xs
xsm
sm
md
lg

เอ็มเอฟซีกำไรหุ้นไทย ปันผล"Hi-Div"หน่วยละ1.50บาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.เอ็มเอฟซีโชว์ผลงาน กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี ไฮ-ดิวิเดนด์ ฟันด์ เผยผลตอบแทนจากการลงทุนทั้งสิ้น 36.94% ผู้ถือหน่วยลงทุนเตรียมรับเงินปันผลงวดสองในรอบ 7 เดือน หน่วยลงทุนละ 1.50 บาท


นายพิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บลจ.เอ็มเอฟซีเตรียมจ่ายเงินปันผลของกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี ไฮ-ดิวิเดนด์ ฟันด์ หรือ HI-DIV ครั้งที่สองในรอบ 7 เดือน ในอัตราหน่วยลงทุนละ 1.50 บาท หรือเท่ากับร้อยละ 10.5 เมื่อเทียบกับมูลค่าที่ตราไว้ (หน่วยละ 10 บาท) สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 21 เมษายน 2552 – 7 สิงหาคม 2552 ให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่อ ณ วันปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 21 สิงหาคม 2552 โดยมีกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 28 สิงหาคม 2552

ทั้งนี้ ตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเปิด Hi-Div เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2552 ผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนเปิด Hi-Div ได้รับเงินปันผลงวดแรกไปแล้วช่วงต้นเดือนพฤษภาคมในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.78 บาท เมื่อรวมกับการจ่ายเงินปันผลงวดสองปลายเดือนนี้ในอัตราหน่วยลงทุนละ 1.50 บาท ผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้รับเงินปันผลรวม 2.28 บาทต่อหน่วยลงทุน โดย ณ วันที่ 25 สิงหาคม 2552 กองทุนเปิด Hi-Div มีมูลค่าหน่วยลงทุน 11.8645 บาทหรือเติบโต 18.64% หากรวมกับผลตอบแทนของเงินปันผลครั้งแรก 7.8% และครั้งที่สอง 10.5% ผลตอบแทนจากการลงทุนทั้งสิ้นในกองทุนเปิด Hi-Div จึงเท่ากับ 36.94%

สำหรับกองทุนเปิด HI-DIV เน้นลงทุนในหุ้นที่จ่ายเงินปันผลดีและสม่ำเสมอต่อเนื่อง มีผลตอบแทนที่ดีเนื่องจากบริษัทได้เปิดเสนอขายกองทุนและเข้าลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งถือได้ว่าเป็นจังหวะที่ดีอย่างมากในการเข้าลงทุนเนื่องจากการปรับตัวลดลงอย่างมากของดัชนีตลาดหลักทรัพย์เมื่อปี 2551 โดยดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ช่วงที่กองทุนเข้าลงทุนอยู่ที่ระดับประมาณ 430 จุดนอกจากนี้ ผู้จัดการกองทุนยังเน้นการคัดเลือกหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลดี เหมาะสมกับภาวะตลาดที่ค่อนข้างผันผวนในขณะนั้น

โดยจุดเด่นของกองทุนเปิด HI-DIV คือเป็นกองทุนรวมตราสารทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีการจ่ายเงินปันผลที่ดีและสม่ำเสมอมาตลอดอย่างน้อย 3 ปีย้อนหลัง หรือมีศักยภาพในการจ่ายเงินปันผลที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเลือกลงทุนหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดีในขณะที่ราคาของหุ้นได้ปรับตัวลดลงไปมากกว่ามูลค่าที่แท้จริง และหุ้นที่มีแนวโน้มของธุรกิจที่มีความมั่นคง มีความผันผวนต่ำเมื่อเทียบกับสภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้ กองทุนยังเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารกองทุน และลดความเสี่ยงจากการลงทุนในกรณีที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวลดลง โดยสามารถลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าใน SET50 Index Futures ได้ ทั้งนี้กองทุนมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลอย่างน้อยปีละครั้งในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของรายได้จากการลงทุนสุทธิ หรือจ่ายจากกำไรสะสม
กำลังโหลดความคิดเห็น