บลจ. บีที ใช้สาขาแบงก์ รักษาฐานลูกค้าเก่า ควบคู่การเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ เน้นให้ข้อมูลข่าวสารผ่านสาขา ซลลิ้งเอเจนต์ กระตุ้นการทำธุรกรรมเพิ่ม ล่าสุดเร่งออกกองทุนหุ้นจีนและอินเดีย เพิ่มทางเลือกรับผลตอบแทนสูง
นายอนุสรณ์ บูรณกานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บีที จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ซีไอเอ็มบีเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของธนาคารไทยธนาคารและบริษัทในเครือ ส่งผลให้บลจ. บีทีเอง ต้องทำการให้ข้อมูลข่าวสารแก่นักลงทุนที่เป็นฐานลูกค้าเดิมให้มากขึ้นกับข้อมูลข่าวสารใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นกับทางบริษัท เพื่อเป็นการทำความเข้าใจให้แก่นักลงทุน
อีกทั้งยังเป็นการรักษาฐานลูกเค้าเก่าเอาไว้ รวมถึงการกระตุ้นในนักลงทุนที่เป็นฐานลูกค้าเก่าทำธุรกรรมกับบริษัทมากขึ้นด้วย ในส่วนของนักลงทุนกลุ่มใหม่ บริษัทก็ยังต้องทำการประชาสัมพันธ์ผ่านทางสาขาธนาคารและตัวแทนจำหน่าย (เซลลิ้งเอเจนท์) ให้มากขึ้นอีกเช่นกัน เพื่อเป็นการเพิ่มฐานลูกค้าให้เข้ามาลงทุนกับบริษัทมากขึ้น
โดยขณะนี้ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย มีฐานลูกค้าเงินฝาก 120,000 ราย มีสาขา 150 สาขา อยู่ในกรุงเทพฯ 100 สาขา และตามหัวเมืองใหญ่อีก 50 สาขา ซึ่งถือว่ากลุ่มคนที่มีเงินที่จะลงทุนเป็นกลุ่มคนที่อยู่ในเมืองและหัวเมืองใหญ่อยู่แล้ว ดังนั้น ในแง่ของเครือข่ายของธนาคารถือว่ามีความพร้อมในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆ ที่ครบวงจรให้กับลูกค้า
นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า ล่าสุดขณะนี้บริษัทเองก็กำลังเปิดขายกองทุน เปิดบีที เดลี่ อาเซียน อิควิตี้ ซึ่งมีนโยบายการลงทุนใน 5 กลุ่มหลักในแถบอาเซียน ไม่ว่าจะเป็น ประเทศไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และฟิลลิปปินส์ โดยจะมีการรีบาลานด์มากสุดที่ประเทศสิงคโปร์จะอยู่ที่ประมาณ 40% ส่วนที่เหลือประมาณ 15 – 20 % จะกระจายไปยังเป็น ประเทศไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลลิปปินส์
นอกจากนี้ ยังมีแผนจะออกกองทุนหุ้นต่อเนื่องทันที ซึ่งกำลังดูอยู่ว่าจะออกกองทุนหุ้นที่ลงทุนในประเทศจีนหรือในประเทศอินเดียก่อน เพราะต้องดูให้เหมาะสมกับความต้องการของนักลงทุนและผลตอบแทนที่จะได้รับของนักลงทุนด้วย
นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทเองได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุนในการเข้ามาลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงิน (มันนีมาร์เก็ต) เนื่องจากว่าครึ่งปีแรกนั้น อัตราดอกเบี้ยเงินฝากมีจำนวนที่ต่ำมาก ดังนั้น นักลงทุนจึงได้หาช่องทางใหม่ ๆ เพื่อได้รับผลตอบแทนที่ดี จึงทยอยเข้ามาลงทุนในกองทุนดังกล่าวเป็นจำนวนมาก และถึงแม้ว่ากองทุนมันนี่มาร์เก็ตจะเป็นกองทุนพื้นฐาน ที่หลาย ๆ บลจ. ต่างก็มีกันอยู่แล้ว
ขณะเดียวกัน นักลงทุนอาจจะมองว่าไม่ค่อยน่าสนใจสักเท่าไหร่ แต่ถ้าเทียบกันในขณะนี้ นักลงทุนที่เป็นลูกค้าเงินฝากธนาคารเองที่ได้รับความเสี่ยงได้น้อยนั้น มีจำนวนมากที่กำลังหาช่องทางใหม่ ๆ ที่คล้าย ๆ กับการนำเงินไปฝากธนาคาร แต่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยเงินฝากขณะนี้ไม่ค่อยน่าสนในใจเท่าที่ควร
