xs
xsm
sm
md
lg

กระแสบอนด์โสมแรงยังดี 2บลจ.ส่งไอพีโอเรียกเงินต่อเนื่อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 บลจ.แอสเซท พลัส ส่ง"แอ็คทีฟเอฟไอเอฟ 8" ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ หรือตราสารภาครัฐเกาหลีใต้ 9 เดือน ชูผลตอบแทน 2.38% ต่อปี  พร้อม 3 กองโรลโอเวอร์บอนด์ในประเทศเรียกเม็ดเงินต่อเนื่อง ขณะที่ บลจ.ธนชาตคลอด "ธนชาตตราสารหนี้ต่างประเทศ 18" อายุ 1 ปี 11 เดือน เปิดไอพีโอพร้อมกันวันนี้ – 2 กันยายน 2552
 นายวิน อุดมรัชต์วนิชย์ ผู้จัดการกองทุนอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยในช่วงนี้ได้รับแรงกดดันทั้งจากจากปริมาณพันธบัตรรัฐบาลที่เข้ามาในตลาดจากการออกพันธบัตรออมทรัพย์ของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งจะเสนอขายให้กับนักลงทุนรายย่อยในช่วงต้นเดือนกันยายน และแนวโน้มเชิงบวกด้านการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ  ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้โดยรวมปรับตัวสูงขึ้น 
 ทั้งนี้ ในส่วนของกองทุนตราสารหนี้ภายใต้การบริหารของบริษัทฯ ได้ปรับลด Duration มาให้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 1 ปี เพื่อลดความผันผวนในด้านความเสี่ยงจากการปรับตัวของอัตราดอกเบี้ย (Interest rate risk) เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลมีโอกาสปรับขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุคงเหลือมากกว่า 5 ปี
 ขณะที่แนวโน้มอัตราดอกเบี้ย นายวิน ให้ความเห็นว่า อัตราดอกเบี้ยตราสารหนี้ในประเทศน่าจะมีแนวโน้มปรับขึ้นในช่วง 2-3 ปี หากเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศปรับตัวดีขึ้น โดยจะส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับสูงขึ้น เช่น ราคาน้ำมัน และ ราคาเหล็ก โดยคาดว่าน่าจะเริ่มเห็นผลประมาณสิ้นไตรมาส 4 หรือต้นไตรมาส 1 ปี 2553 และผลักดันอัตราเงินเฟ้อให้ปรับเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ในส่วนของ บลจ.แอสเซท พลัส คาดการณ์ว่า หากภาวะการณ์ต่าง ๆ เป็นไปตามที่ตั้งสมมุติฐานไว้ อัตราดอกเบี้ยนโยบาย น่าจะอยู่ที่ระดับ 1.25% ในปีนี้ และมีโอกาสปรับสูงขึ้นในช่วงต้นปีหน้า
 นายวิน กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้ช่วงนี้แม้ว่าอัตราผลตอบแทนจะปรับลดลงแต่โดยรวมผลตอบแทนยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจเมื่อเปรียบเทียบกับเงินฝากอายุใกล้เคียงกันในประเทศ โดยแนวโน้มอัตราผลตอบแทนจากกองทุนพันธบัตรเกาหลีใต้ในช่วงต่อไปน่าจะมีการปรับลดลง จากแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศเกาหลีใต้ที่ปรับดีขึ้นทั้งในภาคอุตสาหกรรม ภาคการผลิต และภาคส่งออก ประกอบกับรัฐบาลเกาหลีใต้ได้ปรับนโยบายหันมาระดมทุนในประเทศมากขึ้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ค่าประกันความกังวลในเรื่องความเสี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ (Credit Default Swap (CDS)) ปรับลดลง และค่าเงินวอนแข็งค่าขึ้น
 
