xs
xsm
sm
md
lg

นครหลวงไทยเข็นทาร์เก็ตฟันด์ รับลูกค้าขาดทุนบอนด์ออสเตรเลีย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ธีรพันธุ์ จิตตาลาน
บลจ.นครหลวงไทย จ่อคิวกองทุนพันธบัตรรัฐบาลออสเตรเลีย อายุโครงการ 1 ปี ล็อกเป้าผลตอบแทน 10%  รองรับนักลงทุนที่ขายทุนจากบอนด์ออสซี่ พร้อมชงหุ้นจีน และสินค้าโภคภัณฑ์ เพิ่มทางเลือก

นายธีรพันธุ์ จิตตาลาน กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) นครหลวงไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมจัดตั้งกองทุนใหม่ที่เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลออสเตรเลีย โดยจะเป็นกองทุนแบบปิด อายุโครงการประมาณ 1 ปี และจะตั้งเป้าหมายผลตอบแทนไว้ที่ 10% เพื่อรองรับนักลงทุนที่ลงทุนในกองทุนเปิดเอสซีไอ พันธบัตรออสเตรเลีย (SCI AUS Bond) ที่จะครบกำหนดอายุโครงการในวันที่ 15 กันยายน 2552 ซึ่งเมื่อผลตอบแทนถึงเป้าหมายที่วางไว้จะทำการยกเลิกโครงการทันที
สาเหตุที่ตั้งเป้าหมายของกองทุนใหม่ไว้เพียง 10% เพราะว่ากองทุนเปิดเอสซีไอ พันธบัตรออสเตรเลีย ประสบกับภาวะขาดทุนเพียงเล็กน้อยไม่ถึงเปอร์เซ็นต์ ซึ่งแตกต่างจากกองทุนเปิดเอสซีไอ นิวซีแลนด์ บอนด์ (SCI NZ Bond) และกองทุนเปิดเอสซีไอ นิวซีแลนด์ บอนด์ 2 (SCI NZ Bond 2) ที่ขาดทุนมากกว่า

โดยเหมาะสมกับนักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้สูง และเชื่อว่าค่าเงินสกุลออสเตรเลียจะสามารถแข็งค่าขึ้นมาได้ หากไม่ต้องการเสี่ยงสูงก็อาจจะเลือกลงทุนในกองทุนที่เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ที่ให้ผลตอบแทนประมาณ 3% ต่อปีก็ได้
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้มีการกองทุนเปิดเอสซีไอ ออสเตรเลีย Target 15 (SCI AUS TG15) เพื่อรองรับนักลงทุนที่ลงทุนในกองทุนเปิดเอสซีไอ นิวซีแลนด์ บอนด์ และกองทุนเปิดเอสซีไอ นิวซีแลนด์ บอนด์ 2 ที่หมดอายุลงไปเช่นกัน

โดยได้มีการให้ความรู้กับนักลงทุนว่าค่าเงินสกุลดอลลาร์ออสเตรเลียมีโอกาสจะแข็งค่าขึ้นในอนาคต และยังมีสภาพคล่องสูงกว่าค่าเงินสกุลดอลลาร์นิวซีแลนด์ด้วย ซึ่งในช่วง 1 เดือนเศษที่ตั้งกองทุนขึ้นมาผลตอบแทนของกองทุนดังกล่าวได้ปรับตัวขึ้นไปประมาณ 5% แล้ว
นายธีรพันธุ์ กล่าวว่า บริษัทยังมีทางเลือกอื่นให้กับนักลงทุนอีกด้วย ได้แก่ กองทุนเปิดนครหลวงไทย China Fund (SCI CH) ที่เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มีขนาดใหญ่ในประเทศจีน และทำการจดทะเบียนในประเทศฮ่องกง (H-Share) ซึ่งดัชนีของตลาดเคยปรับขึ้นไปอยู่สุงสุดที่ระดับ 19,000 จุด

ขณะที่ในปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 6,000 จุดเท่านั้น ดังนั้น โอกาสที่จะปรับขึ้นไป 15% หรือที่ระดับ 13,000 จุดจึงมีโอกาสเป็นไปได้สูงเช่นกัน และยังมี P/E ไม่สูงอีกด้วย โดยกองทุนนี้จะตั้งเป้าหมายผลตอบแทนไว้ที่ 15% เมื่อถึงเป้าหมายก็จะเลิกทันทีเช่นกัน
ขณะที่กองทุนเปิดนครหลวงไทย Efficient Long-Short Commodity (LSCom) ที่มีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Citi COMET Index USD Fund ซึ่งเป็นกองทุนหลัก มีกลยุทธ์การลงทุนแบบ Long – Short เพื่อหากำไรจากความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (คอมมอดิตี้) นั้นจะทยอยออกตามมาในอนาคต โดยมองว่ากองทุนหุ้นจะปรับขึ้นไปก่อนสินทรัพย์อื่น ตามด้วยสินค้าโภคภัณฑ์ และอสังหาริมทรัพย์ (พร็อพเพอร์ตี้) ดังนั้น บริษัทจึงจะออกกองทุนหุ้นทั้งใน และต่างประเทศ จากนั้นจึงออกกองทุนที่เน้นลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ และอสังหาริมทรัพย์เป็นลำดับถัดไป
กำลังโหลดความคิดเห็น