xs
xsm
sm
md
lg

เอ็มเอฟซีลุยหุ้นBRICรอบสอง ล็อกผลตอบแทน10%ดักรอศก.ฟื้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พิชิต อัคราทิตย์
 บลจ.เอ็มเอฟซี มองแนวโน้ม "BRIC" สดใส ส่ง "เอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล บริค รีคัฟเวอรี่" ลุยหุ้นรอบสอง หวังอานิสงส์เศรษฐกิจฟื้น ดันกำไรเข้าเป้า 10% ภายใน 1 ปี เปิดขายไอพีโอถึง 28 ก.ค.นี้

นายพิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมทางเศรษฐกิจที่สดใสของกลุ่มประเทศ BRIC ได้แก่ บราซิล รัสเซีย อินเดีย และจีน และมีแนวโน้มการเติบโตที่สูงกว่าภูมิภาคอื่น จึงเป็นโอกาสอันดีที่เอ็มเอฟซีเปิดขายกองทุนรวมเอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล บริค รีคัฟเวอรี่ ซีรี่ส์ 2 หรือ  I-BRIC Recovery 2 ที่เน้นลงทุนในหลักทรัพย์ของกลุ่มประเทศดังกล่าว โดยที่กองทุนนี้ มีอายุ 1 ปี มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ตั้งเป้าหมายผลตอบแทนที่จะเลิกกองทุนไว้ที่ 10% ซึ่งเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนแล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 28 ก.ค.
สำหรับจุดเด่นของกองทุนรวม I-BRIC Recovery 2 อยู่ที่นโยบายการลงทุน ที่เน้นการลงทุนในประเทศที่เป็นตลาดเกิดใหม่ เช่น บราซิล รัสเซีย อินเดียและจีน หรือกลุ่ม BRIC ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่ยังคงมีอัตราการเติบโตสูงเมื่อเทียบกับประเทศในแถบภูมิภาคอื่นๆ โดยกองทุนสามารถปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมตามสภาพเศรษฐกิจ และสภาวการณ์ตลาดเงินตลาดทุน และมีการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนโดยใช้นโยบาย Active Hedging ตามการคาดการณ์แนวโน้มของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และภาวะของตลาดอีกด้วย

  
 ทั้งนี้ กองทุนรวม I-BRIC Recovery 2 มีเงื่อนไขในการเลิกกองทุนโดยไม่ต้องรอครบอายุ โดยเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนปรับเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 11.30 บาท เป็นเวลา 5 วันทำการติดต่อกัน หรือทรัพย์สินของกองทุนเป็นเงินสดทั้งหมดในสกุลเงินบาท ณ วันทำการใดๆ และมูลค่าหน่วยลงทุนที่คืนให้ผู้ถือหน่วยลงทุนต้องไม่ต่ำกว่า 11 บาท หรืออีกนัยหนึ่งคือ เลิกกองทุนเมื่อผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนไม่น้อยกว่า 10% ของเงินทุน ซึ่งผู้ถือหน่วยลงทุนรายย่อยจะได้รับการยกเว้นภาษีของกำไรส่วนเกินมูลค่าหน่วยลงทุน

 "เอ็มเอฟซีมองว่าจะเป็นจังหวะการลงทุนที่เหมาะสม และมีโอกาสสร้างความพึงพอใจให้ผู้ถือหน่วยลงทุนจากความสำเร็จในการบริหารกองทุนเช่นเดียวกับกองทุนทาร์เก็ตฟันด์อื่นๆ ของเอ็มเอฟซีที่ผ่านมา เช่น กองทุนรวม I-BRIC Recovery กองทุนแรกที่สร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้ถึง 14% จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ร้อยละ 10 ภายในเวลาประมาณ 10 เดือน และกองทุนเปิด I-OIL 15S1 ที่ได้ผลตอบแทน 15% ตามเป้าหมายภายในเวลาประมาณ 2.5 เดือน"นายพิชิตกล่าว
นายพิชิต กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศ BRIC ยังคงโดดเด่นจากแนวโน้มการเติบโตที่สดใส และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้มแข็งของรัฐบาลแต่ละประเทศ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการลงทุนในประเทศดังกล่าว ได้แก่  บราซิลมีปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจและตลาดหลักทรัพย์ คือนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่มีการอัดฉีดเงินประมาณ 90 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเข้าสู่ภาคการเงินและตลาดทุน และยังเป็นประเทศที่มีทรัพยากรธรรมชาติ เช่น น้ำมัน ทองแดง รวมถึงสินค้าเกษตรซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโต 

 ในขณะที่รัสเซีย คาดว่าจะได้ประโยชน์ จากการที่รัฐบาลเตรียมเสนองบกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมวงเงิน 9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ยังเป็นปัจจัยบวกต่อดัชนีตลาดหลักทรัพย์รัสเซีย และค่า PE ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าประเทศอื่น 
ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจของอินเดีย พบว่า ไตรมาสแรกที่ผ่านมา เติบโตได้ถึง 5.8% ซึ่งขยายตัวเป็นบวกสวนกระแสเศรษฐกิจหดตัวของประเทศทั่วโลก และมีการดำเนินนโยบายทางการเงินที่ผ่อนคลายจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายซึ่งสนับสนุนเศรษฐกิจ ขณะเดียวกัน การเมืองในประเทศมีเสถียรภาพจากผลการเลือกตั้งเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลชุดใหม่คาดว่าเศรษฐกิจในปีนี้และปีหน้าจะเติบโต 6%

สำหรับจีน พบว่ามีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเข้มแข็ง ได้แก่ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 586 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่มุ่งเน้นอุปสงค์ภายในประเทศคือการบริโภคและการลงทุนเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เศรษฐกิจจีนเติบโตได้ ซึ่งในปีนี้เอง รัฐบาลจีนตั้งเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจไว้ที่ 8%
กำลังโหลดความคิดเห็น