ด้านนางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาด บลจ. แอสเซท พลัส  กล่าวว่า สำหรับในช่วงนี้ บลจ.ได้เสนอขายกองทุนที่มีความหลากหลายมากขึ้น ทั้งกองทุนที่ลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้ กองทุนตราสารหนี้ในประเทศ และกองทุนที่ลงทุนพันธบัตรรัฐบาลไทย ที่มีรอบระยะการลงทุนที่หลากหลาย ทั้ง 9 เดือน 6 เดือน และ 3 เดือน เพื่อสนองตอบความต้องการของผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะเวลาสั้นๆ
 สำหรับกองทุนแรกซึ่งเป็นกองทุนใหม่ เปิดเสนอขาย IPO ตั้งแต่วันนี้ – 2 กันยายน นี้ คือ กองทุนเปิดแอ็คทีฟเอฟไอเอฟ 8 โดยเป็นกองทุนต่างประเทศ ที่เปิดเสนอขายเป็นรอบระยะเวลา สำหรับรอบการลงทุนนี้ จะพิจารณาลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ (Korea Monetary Stabilization Bond (MSB) หรือ Export-Import Bank of Korea (KEXIM) หรือ Korea Development Bank (KDB) มีรอบการลงทุนประมาณ 9 เดือน โดยคาดว่ากองทุนจะสามารถให้ผลตอบแทนหลังจากทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงเต็มจำนวนและหักค่าใช้จ่ายกองทุนแล้ว อยู่ที่ประมาณ 2.38% ต่อปี
 ขณะเดียวกันในวันที่ 2 กันยายน บริษัทจะเปิดขายและรับซื้อคืนรอบใหม่ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสแอ็คทีฟตราสารหนี้ 5โดยลงทุนในตราสารหนี้เอกชนในประเทศ เช่น ตั๋วแลกเงินธนาคารทิสโก้ (TISCO) บมจ.ภัทรลิสซิ่ง (PL) บจ.อยุธยา ดีเวลลอปเม้นท์ ลีสซิ่ง (ADLC) บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) และธนาคารแลนด์แอนด์เฮาส์ (LHB) รอบการลงทุนนี้ประมาณ  6 เดือน คาดผลตอบแทน 1.75% ต่อปี  และกองทุนเปิดแอสเซทพลัสแอ็คทีฟพันธบัตร 1 เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย และตั๋วแลกเงินธนาคารแลนด์แอนด์เฮาส์  รอบการลงทุนนี้ประมาณ  3 เดือน คาดผลตอบแทน 1.00% ต่อปี
 
รายงานข่าวจากบลจ. ธนชาต กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทกำลังเปิดขายกองทุนเปิดธนชาตตาสารหนี้ต่างประเทศ 18(Thanachart Fixed Income FIF 18 หรือ T-FixFIF18) โดยเริ่มเปิดขายไอพีโอแล้วตั้งแต่วันนี้ ถึง วันที่ 2  กันยายน 2552 ซึ่งกองทุนได้รับการอนุมัติให้จัดตั้งกองทุนแล้วตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน 2552 แล้ว
 ทั้งนี้ กองทุนมีอายุโครงการประมาณ 1 ปี 11 เดือน และมีมูลค่าโครงการอยู่ที่ 1,400 ล้านบาท โดยในระหว่างระยะเวลาการเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก อาจเสนอขายหน่วยลงทุนเกินจำนวนเงินทุนของโครงการได้ไม่เกิน 210 ล้านบาทโดยกองทุนจะเข้าไปลงทุนหลักทรัพย์ หรือทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับตราสารหนี้ เงินฝาก หรือตราสารทางการเงินต่าง  ๆ ของภาครัฐและเอกชน โดยกองทุนจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ต่างประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนซึ่งการลงทุนดังกล่าวจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือประกาศสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด หรือตามที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.เห็นชอบให้ลงทุนได้ โดยกองทุนดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐของประเทศเกาหลีใต้ เช่น พันธบัตรธนาคารแห่งชาติเกาหลีใต้ พันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้
 นอกจากนี้กองทุนอาจจะเข้าไปลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพื่อป้องกันความเสี่ยง หรือจัดให้มีการป้องกันความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน เช่นอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ที่อาจเกิดขึ้นได้จากการลงทุนในต่างประเทศตามความเหมาะสม และสภาวการณ์ในแต่ละขณะ โดยจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ตอบแทน และตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง
 ขณะเดียวกันกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ต่างประเทศ 18 จะทำการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวนสำหรับมูลค่าตราสารหนี้ประเทศเกาหลีใต้ที่กองทุนลงทุน ซึ่งมีความเสี่ยงที่คู่สัญญาอาจจะไม่สามารถปฎิบัติตามข้อผูกพันหรือสัญญาดังกล่าวได้กองทุนจึงพิจารณาทำธุรกรรมดังกล่าวกับสถาบันทางการเงินที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับที่สามารถลงทุนได้
กำลังโหลดความคิดเห็น