xs
xsm
sm
md
lg

กูรูเเนะพักเงินกองบอนด์ชั่วคราว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศุภมาส พยัคฆพันธ์
โบรกฯกองทุน ประเมินสินทรัพย์เสี่ยง "หุ้น -น้ำมัน" ยังผันผวนต่อเนื่อง เชื่อจะมีการปรับฐานเกิดขึ้นอีก เเนะพักเงินในกองทุนตราสารหนี้ไปก่อน ระบุให้ผลตอบเเทนดีกว่ามันนี่มาร์เก็ต

นางสาวศุภมาส พยัคฆพันธ์ Fund SuperMart Analyst บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป  (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า นักลงทุนน่าจะปรับลดสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้นและน้ำมัน เนื่องจากสมาชิกบางรายของโอเปค อาจเรียกร้องให้ลดการผลิตน้ำมันต่อไปในการประชุมครั้งหน้า ถ้าราคาน้ำมันยังคงร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวที่มีความผันผวนในระหว่างวันเราแนะนำให้นักลงทุน เลือกลงทุนในตราสารหนี้ประเภทกองทุนเปิดที่มีความเสี่ยงต่ำ ซึ่งให้ผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนในกองทุนตลาดเงิน (มันนี่มาร์เก็ต) ทั้งนี้ เพื่อรอจังหวะการเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงในระยะต่อไปที่คาดว่าจะมีการปรับฐานเกิดขึ้น
ขณะเดียวกัน อัตราผลตอบแทนกองทุนพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากความต้องการสภาพคล่องทางการเงินของประเทศเกาหลีใต้ลดลงอย่างมาก จากทิศทางเศรษฐกิจเกาหลีใต้ที่ฟื้นตัวในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งจากต้นทุนค่าธรรมเนียมป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเงินวอนสูงขึ้น ทำให้ผลตอบแทนสุทธิของกองทุนลดลง

 โดยอัตราผลตอบแทนของกองทุนพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้สำหรับระยะ 3 เดือนให้ผลตอบเเทนอยู่ที่1.60%-1.90% ต่อปี อายุลงทุน 6 เดือนผลตอบเเทนอยู่ที่ 2.00% - 2.50% ต่อปี ขณะที่อายุลงทุน 1 ปี ผลตอบเเทนอยู่ที่ 359.5 2.35% - 2.50% ต่อปี และอายุลงทุน 2 ปีผลตอบเเทนอยู่ที่3.10% - 4.00% ต่อปี อย่างไรก็ตามเรายังคงแนะนำลงทุนในกองทุนพันธบัตรเกาหลีใต้ เนื่องจากอัตราผลตอบแทนยังคงสูงกว่าประเทศไทย ในขณะที่ความเสี่ยงของประเทศเกาหลีใต้ก็ต่ำกว่าอีกด้วย
ทั้งนี้ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา ยุโรป เเละตลาดในเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากรับข่าวดีตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯส่งสัญญาณดีขึ้น โดยดัชนี S&P 500 เป็นการพุ่งขึ้นในระยะเวลา 5 เดือนที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ปี 2481 อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐฯลดลง 1.0% ในไตรมาสสองเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งดีกว่าที่คาดที่ -1.5% หลังจากที่ลดลง -6.4%  ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นเอเชียยังปรับขึ้นจากสัปดาห์ก่อน และค่าเงินสกุลเอเชียยังแข็งค่าตามทิศทางราคาหุ้น และสวนทางกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม เราคาดว่า มีความเป็นไปได้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในอนาคต เพื่อเป็นกระตุ้นเศรษฐกิจถึงแม้ว่ากระทรวงพาณิชย์รายงานว่ายังไม่เห็นสัญญาณเงินฝืด ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียยังแข็งค่าขึ้นตามทิศทางราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมันและทองคำที่แข็งค่าขึ้นอีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น