ข้อดีของแผนการลงทุนรายเดือน (MIP)
•จำนวนเงินลงทุนต่อเดือนสามารถหักผ่านบัญชีธนาคารได้ (ปัจจุบันสามารถหักบัญชีผ่าน ธ.กรุงเทพธ.กรุงศรีอยุธยา ธ.ไทยพาณิชย์ และ ธ.กสิกรไทย)
•เหมาะกับการลงทุนในกองทุนรวมโดยเฉพาะ เพราะสามารถซื้อหน่วยลงทุนได้ด้วยจำนวนเงินลงทุนรายเดือนคงที่ ตามจำนวนงวดที่ท่านกำหนดไว้ในแผน
•ท่านสามารถเลือกที่จะเริ่มหรือหยุดการลงทุนตามแผนได้ตลอดเวลา โดยไม่มีค่าปรับ
•การกำหนดจำนวนเงินลงทุนรายเดือนสามารถปรับให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล โดยพิจารณาจากฐานะการเงินและเป้าหมายของแต่ละบุคคล
•ช่วยสร้างวินัยให้การลงทุนของท่าน
กำหนดแผนการลงทุนของท่านด้วยตัวท่านเอง
ก่อนที่คุณจะลงทุน คุณควรที่จะสอบถามเสมอว่าวัตถุประสงค์ในการลงทุนของคุณคืออะไร และมีความเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งที่ปรึกษาทางการเงินสามารถให้คำแนะนำแก่คุณได้แผนการลงทุนที่ดีควรพิจารณาทั้งปัจจัยภายนอกและภายในที่กระทบการลงทุน เช่น ความแตกต่างของการลงทุนแต่ละประเภทที่มีให้เลือกในตลาด และทัศนคติของท่านต่อความเสี่ยงในการลงทุน ปัญหาใหญ่ที่สุดที่นักลงทุนแทบทุกคนต้องประสบคือความขัดแย้งกันระหว่างความคาดหวังของนักลงทุนในเรื่องอัตราผลตอบแทนและระดับความเสี่ยงที่นักลงทุนสามารถยอมรับได้
โดยทั่วไป ความเสี่ยงและอัตราผลตอบแทนจะมีความสัมพันธ์กัน และยิ่งท่านถือครองการลงทุนไว้นานเท่าไร ท่านจะยิ่งเห็นว่าคำกล่าวนี้เป็นความจริง ในภาพรวมกองทุนหุ้นมีความผันผวนสูงกว่ากองทุนตราสารหนี้ และกองทุนที่ลงทุนในประเทศเดียวมีความผันผวนสูงกว่ากองทุนที่ลงทุนหลายประเทศในระดับภูมิภาคหรือระดับโลก กองทุนที่ลงทุนในตลาดเงินถือว่าปลอดภัยกว่ากองทุนประเภทอื่นๆ แต่มีเป้าหมายเพียงแค่ผลตอบแทนเล็กน้อยเท่านั้น
ในการใช้แผนการลงทุนรายเดือนนี้ สามารถให้น้ำหนักการลงทุนในทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงสูงได้ โดยผลกระทบจากความเสี่ยงนั้นจะลดลง ด้วยวิธีการลงทุนเป็นประจำสม่ำเสมอเพื่อซื้อหน่วยลงทุนในตลาดหุ้น อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าท่านจะต้องจำกัดการลงทุนเพียงหนึ่งหรือสองกองทุนเท่านั้น ท่านไม่มีข้อจำกัดในการกระจายการลงทุนไปในหลายๆ กองทุน ซึ่งเท่ากับว่าท่านได้กระจายความเสี่ยงอย่างชาญฉลาดด้วยวิธีนี้อีกด้วย
ด้วยการวางแผนการลงทุนที่มีระบบเช่นนี้ แผนการลงทุนรายเดือนจึงได้รับความนิยมสูง โดยเป็นวิธีการลงทุนเพื่อวัตถุประสงค์ที่เฉพาะเจาะจง เช่น การเกษียณจากงาน หรือการศึกษาของบุตรหลาน และยังเหมาะกับกรณีอื่นๆ อีกด้วย เช่น กรณีการเจ็บป่วยและรักษาพยาบาล หรือกรณีการใช้จ่ายเพื่อดูแลบุพพการี
วิธีการของแผนการลงทุนรายเดือนแตกต่างกันในแต่ละประเทศในเอเชีย เช่น ในเกาหลี ลูกจ้างมีแผนการแบ่งจ่ายเป็นงวด ซึ่งรวมกันเป็นเงินทุนสุทธิที่มีความสำคัญต่อตลาดหุ้น ในออสเตรเลีย มาเลเซีย และเมื่อเร็วๆนี้ ที่ฮ่องกง ลูกจ้างถูกหักเงินจากเงินเดือนเพื่อนำเข้ากองทุนเกษียณอายุสำหรับลูกจ้าง ซึ่งมีวิธีการคล้ายกับวิธีการของแผนการลงทุนรายเดือน โดยลูกจ้างอาจเลือกลงทุนในประเภทสินทรัพย์ต่างๆ ได้เอง หรือให้บริษัทภายนอกตัดสินใจและเลือกแทนก็ได้ ซึ่งไม่ว่าจะด้วยวิธีการใด เงินทุนนั้นจะเข้าสู่ตลาดเป็นประจำทุกเดือนเช่นกัน
