บลจ.แอสเซท พลัส หวั่นหุ้นไทยปรับฐาน ฉุดผลตอบแทนไปไม่ถึงเป้า ล่าสุด ปรับแผนบริหารพอร์ต 2 กองทุนหุ้น "ASP-SSF18/18" และ "ASP-SMART" เน้นทำกำไรคืนให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนเร็วขึ้น
นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาก ดัชนีตลาดหลักทรัพย์มีการปรับฐานเป็นระยะๆ ตามปัจจัยด้านการลงทุนที่ส่งผลกระทบต่อตลาด ซึ่งบริษัทคาดการณ์ว่า จะส่งผลต่อกองทุนหุ้นประเภทกองทุนปิดภายใต้การจัดการ จึงได้มีการหารือ เพื่อปรับแผนการลงทุนให้สามารถหาช่องทางในการสร้างผลตอบแทนตามภาวะตลาดดังกล่าว โดยในส่วนของ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสซีเล็คทีฟสต็อกส์ 18/18 (ASP-SSF18/18) ซึ่งเป็นกองทุนปิดอายุ 18 เดือน และกองทุนแอสเซทพลัสสมาร์ทเอควิตี้ (ASP-SMART) กองทุนปิดอายุ 3 ปี ได้ขอแก้ไขโครงการเรื่อง การรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ โดยได้กำหนดระดับที่กองทุนสามารถจ่ายคืนผลตอบแทนได้ในช่วงภาวะตลาดปัจจุบัน
ทั้งนี้ ทางบริษัทมองว่า อัตราผลตอบแทนที่กองทุนมีโอกาสถึงเป้าหมายได้ง่ายในช่วงตลาดปัจจุบัน คือประมาณ 5% ดังนั้น กองทุนแอสเซทพลัสซีเล็คทีฟสต็อกส์ 18/18 ซึ่งคาดว่าจะสามารถปรับตัวดีจากตราสารในพอร์ตการลงทุนมีศักยภาพในการปรับตัวสูง เมื่อเทียบกับการปรับตัวของตลาด (High beta) บริษัทจึงขอแก้ไขโครงการ เรื่อง การจ่าย auto redeem จากเดิม เมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนเท่ากับ 18 บาท (8%ของเงินลงทุนเริ่มแรก) และเลิกกองทุนเมื่ออายุ 18 เดือน แล้วแต่เหตุการณ์ใดจะเกิดก่อน เป็น จ่าย auto redeem เมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนปรับขึ้นผ่านจุดที่มีมูลค่าเท่ากับ 10.50 บาท (5% ของเงินลงทุนเริ่มแรก) และเลิกกองทุนเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุน 11.00 บาท หรือครบอายุ 15 เดือน
ในส่วนของกองทุนแอสเซทพลัสสมาร์ทเอควิตี้ (ASP-SMART) ได้มีแก้ไขการจ่าย auto redeem เป็น 5% เพื่อให้ผู้ถือหน่วยลงทุนมีโอกาสได้รับคืนผลตอบแทนที่เร็วขึ้นเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากการแก้ไขโครงการดังกล่าว ส่งผลให้ทั้ง 2 กองทุนสามารถจ่ายคืนผลตอบแทนอัตโนมัติให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนได้ในอัตรา 0.50 บาทต่อหน่วย โดยกองทุน ASP-SSF18/18 มีมูลค่าหน่วยลงทุนเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับ 10.5842 บาท บริษัทฯ จึงได้ทำการจ่ายคืนผลตอบแทนอัตโนมัติให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน หน่วยลงทุนละ 0.50 บาท โดยกำหนดจ่ายในวันที่ 6 สิงหาคม 2552
นอกจากนี้ กองทุน ASP-SMART สามารถจ่ายคืนผลตอบแทนอัตโนมัติให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนได้เช่นกัน ในอัตราหน่วยละ 0.50 บาท หลังจาก NAV ของกองทุนเพิ่มขึ้นแตะที่ระดับ 12.5430 บาท โดยจะจ่ายคืนให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 7 สิงหาคม นี้ โดยการจ่ายคืนผลตอบแทนครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 3 โดยรวมทั้งหมดกองทุนได้จ่ายคืนผลตอบแทนให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนไปแล้วจำนวน 2.50 ต่อหน่วยลงทุน หรือคิดเป็น 25% ของเงินลงทุนเริ่มแรก นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2552
นางสาวจารุลักษณ์ กล่าวว่าการคาดการณ์และปรับแผนการบริหารกองทุนของ 2 กองทุนหุ้นดังกล่าว ถือเป็นความสำเร็จในการบริหารเงินลงทุนที่สามารถเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนของผู้ถือหน่วยลงทุน ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะเสนอขายกองทุนที่มีรูปแบบการลงทุนในลักษณะเดียวกับ ASP-SMART ซึ่งเน้นการจัดพอร์ตเพื่อสร้างโอกาสผลตอบแทนจากตลาดหุ้นในลักษณะ Absolute return ทั้งนี้ เพื่อรองรับความต้องการของผู้ลงทุน โดยคาดว่าจะนำเสนอเมื่อภาวะตลาดมีความเหมาะสมในอนาคต
นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาก ดัชนีตลาดหลักทรัพย์มีการปรับฐานเป็นระยะๆ ตามปัจจัยด้านการลงทุนที่ส่งผลกระทบต่อตลาด ซึ่งบริษัทคาดการณ์ว่า จะส่งผลต่อกองทุนหุ้นประเภทกองทุนปิดภายใต้การจัดการ จึงได้มีการหารือ เพื่อปรับแผนการลงทุนให้สามารถหาช่องทางในการสร้างผลตอบแทนตามภาวะตลาดดังกล่าว โดยในส่วนของ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสซีเล็คทีฟสต็อกส์ 18/18 (ASP-SSF18/18) ซึ่งเป็นกองทุนปิดอายุ 18 เดือน และกองทุนแอสเซทพลัสสมาร์ทเอควิตี้ (ASP-SMART) กองทุนปิดอายุ 3 ปี ได้ขอแก้ไขโครงการเรื่อง การรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ โดยได้กำหนดระดับที่กองทุนสามารถจ่ายคืนผลตอบแทนได้ในช่วงภาวะตลาดปัจจุบัน
ทั้งนี้ ทางบริษัทมองว่า อัตราผลตอบแทนที่กองทุนมีโอกาสถึงเป้าหมายได้ง่ายในช่วงตลาดปัจจุบัน คือประมาณ 5% ดังนั้น กองทุนแอสเซทพลัสซีเล็คทีฟสต็อกส์ 18/18 ซึ่งคาดว่าจะสามารถปรับตัวดีจากตราสารในพอร์ตการลงทุนมีศักยภาพในการปรับตัวสูง เมื่อเทียบกับการปรับตัวของตลาด (High beta) บริษัทจึงขอแก้ไขโครงการ เรื่อง การจ่าย auto redeem จากเดิม เมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนเท่ากับ 18 บาท (8%ของเงินลงทุนเริ่มแรก) และเลิกกองทุนเมื่ออายุ 18 เดือน แล้วแต่เหตุการณ์ใดจะเกิดก่อน เป็น จ่าย auto redeem เมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนปรับขึ้นผ่านจุดที่มีมูลค่าเท่ากับ 10.50 บาท (5% ของเงินลงทุนเริ่มแรก) และเลิกกองทุนเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุน 11.00 บาท หรือครบอายุ 15 เดือน
ในส่วนของกองทุนแอสเซทพลัสสมาร์ทเอควิตี้ (ASP-SMART) ได้มีแก้ไขการจ่าย auto redeem เป็น 5% เพื่อให้ผู้ถือหน่วยลงทุนมีโอกาสได้รับคืนผลตอบแทนที่เร็วขึ้นเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากการแก้ไขโครงการดังกล่าว ส่งผลให้ทั้ง 2 กองทุนสามารถจ่ายคืนผลตอบแทนอัตโนมัติให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนได้ในอัตรา 0.50 บาทต่อหน่วย โดยกองทุน ASP-SSF18/18 มีมูลค่าหน่วยลงทุนเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับ 10.5842 บาท บริษัทฯ จึงได้ทำการจ่ายคืนผลตอบแทนอัตโนมัติให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน หน่วยลงทุนละ 0.50 บาท โดยกำหนดจ่ายในวันที่ 6 สิงหาคม 2552
นอกจากนี้ กองทุน ASP-SMART สามารถจ่ายคืนผลตอบแทนอัตโนมัติให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนได้เช่นกัน ในอัตราหน่วยละ 0.50 บาท หลังจาก NAV ของกองทุนเพิ่มขึ้นแตะที่ระดับ 12.5430 บาท โดยจะจ่ายคืนให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 7 สิงหาคม นี้ โดยการจ่ายคืนผลตอบแทนครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 3 โดยรวมทั้งหมดกองทุนได้จ่ายคืนผลตอบแทนให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนไปแล้วจำนวน 2.50 ต่อหน่วยลงทุน หรือคิดเป็น 25% ของเงินลงทุนเริ่มแรก นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2552
นางสาวจารุลักษณ์ กล่าวว่าการคาดการณ์และปรับแผนการบริหารกองทุนของ 2 กองทุนหุ้นดังกล่าว ถือเป็นความสำเร็จในการบริหารเงินลงทุนที่สามารถเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนของผู้ถือหน่วยลงทุน ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะเสนอขายกองทุนที่มีรูปแบบการลงทุนในลักษณะเดียวกับ ASP-SMART ซึ่งเน้นการจัดพอร์ตเพื่อสร้างโอกาสผลตอบแทนจากตลาดหุ้นในลักษณะ Absolute return ทั้งนี้ เพื่อรองรับความต้องการของผู้ลงทุน โดยคาดว่าจะนำเสนอเมื่อภาวะตลาดมีความเหมาะสมในอนาคต
