มกลับมาอีกครั้ง นักลงทุนจึงหันมาลงทุนในกลุ่มโภคภัณฑ์ (คอมอดิตี้) หรือสินทรัพย์ที่นักลงทุนสามารถซื้อง่ายขายคล่องมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น น้ำมัน หรือทองคำ จึงส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมไปถึงสภาพคล่องที่นักลงทุนได้รับนั้นมากกว่าการลงทุนในเงินฝาก ตลาดหุ้น รวมไปถึงตราสารหนี้ด้วย
"ที่ผ่านเรามีการแนะนำนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในกองทุนเปิดแอสเซทพลัสโกลด์ สำหรับนักลงทุนระยะสั้นเราแนะนำให้นักลงทุนมีการเข้าซื้อและขายออกบ้างเพื่อทำกำไร จากการที่ราคาทองคำได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลงตลอดเวลา ขณะที่นักลงทุนระยะยาวที่เชื่อว่าเงินเฟ้อจะกลับมาก็ได้เข้ามาลงทุนด้วย ทั้งนรี้การลงทุนในทองคำนั้น ขึ้นอยู่กับมุมมองของนักลงทุนว่าต้องการลงทุนระยะสั้นหรือระยะยาว แต่การลงทุนในทองคำนั้น เหมาะกับนักลงทุนทั้ง2แบบที่ต้องการเล่นสั้นและเล่นยาว"นายวินกล่าว
นายวิน ยังกล่าวอีกว่า สำหรับแนวโน้มราคาทองคำในระยะสั้นยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีกเล็กน้อย โดยสังเกตุได้จากปัจจัยต่างๆที่ส่งผลต่อราคาทองคำ ไม่ว่าจะเป็นค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่ยังคงอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง จากการประชุมของกลุ่มG20 รวมไปถึงภาพรวมเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้นของยุโรปเมื่อเทียบกับสหรัฐอเมริกา ซึ่งการอ่อนค่าของเงินส่งผลให้นักลงทุนเกิดความกังวลพร้อมกับโยกเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยมากกว่า นอกจากนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่ที่ลงทุนในทองคำจะมองว่าทองคำถือเป็นสกุลเงินอีก 1สกุลเงินด้วย
