ASTVผู้จัดการรายวัน-บลจ.กรุงไทย มั่นใจกองทุนมันนี่มาร์เก็ต "กรุงไทยเซฟวิ่งฟันด์" ไปได้สวย เเม้ระดมเงินในช่วง IPO ได้ไม่มาก เชื่อหลังเปิดขายเป็นทางการในวันที่ 10 มิ.ย.นี้ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเเน่ พร้อมเเนะนักลงทุน ทยอยลงทุนกองทุนหุ้น มอง SET Index ยังไม่ปรับฐาน
นายวิโรจน์ ตั้งเจริญ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากที่บลจ.ได้ทำการระดมทุนกองทุนเปิดกรุงไทยเซฟวิ่งฟันด์ ในวันที่ 25 พฤษภาคม -3 มิถุนายน 2552 ที่ผ่านมานั้น ยอดจองซื้ออาจจะไม่มาก เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ต้องการรอซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนดังกล่าวที่จะเปิดขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 10 มิถุนายน 2552 นี้ ซึ่งเชื่อว่านักลงทุนน่าจะให้ความสนใจกับกองทุนเปิดกรุงไทยเซฟวิ่งฟันด์ เพราะความเสี่ยงต่ำเทียบเท่ากับการฝากเงินเเละผลตอบเเทนของกองทุนก็มากกว่าดอกเบี้ยเงินฝากในปัจจุบัน
นอกจากนี้ บลจ.ยังจัดโปรโมชั่นให้กับกองทุนเปิดกรุงไทยเซฟวิ่งฟันด์ และกองทุนกองทุนเปิดกรุงไทยสะสมทรัพย์ ในช่วงระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม -31 กรกฎาคม 2552 นี้หากลงทุนตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป จะได้รับหน่วยลงทุนเพิ่มอีกมูลค่า 200 บาทอีกด้วย
ขณะเดียวกันบลจ.อยู่ในช่วงเปิดขายหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 6 เดือนคุ้มครองเงินต้น3 ตั้งเเต่วันนี้ถึง 12 มิถุนายน 2552 โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายคุ้มครองเงินลงทุนเริ่มแรกของผู้ถือหน่วยลงทุนเฉพาะผู้ถือหน่วยลงทุนที่ซื้อ-ขายหน่วยลงทุนตามวันและเวลาที่บริษัทจัดการกำหนดให้ได้รับความคุ้มครองเงินต้น และถือหน่วยลงทุนต่อเนื่องตลอดระยะเวลาถือครองตามที่บริษัทจัดการกำหนดกองทุนจะลงทุนในตราสารที่มุ่งจะให้เกิดความคุ้มครองเงินต้น ได้แก่ ตราสารภาครัฐไทย ตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือบัตรเงินฝาก ที่บริษัทเงินทุนหรือบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ เป็นผู้ออกเพื่อการกู้ยืมหรือรับเงินจากประชาชน เงินฝากในธนาคารพาณิชย์หรือบัตรเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์เป็นผู้ออก หรือทรัพย์สินอื่นที่มีความเสี่ยงต่ำหรือมีความเสี่ยงเทียบเคียงได้กับตราสารภาครัฐไทย ทั้งนี้ โดยได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.
ทั้งนี้ เงินลงทุนส่วนที่เหลืออาจพิจารณาลงทุนในตราสารที่มีลักษณะคล้ายเงินฝาก ตราสารแห่งหนี้ของธนาคารพาณิชย์ หรือธนาคารที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งและ/หรือตราสารแห่งหนี้ทั่วไปที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ทั้งนี้ กองทุนจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) และตราสารหนี้ที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note)
นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า ส่วนของการลงทุนในกองทุนหุ้นนั้นอยากเเนะนำให้นักลงทุนใช้วิธีทยอยลงทุน ซึ่งตอนนี้อาจจะเห็นว่าตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมาก เเต่ตัวหุ้นเองยังไม่มีการปรับฐาน โดยการทยอยลงทุนจะช่วยลดความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้
สำหรับผลการดำเนินงานกองทุนรวมตราสารทุน สิ้นสุด ณ วันที่ 29 พฤษภาคม 2552 นั้นกองทุนเปิดกรุงไทยทรีนีตี้ปันผล ให้ผลตอบเเทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 25.65% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 4.22% ซึ่งเกณฑ์มาตรฐานดัชนีSET Index อยู่ที่ 28.87% ขณะที่ผลตอบเเทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 33.49% ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 5.97% โดยเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 39.46% ส่วนกองทุนเปิดกรุงไทยหุ้นทุนปันผล ให้ผลตอบเเทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 26.23% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 3.64% เเละผลตอบเเทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 4.6%
ขณะที่ผลตอบเเทนกองทุนเปิดกรุงไทยชาริอะฮ์เพื่อการเลี้ยงชีพให้ผลตอบเเทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 20.55% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 9.32% ส่วนผลตอบเเทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 27.44% ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 12.02% ส่วนกองทุนเปิดกรุงไทยหุ้นระยะยาว มีผลตอบเเทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที 27.95%สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 1.92% เเละผลตอบเเทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 37.96% ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 2.1% เเละกองทุนเปิดกรุงไทยชาริอะฮ์หุ้นระยะยาว มีผลตอบเเทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 21.53% ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 8.34% ขณะที่ผลตอบเเทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 29.22% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 10.24%
ส่วนกองทุนเปิดกรุงไทยหุ้นระยะยาว 70/30 ให้ผลอตบเเทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 27.08% ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 2.79% ส่วนผลตอบเเทนย้อนหลัง 6 เดือน 37.60% ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -1.86% เเละกองทุนเปิดกรุงไทยหุ้นระยะยาว SET 50 ย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 34.27% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน SET 50 1.3% เเละมีผลตอบเเทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 41.87% ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 0.49%