xs
xsm
sm
md
lg

บอนด์เกาหลียิลด์หดแต่ยังขายได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ไพศาล ครุฑดำรงชัย
ตลาดกองทุนตราสารหนี้แดนกิมจิยังไปได้ ล่าสุด เศรษฐกิจเกาหลีฟื้นตัว ฉุดผลตอบแทนลด แต่บลจ. ยังส่งกองใหม่ โกยเงินต่อเนื่อง "ทหารไทย" แตะเบรก รอความชัดเจน ด้าน "นครหลวงไทย" จับลูกค้าเล่นสั่น เสนอ 2 กองทุน ล็อกเงิน 3 เดือนและ 9 เดือน ขณะที่"ธนชาต" ยังขายดี เต็มมูลค่าแล้ว

นายไพศาล ครุฑดำรงชัย รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน บลจ.ทหารไทย กล่าวถึงการเปิดขายกองทุนพันธบัตรเกาหลีใต้ว่า จากเดิมที่บริษัทเตรียมที่จะเปิดขายกองทุนพันธบัตรเกาหลีใต้ต่อเนื่องเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานั้น ทางบริษัทได้ชะลอการเปิดขายออกไปเนื่องจาก ภาวะเศรษฐกิจของประเทศเกาหลีนั้นมีการเคลื่อนไหวและส่งผลมาถึงเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างค่าเงินบาทกับค่าเงินวอน

ทั้งนี้ เนื่องจากมีเม็ดเงินจากต่างประเทศไหลเข้าไปจำนวนมาก ส่งผลให้ค่าเงินวอน มีการแข็งค่าขึ้นมาอย่างมากในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยค่าวอนของเกาหลีใต้นั้นได้ปรับตัวแข็งค่าขึ้นมากที่สุดในเอเชีย

 อย่างไรก็ตาม บริษัทได้เตรียมเปิดขายกองทุนพันธบัตรเกาหลีใต้ต่อเนื่องอีก ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ แต่กองทุนจะเปิดขายใหม่นี้ผลตอบแทนของกองทุนจะปรับลดลงไป
ธีรพันธุ์  จิตตาลาน
นายธีรพันธุ์  จิตตาลาน กรรมการผู้จัดการ บลจ. นครหลวงไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้มีการเปิดเสนอขายกองทุนเปิดตราสารหนี้ระยะสั้น 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดเอสซีไอ ตราสารหนี้ต่างประเทศ จีไอ 9M6/09  มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท อายุประมาณ 9 เดือน คาดว่าสามารถให้ผลตอบแทนประมาณ 2.10% ต่อปี และกองทุนเปิดเอสซีไอ ตราสารหนี้ต่างประเทศ จีไอ 3M3/09  อายุประมาณ 3 เดือน มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท คาดว่าสามารถให้ผลตอบแทนประมาณ 1.50% ต่อปี และเปิดขายหน่วยลงทุนครั้งแรก(IPO) พร้อมกันตั้งแต่วันนี้ – 10 สิงหาคม 2552 และมีมูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำ 2,000 บาท
ทั้งนี้ ตราสารหนี้ต่างประเทศที่กองทุนเข้าไปลงทุนของกองทุน SCI INGI9M6/09 ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลรุ่น Monetary Stabilization Bond (MSB)/ Korea Treasury Bond (KTB) ของประเทศเกาหลีใต้ และกองทุน SCI INGI3M3/09 ลงทุนใน Monetary Stabilization Bond (MSB)/ The Export-Import Bank of Korea (KEXIM) ซึ่งเป็นพันธบัตรรัฐบาล และ/หรือองค์กรภาครัฐวิสาหกิจที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศผู้ออกตราสารระยะสั้น A-1จากสถาบัน S&P Rating ซึ่งมีสัดส่วนการลงทุนโดยประมาณ 100% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ  โดยกองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และผู้ลงทุนประเภทบุคคลธรรมดายังไม่ต้องรับภาระเรื่องภาษีจากผลตอบแทน

 สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศเกาหลีล่าสุด มีสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจน มีผลมาจากการส่งออกที่กลับมาเป็นบวก 11.2% จากที่ติดลบไป 4.3% ในช่วงไตรมาสแรก แม้ว่าเศรษฐกิจเกาหลีใต้จะส่งสัญญาณฟื้นตัว และมั่นใจได้มากขึ้น แต่พบว่าต้นทุนในการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน (สวอป) กลับเพิ่มขึ้น ดังนั้น ผลตอบแทนที่ได้จึงไม่สูงมากเหมือนก่อนหน้านี้ แต่หากเทียบกับพันธบัตรในประเทศแล้วถือว่ายังให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า
บุญชัย เกียรติธนาวิทย์
นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บลจ. ธนชาต กล่าวว่า ภายหลังจากที่บริษัทได้เปิดขายกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ต่างประเทศ 23 (T-FixFIF23) ไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ปรากฏว่าขณะนี้กองทุนดังกล่าวได้ปิดการเสนอขายหน่วยลงทุนก่อนครบกำหนดระยะเวลาการเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก

เนื่องจากมีการสั่งซื้อหน่วยลงทุนเต็มตามจำนวนเงินทุนของโครงการ ซึ่งกองทุนดังกล่าวจะเข้าไปลงทุนในพันธบัตรภาครัฐประเทศเกาหลีใต้ เช่น พันธบัตรธนาคารแห่งชาติเกาหลีใต้ หรือพันธบัตรภรัฐบาลเกาหลีใต้ ซึ่งกองทุนได้ทำการป้องกันความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนแล้ว โดยกองทุนนี้ มีอายุของโครงการประมาณ 6 เดือน และมีมูลค่ากองทุน 1,400 ล้านบาท คาดว่าจะให้ผลตอบแทนประมาณการอยู่ที่ 2.5% ต่อไป
ทั้งนี้ จากสภาพของการลงทุนในขณะนี้ยังคงไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงมากนัก เนื่องจากว่าผลตอบแทนของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าอัตราดอกเบี้ยจะมีการปรับขึ้นมาบ้างเล็กน้อยก็ตาม แต่นักลงทุนเองยังคงเแสวงหาช่องทางการลงทุนในช่วงระยะสั้นประมาณ 6 - 7 เดือนที่สามารถให้ผลตอบแทนทีดี ซึ่งส่วนใหญ่แล้วยังคงเป็นนักลงทุนกลุ่มเดิมที่เคยเข้ามาลงทุนในกองทุนของบริษัท

 นายบุญชัย กล่าวต่อว่า สำหรับในอนาคตต่อไปกับการออกกองทุนเกาหลีใต้ บริษัทยังคงต้องรอดูสถานการณ์การลงทุนก่อน เนื่องจากว่าเศรษฐกิจของประเทศเกาหลีเริ่มมีการปรับตัวดีขึ้น ดังนั้นถ้าเราเข้าไปลงทุนจะทำให้ผลตอบแทนลดน้อยลงจากแต่ก่อน
กำลังโหลดความคิดเห็น