xs
xsm
sm
md
lg

โอกาสทอง...เมื่อไรกัน?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อ่านข่าวฟังข่าวกันเมื่อช่วงเช้าวานนี้(9 เดือน 9 ปี 2009) นับเป็นฤกษ์ดีเวลา 09.09 น. ที่ประชาชนชาวไทยร่วมกันถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภายใต้ชื่องาน "๙ ในดวงใจ" เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 5 ธันวาคม 2552

 ส่วนการลงทุนช่วงนี้ต้องบอกว่าคึกคักจริงๆ ทั้งหุ้นและทองคำ แต่ที่นักวิเคราะห์หันมาให้ความสนใจเป็นพิเศษนั้นจะเป็นทองคำเสียมากกว่า ทั้งนี้อาจมาจากสาเหตุของราคาที่ปรับตัวสุงขึ้นจนแตะระดับ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์เป็นหลัก โดยราคาทองคำ ตลาดค้าทองฮ่องกงเปิดตลาดวานนี้ที่ระดับ 1,001.00-1002.00 ดอลลาร์/ออนซ์  ลดลง เมื่อเทียบกับราคาปิดตลาดเมื่อวันอังคารที่ระดับ 1,006.00-1,007.00ดอลลาร์/ออนซ์

 ขณะที่ ราคาทองคำภายในประเทศนั้น ทองคำแท่งรับซื้อที่ 15,850 บาท ขายที่ 1,5950 บาท ส่วนทองรูปพรรณรับซื้อที่ราคา 15,614.80 บาท ขายที่ 16,350 บาทลดต่ำลงทกว่าราคาเปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้
ทั้งนี้ นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า"ราคาทองคำแท่งเช้าวันนี้ทะลุบาทละ 16,000 บาท มาอยู่ที่ 16,050 บาท ส่วนทองรูปพรรณขายออกบาทละ 16,450 บาท และมีแนวโน้มราคาจะสูงขึ้นมากกว่านี้ ซึ่ง การปรับขึ้นราคาในปัจจุบันส่วนหนึ่งน่าจะมาจากความไม่มั่นใจต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดเอเชียขึ้นทะลุ 1,400 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์

 "อย่างไรก็ตามในช่วงนี้ประชาชนจะออกมาซื้อหาทองคำกันน้อย ส่วนใหญ่จะนำออกมาขาย เนื่องจากในช่วงนี้ ราคาทองคำปรับสูงขึ้น"นายจิตติกล่าว

 ดังที่กล่าวไปแล้วว่านักวิเคราะห์ส่สวนใหญ่ให้ความสนใจทองคำเป็นพิเศษ ซึ่งนางวิวรรณ ธาราหิรัญโชติ ที่ปรึกษาบริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เคยพูดถึงการลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัวว่า นักลงทุนควรจะมีการลงทุนเอาไว้ในสินค้าโภคภัณฑ์ เพื่อเอาไว้เป็นการกระจายความเสี่ยงแต่ไม่ควรถือเป็นการลงทุนหลัก หรือ ที่เรียกกันว่าน้ำจิ้ม ซึ่งสัดส่วนที่แนะนะคือประมาณ 5-10% ของพอร์ต
ส่วนนักลงทุนที่ต้องการเก็งกำไรนั้นสามารถที่จะมีสัดส่วนของสินทรัพย์ประเภทนี้เกินได้ แต่ต้องมีการซื้อขายทำกำไรเป็นช่วงๆ โดยดูจากจังหวะการลงทุนตาม Trading band หรือเป็นค่าเฉลี่ยของช่วงราคาในการซื้อขาย เมื่อดูจากค่าความผันผวนและค่ามัธยฐานของความผันผวน(ตามที่ผู้เขียนเข้าใจ) ซึ่งทอคำนั้นปัจจุบันมีช่วงราคาเมื่อดูจากค่ากลางของความผันผวนที่ประมาณ 17% นั้นจะอยู่ที่ประมาณ 870-980 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
 อีกนัยก็คือเป็นช่วงราคาเป้าหมายของราคาที่เหมาะสมถ้าสูงเกินไปก็ให้ขายทำกำไรและถ้าต่ำเกินไปก็ให้ซื้อ แต่อย่างไรก็ตามนักลงทุนควรมีเป้าหมายของตนเองด้วยเพื่อจะได้เป็นไปตามความต้องการที่แท้จริงของตนเอง ไม่ใช่ว่าจะต้องให้ต่ำกว่า 870 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์แล้วค่อยซื้อ หรือสูงเกิน 980 ดอลลาร์ต่อออนซ์แล้วค่อยขาย
 ทำกำไรที่ 10%* 

