xs
xsm
sm
md
lg

MFCโชว์ผลงาน"HI-DIV"พุ่ง14.93%ใจดีปันผลงวดแรกหน่วยละ0.78บาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พิชิต อัคราทิตย์
ASTVผู้จัดการรายวัน - เอ็มเอฟซีโชว์ผลตอบแทน "ไฮ-ดิวิเดนด์ ฟันด์"  4 เดือนพุ่ง 14.93% ล่าสุด เตรียมจ่ายเงินปันผลงวดแรก ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.78 บาท หลังฟันกำไรจากหุ้นปันผล

 นายพิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า  เอ็มเอฟซีเตรียมจ่ายเงินปันผลของกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี ไฮ-ดิวิเดนด์ ฟันด์ หรือ HI-DIV ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.78 บาท หรือเท่ากับร้อยละ 7.8 เมื่อเทียบกับมูลค่าที่ตราไว้ (หน่วยละ 10 บาท) สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 22 มกราคม 2552 - 20 เมษายน 2552 ให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่อ ณ วันปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 4 พฤษภาคม 2552 โดยมีกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 12 พฤษภาคม 2552 
 
 ทั้งนี้ กองทุนเปิด HI-DIV ซึ่งเน้นลงทุนในหุ้นที่จ่ายเงินปันผลดีและสม่ำเสมอต่อเนื่อง ได้เปิดเสนอขายกองทุนและเข้าลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งถือได้ว่าเป็นจังหวะที่ดีอย่างมากในการเข้าลงทุนเนื่องจากการปรับตัวลดลงอย่างมากของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในช่วงปีที่แล้ว รวมถึงตอบรับการจ่ายเงินปันผลในช่วงไตรมาสแรกของบริษัทที่กองทุนเลือกลงทุน ทำให้กองทุนเปิด HI-DIV มีผลการดำเนินงานย้อนหลังดีกว่าเกณฑ์มาตรฐานของกองทุน โดย ณ วันที่ 30 เมษายน 2552 ผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุนตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (วันที่ 22 มกราคม 2552) เท่ากับร้อยละ 14.93 มากกว่าเกณฑ์มาตรฐานของกองทุนอยู่ร้อยละ 2.74 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 12.19
โดยจุดเด่นของกองทุนเปิด HI-DIV คือเป็นกองทุนรวมตราสารทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีการจ่ายเงินปันผลที่ดีและสม่ำเสมอมาตลอดอย่างน้อย 3 ปีย้อนหลัง หรือมีศักยภาพในการจ่ายเงินปันผลที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเลือกลงทุนหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดีในขณะที่ราคาของหุ้นได้ปรับตัวลดลงไปมากกว่ามูลค่าที่แท้จริง  และหุ้นที่มีแนวโน้มของธุรกิจที่มีความมั่นคง มีความผันผวนต่ำเมื่อเทียบกับสภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป

 นอกจากนี้ กองทุนยังเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารกองทุน และลดความเสี่ยงจากการลงทุนในกรณีที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวลดลง โดยสามารถลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าใน SET50 Index Futures ได้ ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลอย่างน้อยปีละครั้งในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของรายได้จากการลงทุนสุทธิ หรือจ่ายจากกำไรสะสม
กำลังโหลดความคิดเห็น