บลจ.ทหารไทย เผย ราคาทองคำปรับตัวลงไปตามระดับความน่าสนใจ หลังตลาดหุ้นคึกคัก นักลงทุนแห่เก็งกำไรหุ้นมากขึ้น ชี้ หากราคาเข้าใกล้ 900 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ อาจเห็นแรงซื้อรอทำกำไรอีกรอบ พร้อมเชื่อราคาไม่ลงไปตํ่ากว่านี้มาก แนะนักลงทุนที่มีทองอยู่ในพอร์ต ให้เทขายเมื่อราคาขึ้นไประดับหนึ่ง
นายไพศาล ครุฑดำรงชัย รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด กล่าวถึงภาวะราคาทองคำในช่วงนี้ว่า จากสถาการณ์ของตลาดหุ้นในประเทศที่เริ่มดีขึ้นมา ส่งผลให้นักลงทุนพากันไปลงทุนในหุ้นกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นการลงทุนที่มีความน่าสนใจมากกว่าทองคำ ทำให้การลงทุนในทองคำที่ก่อนหน้านี้มีการเข้าเก็งกำไรกันเป็นจำนวนมากนั้น มีความน่าสนใจลดลงไป
ทั้งนี้ ในเรื่องของการเคลื่อนไหวของราคาทองคำนั้น เป็นเรื่องที่คาดเดาได้ยากมากว่าจะมีทิศทางไปในทางใด โดยนักลงทุนส่วนใหญ่จะทำได้เพียงติดตามความเคลื่อนไหวของราคาทองคำจากกราฟและการติดตามข่าวสารรวมถึงบทวิเคราะห์ต่างๆ เท่านั้น ขณะเดียวกันนักลงทุนในประเทศไทยนั้น มีมุมมองเกี่ยวกับทองคำเป็นเรื่องของการลงทุนและเก็งกำไรกันเป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่นักลงทุนในต่างประเทศนั้นมองทองคำเป็นแหล่งพักเงินลงทุนในยามวิกฤตเศรษฐกิจ หรือการลงทุนเกิดความผันผวนขึ้นมา แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับนักลงทุนในประเทศไทยที่ชอบลงทุนในทองคำ ก็สามารถลงทุนได้ประมาณ 10-15% ในพอร์ตการลงทุนของตนเอง และเนื่องจากทองคำนั้นค่อนข้างจะมีความผันผวนดังนั้นนักลงทุนควรมีการขายทำไรเมื่อราคาปรับไปถึงในระดับหนึ่ง
สำหรับแนวโน้มของราคาทองคำนั้น นายไพศาล กล่าวว่า ในช่วงนี้ราคาทองคำมีการแกว่งตัวในกรอบแคบ และราคาทองอาจจะปรับลดลงไปบ้างแต่ก็ไม่มาก โดยขณะนี้ราคาทองคำอยู่ที่ระดับประมาณ 928 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ แต่ราคาดังกล่าวเป็นราคาที่อยู่ใกล้ระดับ 900 เหรียญ ดังนั้น หากราคาทองปรับลดลงไปใกล้ระดับ 900 เหรียญมากขึ้น ก็อาจมีการเข้าไปซื้อเพื่อเก็งกำไรได้ แต่เชื่อว่าราคาทองนั้นไม่น่าจะตกลงไปมากกว่านี้แล้ว
ด้านกองทุนเปิดทหารไทยโกลด์ฟันด์นั้น ผลการดำเนินงานของกองทุนล่าสุด ประจำวันที่ 19 พฤษภาคม 2552 กองทุนให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -8.71% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 22.65% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 10.44% และย้อนหลัง 3 ปีอยู่ที่ 20.00% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 48.11% ในขณะที่ดัชนีราคาทองคำในตลาด New York (สกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐ) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -6.77% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 24.40% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 4.15% และย้อนหลัง 3 ปีอยู่ที่ 34.58% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 82.23% ด้านดัชนีราคาทองคำในตลาดทองคำแท่งประเทศไทย (สกุลเงินบาท) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -5.63% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 21.77% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 11.44% และย้อนหลัง 3 ปีอยู่ที่ 21.29% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 53.30%3
สำหรับกองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ ฟันด์ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนให้ได้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนจากการลงทุนในทองคำ โดยจะลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศโดยเฉลี่ยในรอบบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุน ที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนจากการลงทุนในทองคำ ส่วนที่เหลือ ลงทุนในหลักทรัพย์อื่นใดที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต
โดยกองทุนมีนโยบายการลงทุนกองทุนซึ่งเน้นลงทุนในหลักทรัพย์หรือหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศที่มีวัตถุประสงค์และนโยบายการลงทุนตรงตามวัตถุประสงค์ของกองทุน เพื่อให้สามารถสร้างผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับผลตอบแทนจากการลงทุนในทองคำให้มากที่สุด