 กูรูด้านการลงทุนอย่าง นายไพศาล ครุฑดำรงชัย รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด เคยบอกว่า ความต้องการทองคำช่วงวิกฤตเศรษฐกิจนั้นกำลังกล่าวนั้นกลับถูกชดเชยด้วยความต้องการทองคำเพื่อเก็งกำไรที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งทิศทางของราคาทองคำในปีนี้จะปรับตัวขึ้นสูงและปรับลดลงจากการเทขายเพื่อทำกำไร และจะเป็นเช่นนี้ตลอดทั้งปี โดยนักวิเคราะห์ต่างประเทศคาดกันว่าราคาทองคำในปีนี้ไม่น่าจะปรับตัวสูงขึ้นเกิน 1,000 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์

 ทั้งนี้ นักลงทุนควรมีการจัดพอร์ตเพื่อลงทุนในทองคำด้วย และหากราคาทองคำปรับตัวลดลงมา นักลงทุนควรจัดเงินลงทุนซื้อทองคำประมาณ 10-20% จากเงินทั้งหมดที่ต้องการลงทุน ซึ่งหากราคาปรับตัวลงอีก จึงสามารถนำเงินส่วนที่เหลือเข้าซื้อได้อีก แต่หากราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นไปนักลงทุนอาจตัดสินใจขายออกเพื่อเก็งกำไรได้
 "อย่างไรก็ตามการลงทุนในทองคำนั้นมีความเสี่ยงค่อนข้างสูงหากนักลงทุนที่เก็งกำไรอยู่ในทองคำแล้วเห็นว่าราคาทองปรับขึ้นจนตนเองได้กำไรประมาณ 10% ก็ควรที่จะขายออก"  รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน กล่าวแนะนำ

 ร่ายยาวมาพอสมควรสรุปแล้ว นักลงทุนควรมีการกระจายความเสี่ยงเพื่อป้องกันความผันผวนต่างๆที่เกิดขึ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งความน่าสนใจของทองคำนั้นน่าจะมาจากราคาที่มักจะปรับเพิ่มขึ้นเมื่อเกิด เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน หรือไม่ปกติ

 เช่น สงคราม ความไม่แน่นอนทางการเมือง ฯลฯ นอกจากนี้ยังเป็นสินทรัพย์ที่มีความสำพันธ์กับตลาดหุ้น หรือตลาดพันธบัตรค่อนข้างต่ำ ซึ่งจะทำให้การลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์สามารถการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตโดยรวมได้ดี
นอกจากนี้ ยังเป็นสินทรัพย์ที่มีความต้องการเกิดขึ้นเสมอเนื่องจากเป็นสินค้าพื้นฐานที่มีความจำเป็น ส่วนราคานั้นถึงแม้จะมีการแกว่งตัวสูงแต่ก็มีแนวโน้มราคาที่สามารถคาดการณ์ได้อยู่

 เมื่อน่าสนใจแบบนี้แล้วใครจะต้องการลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทใดบ้างก็อย่าลืมศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อน

แต่ใครที่ต้องการลงทุนในทองคำนั้น สามารถพลิกดูที่หน้า 28 ของหนังสือพิมพ์ASTVผู้จัดการรายวันได้ทุกวัน เพราะเราจะรวบรวมความเคลื่อนไหวและข่าวคราวต่างๆจากนักวิเคราะห์มาให้ได้รับทราบกันอย่างต่อเนื่อง ส่วนวันนี้เตือนกันเช่นเดิมว่า นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุนทุกครั้ง

กำลังโหลดความคิดเห็น