2 บลจ. ส่งบอนด์เกาหลีขายต่อ "แอสเซท พลัส" เปิดขาย ไอพีโอกองทุนเปิด"แอ็คทีฟเอฟไอเอฟ 5" เน้นลงทุนพันธบัตรเกาหลีใต้ รอบการลงทุน 6 เดือน คาดผลตอบแทนประมาณ 2.6% ต่อปี เปิดขายไอพีโอ ถึงวันที่ 30 มิ.ย.นี้ ด้านบลจ.นครหลวงไทยเสนอทางเลือกกองทุนตราสารหนี้เกาหลีใต้อายุ 12 เดือนและ 6 เดือน เปิดไอพีถึงวันที่ 14 ก.ค.นี้
นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า จากผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ที่ยังคงจูงใจผู้ลงทุนอยู่นั้น ประกอบกับการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ช่วงนี้โดยเฉพาะตลาดพันธบัตรรัฐบาลยังคงผันผวนจาก Interest rate risk เนื่องจากการคาดการณ์ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุคงเหลือมากกว่า 5 ปี ในด้านการลงทุนตราสารหนี้จะคงอายุเฉลี่ยของตราสาร (Duration) ต่ำกว่า 1 ปี อย่างไรก็ตาม แนวโน้มระยะสั้นของอัตราดอกเบี้ยนโยบายน่าจะคงอยู่ในระดับปัจจุบัน สำหรับผู้ลงทุนจึงยังคงแนะนำผู้ลงทุน ลงทุนในระยะสั้นๆ 3 - 6 เดือน
ทั้งนี้ บริษัทฯ จึงเปิดเสนอขายกองทุนที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ อย่างต่อเนื่องเพื่อสนองตอบความต้องการของนักลงทุน ล่าสุดได้เปิดเสนอขายไอพีโอของกองทุนเปิดแอ็คทีฟเอฟไอเอฟ 5 (ACFIF5) สำหรับรอบการลงทุนแรก โดยจะลงทุนโดยตรงในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ (Korea Monetary Stabilization Bond (MSB) ซึ่งมีอายุประมาณ 6 เดือน ในวันที่ 30 มิ.ย. นี้ จะเปิดขายไอพีโอวันสุดท้าย
โดยกองทุน ACFIF5 นี้ เป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ เนื่องจากเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล จึงเหมาะกับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ โดยคาดว่ากองทุนจะสามารถให้ผลตอบแทนหลังจากทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงเต็มจำนวนและหักค่าใช้จ่ายกองทุนแล้วอยู่ที่ประมาณ 2.6% ต่อปีเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในต่างประเทศที่สร้างโอกาสผลตอบแทนที่ดีในระดับความเสี่ยงที่ต่ำ
ด้านรายงานจาก บลจ.นครหลวงไทย เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดขายกองทุนที่เน้นลงทุนในตรราสารหนี้ของประเทศเกาหลีใต้จำนวน 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดเอสซีไอ ตราสารหนี้ต่างประเทศ จีไอ 12M12/09 (SCI INGI12M12/09) มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท อายุโครงการประมาณ 12 เดือน และกองทุนเปิดเอสซีไอ ตราสารหนี้ต่างประเทศ จีไอ 6M9/09 (SCI INGI6M9/09) มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท อายุโครงการประมาณ 6 เดือน โดยได้เปิดขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (ไอพีโอ) และครั้งเดียวตั้งแต่วันนี้ – 14 กรกฎาคม 2552 และมีมูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำที่ 2,000 บาท
สำหรับกองทุน SCI INGI12M12/09 และกองทุน SCI INGI6M9/09 จะเน้นลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่เสนอขายในต่างประเทศ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือจากการลงทุนดังกล่าว บริษัทจัดการอาจลงทุนในเงินฝาก หรือ ตราสารแห่งหนี้ในประเทศ รวมทั้งลงทุนในหลักทรัพย์ หรือทรัพย์สินอื่น หรือ การหาดอกผลโดยวิธีอื่นใดตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด หรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้
กองทุนอาจลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) นอกจากนี้ กองทุนอาจจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน (efficient portfolio management) ซึ่งรวมถึงการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีตัวแปรเป็นอัตราแลกเปลี่ยนเงินเพื่อลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยการเข้าทำธุรกรรมกับคู่สัญญาต่างประเทศนั้นจะดำเนินการได้ต่อเมื่อได้รับความเห็นชอบจากธนาคารแห่งประเทศไทยและแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.ทราบ รวมทั้งอาจทำธุรกรรมการซื้อโดยมีสัญญาขายคืน (Reverse Repo) หรือ ธุรกรรมการให้ยืมหลักทรัพย์ โดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด หรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้