ถึงแม้ท่านจะถูกหักเงินเดือนเพื่อเข้ากองทุนเกษียณอายุอยู่แล้ว แต่การมีแผนการลงทุนรายเดือนอีกส่วนหนึ่งก็เป็นสิ่งที่สมควรทำ เนื่องจากหลายประเทศในเอเชีย ยังไม่มีระบบรัฐสวัสดิการที่มั่นคงอย่างในประเทศตะวันตก จึงไม่มีการคุ้มครองในด้านสวัสดิการอย่างเต็มตัว ดังนั้นระดับการออมเงินของชาติเอเชียจึงสูงกว่าฝั่งตะวันตก แต่เงินออมในส่วนนี้อาจไม่ได้ถูกนำไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ การมีแผนการลงทุนรายเดือนจึงช่วยท่านบริหารเงินออมของท่านอยู่ในทิศทางที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้น ด้วยวิธีการที่ท่านสามารถทำได้โดยง่าย
จริงหรือที่ว่า “เงินสดคือพระเจ้า”?
เมื่อไม่นานมานี้ ท่านอาจจะเคยได้ยินคำพูดที่ว่า เงินสดคือพระเจ้า ซึ่งน่าจะหมายถึงการถือเงินสดคือสิ่งที่ดีที่สุดในสถานการณ์ที่ทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงอื่นๆ มีมูลค่าลดลง ซึ่งได้เกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดหุ้นเข้าสู่ภาวะตลาดหมีเมื่อไม่นานมานี้
อาจจะจริงที่ว่าการถือเงินสดเป็นหนทางที่ปลอดภัยที่สุดในการออมเงินในหลายเดือนที่ผ่านมานี้ แต่เมื่อทุกคนพากันลดการใช้จ่ายและออมเงินสดไว้อย่างในช่วงที่ผ่านมา ทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารลดต่ำลงจนใกล้ถึง 0% ดังนั้นท่านจึงไม่ได้อะไรผลตอบแทนใดๆ จากการถือเงินสดไว้ ที่จริงแล้ว หากพิจารณาปัจจัยเงินเฟ้อด้วยแล้วนั้น การถือเงินสดไว้กลับได้ผลตอบแทนที่อาจต่ำกว่า 0% หรือติดลบด้วยซ้ำ
ขณะเดียวกันราคาของทรัพย์สินที่มีความเสี่ยง เช่น หุ้นกู้เอกชน หรือหุ้นสามัญ หลังจากราคาปรับลดลง กลับให้อัตราผลตอบแทนที่น่าสนใจ และมากกว่าผลตอบแทนจากการฝากเงินสดในธนาคารในปัจจุบันนี้มาก ถึงแม้ว่ามีความเป็นไปได้ที่ราคาของทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงอาจจะปรับลดลงต่อไปอีกในระยะสั้น และถ้าบริษัทต่างๆปรับลดอัตราการจ่ายเงินปันผลลง จะส่งผลให้อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นนั้นไม่สูงเท่าที่คาดการณ์ไว้ แต่การลงทุนในทรัพย์สินประเภทนี้ยังคงมีความน่าสนใจ ในเมื่อสถานการณ์ใกล้ถึงจุดที่การถือครองทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงนั้นน่าจะให้อัตราผลตอบแทนได้มากกว่าการฝากเงินสดไว้กับธนาคาร
ปัจจัยที่ต้องคำนึง
คุณพิจารณาอะไรบ้างเมื่อทำการลงทุน ปัจจัยเกี่ยวกับตัวบุคคลที่ควรทราบ ก่อนวางแผนการลงทุนรายเดือน
•ท่านมีเป้าหมายและความต้องการอะไรบ้างจากการลงทุน
•ท่านมีอายุเท่าไร
•ท่านมีฐานะการเงินอย่างไร
•ท่านสามารถยอมรับความผันผวนระยะสั้นได้มากแค่ไหน
•ความจำเป็นของท่านในการขายหน่วยลงทุนเพื่อเปลี่ยนเป็นเงินสดอยู่ในระดับใด
•ท่านต้องการเงินที่ท่านนำไปลงทุนคืนเมื่อใด
•ท่านต้องการกระจายการลงทุนมากแค่ไหน
•ท่านกำลังมองหาลักษณะการลงทุนแบบใด