บลจ.นครหลวงไทย จ่อคิวเอฟไอเอฟลุยหุ้นจีน เน้นลงทุนบริษัทขนาดใหญ่ ที่จดทะเบียนในฮ่องกง คาดเปิดขายหน่วยลงทุนได้เร็วๆนี้ ล่าสุด ส่งกองทุนเกาหลี รองรับดีมานด์ลูกค้าก่อน ไอพีโอถึง 16 กันยายนนี้

นายธีรพันธุ์ จิตตาลาน กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน นครหลวงไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเล็งเห็นจังหวะที่เหมาะสมในการลงทุนในหุ้นจีน จึงเตรียมเปิดเสนอขายกองทุนทางเลือกที่น่าสนใจ ได้แก่ กองทุนเปิดนครหลวงไทย China Fund (SCI CH) ซึ่งเป็นกองทุน Feeder Fund ที่ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมประเภท Equity Exchange Traded Fund (Equity ETF) เช่น Hang Seng H-Share Index ETF ซึ่งเป็นหุ้นของบริษัทที่มีขนาดใหญ่ในประเทศจีนและทำการจดทะเบียนในประเทศฮ่องกง (H-Share) (เป็นกองทุนหลัก) โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายสร้างผลตอบแทนให้เป็นไปตามสินทรัพย์อ้างอิง คือ ดัชนี Hang Seng China Enterprises Index (HSCEI Index) มากที่สุด โดยลงทุนในรูปสกุลเงินดอลล่าร์ฮ่องกง ผ่านการทำธุรกรรม Total Return Swap ทั้งนี้ คาดว่ากองทุนดังกล่าวจะสามารถเปิดเสนอหน่วยลงทุนได้ขายเร็ว ๆ นี้
อย่างไรก็ตาม ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ทำการปิดกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ FIF ประเทศเกาหลีใต้ กองทุนเปิดเอสซีไอ ตราสารหนี้ต่างประเทศ จีไอ 6M2/09 หลังจากครบอายุโครงการ 6 เดือน โดยผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้รับอัตราผลตอบแทนที่ 3.29% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าที่เคยประมาณการไว้จากเดิมคือ 3.25% ต่อปี
ทั้งนี้ บริษัทเตรียมเปิดเสนอขายกองทุนพันธบัตรรัฐบาลอีก 1 กองทุน โดยลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลี หรือพันธบัตรธนาคารแห่งชาติเกาหลีใต้ ได้แก่ กองทุนเปิดนครหลวงไทย ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน1/09 ที่มีอายุประมาณ 6 เดือน มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ด้วยอัตราผลตอบแทนประมาณ 2.00% ต่อปี (หลังหักค่าใช้จ่ายประมาณ 0.50%) ลงทุนขั้นต่ำของกองทุนเพียง 2,000 บาท โดยจะเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งเดียวตั้งแต่วันที่ 10 – 16 กันยายนนี้
สำหรับกองทุนดังกล่าว มีนโยบายการลงทุนกองทุน NKT FFI6M1/09 ลงทุนใน Korea Monetary Stabilization Bond (MSB) และ Korea Treasury Bond (KTB) ซึ่งเป็นตราสารหนี้พันธบัตรรัฐบาลและ/หรือสถาบันการเงินประเทศเกาหลีใต้ ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารระยะสั้น A-1 จากสถาบัน S&P Rating โดยลงทุนในสัดส่วนประมาณ 100% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ระดับความเสี่ยงต่ำ ถือว่าเป็นกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นที่เหมาะสำหรับไว้พักเงินลงทุนเพื่อรอจังหวะการลงทุนในครั้งต่อไป
นายธีรพันธุ์ จิตตาลาน กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน นครหลวงไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเล็งเห็นจังหวะที่เหมาะสมในการลงทุนในหุ้นจีน จึงเตรียมเปิดเสนอขายกองทุนทางเลือกที่น่าสนใจ ได้แก่ กองทุนเปิดนครหลวงไทย China Fund (SCI CH) ซึ่งเป็นกองทุน Feeder Fund ที่ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมประเภท Equity Exchange Traded Fund (Equity ETF) เช่น Hang Seng H-Share Index ETF ซึ่งเป็นหุ้นของบริษัทที่มีขนาดใหญ่ในประเทศจีนและทำการจดทะเบียนในประเทศฮ่องกง (H-Share) (เป็นกองทุนหลัก) โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายสร้างผลตอบแทนให้เป็นไปตามสินทรัพย์อ้างอิง คือ ดัชนี Hang Seng China Enterprises Index (HSCEI Index) มากที่สุด โดยลงทุนในรูปสกุลเงินดอลล่าร์ฮ่องกง ผ่านการทำธุรกรรม Total Return Swap ทั้งนี้ คาดว่ากองทุนดังกล่าวจะสามารถเปิดเสนอหน่วยลงทุนได้ขายเร็ว ๆ นี้
อย่างไรก็ตาม ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ทำการปิดกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ FIF ประเทศเกาหลีใต้ กองทุนเปิดเอสซีไอ ตราสารหนี้ต่างประเทศ จีไอ 6M2/09 หลังจากครบอายุโครงการ 6 เดือน โดยผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้รับอัตราผลตอบแทนที่ 3.29% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าที่เคยประมาณการไว้จากเดิมคือ 3.25% ต่อปี
ทั้งนี้ บริษัทเตรียมเปิดเสนอขายกองทุนพันธบัตรรัฐบาลอีก 1 กองทุน โดยลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลี หรือพันธบัตรธนาคารแห่งชาติเกาหลีใต้ ได้แก่ กองทุนเปิดนครหลวงไทย ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน1/09 ที่มีอายุประมาณ 6 เดือน มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ด้วยอัตราผลตอบแทนประมาณ 2.00% ต่อปี (หลังหักค่าใช้จ่ายประมาณ 0.50%) ลงทุนขั้นต่ำของกองทุนเพียง 2,000 บาท โดยจะเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งเดียวตั้งแต่วันที่ 10 – 16 กันยายนนี้
สำหรับกองทุนดังกล่าว มีนโยบายการลงทุนกองทุน NKT FFI6M1/09 ลงทุนใน Korea Monetary Stabilization Bond (MSB) และ Korea Treasury Bond (KTB) ซึ่งเป็นตราสารหนี้พันธบัตรรัฐบาลและ/หรือสถาบันการเงินประเทศเกาหลีใต้ ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารระยะสั้น A-1 จากสถาบัน S&P Rating โดยลงทุนในสัดส่วนประมาณ 100% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ระดับความเสี่ยงต่ำ ถือว่าเป็นกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นที่เหมาะสำหรับไว้พักเงินลงทุนเพื่อรอจังหวะการลงทุนในครั้งต่อไป