ตลาดหุ้นต่างประเทศคึกคัก ดันยิลด์กองหุ้น FIF อเบอร์ดีนพุ่งขึ้นไม่หยุดโดยกองหุ้นตลาดเกิดใหม่ "อเบอร์ดีน โกลบอล อีเมอร์จิ้ง โกรท ฟันด์" พุ่งเกือบ 50%
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อเบอร์ดีน จำกัด เปิดเผยผลการดำเนินงานของกองทุนต่างประเทศ ณ วันที่ 5 มิถุนายน 2552 พบว่า กองทุนเปิด อเบอร์ดีน เวิลด์ ออพพอร์ทูนิตี้ส์ ฟันด์ มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 33.68% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานดัชนี MSCI World Freeอยู่ที่ 28.62% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 16.77% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 12.02% ย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 7.86% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 4.85%
โดยกองทุนลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศ ชื่อ อเบอร์ดีนโกลบอล - เวิลด์ เอคควิตี้ ฟันด์(Aberdeen Global - World Equity Fund) เพียงกองทุนเดียวโดยจะลงทุนเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนแต่ทั้งนี้จะลงทุน ในต่างประเทศไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนสำหรับการลงทุนในส่วนที่เหลือบริษัทจัดการจะพิจารณาลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สิน อื่นหรือหาดอกผลโดยวิธีการอื่นตามที่คณะกรรมการก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. อนุญาตตามความเหมาะสมเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหน่วย ลงทุน
ขณะที่กองทุนเปิด อเบอร์ดีน โกลบอล อีเมอร์จิ้ง โกรท ฟันด์ มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 48.79% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานดัชนี MSCI Emerging Markets Indexอยู่ที่ 49.28% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 43.01% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 49.49% ย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 32.59% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 34.59%
ทั้งนี้กองทุนมีนโยบายการลงทุนในกองทุนรวมอเบอร์ดีน โกลบอล - อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ตส์ เอคควิตี้ ฟันด์ (Aberdeen Global -Emerging Markets Equity Fund) เพียงกองทุนเดียวโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนหรือตามอัตราส่วนที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. จะประกาศกำหนด แต่ทั้งนี้จะลงทุนในต่างประเทศไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนโดยในส่วนที่เหลือบริษัทจัดการอาจพิจารณาลงทุนในหลักทรัพย์ ตราสารการเงินอื่นๆหรือทรัพย์สินอื่นหรือหาดอกผลโดยวิธีการอื่นตามที่กำหนดโดยประกาศ คณะกรรมการ ก.ล. ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.
สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุนล่าสุดจะเห็นว่า ตลาดหุ้นของกลุ่มประเทศเกิดใหม่นั้นปรับตัวขึ้นค่อนข้างมากกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคอื่น เนื่องจากความเชื่อมั่นจากนักลงทุนเริ่มกลับมาเข้าสู่ตลาดเกิดใหม่ขณะเดียวกันตลาดเกิดใหม่นั้นที่ผ่านได้รับผลกระทบจากวิกฤตไม่มากนักการฟื้นตัวจึงเร็วกว่า
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อเบอร์ดีน จำกัด เปิดเผยผลการดำเนินงานของกองทุนต่างประเทศ ณ วันที่ 5 มิถุนายน 2552 พบว่า กองทุนเปิด อเบอร์ดีน เวิลด์ ออพพอร์ทูนิตี้ส์ ฟันด์ มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 33.68% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานดัชนี MSCI World Freeอยู่ที่ 28.62% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 16.77% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 12.02% ย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 7.86% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 4.85%
โดยกองทุนลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศ ชื่อ อเบอร์ดีนโกลบอล - เวิลด์ เอคควิตี้ ฟันด์(Aberdeen Global - World Equity Fund) เพียงกองทุนเดียวโดยจะลงทุนเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนแต่ทั้งนี้จะลงทุน ในต่างประเทศไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนสำหรับการลงทุนในส่วนที่เหลือบริษัทจัดการจะพิจารณาลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สิน อื่นหรือหาดอกผลโดยวิธีการอื่นตามที่คณะกรรมการก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. อนุญาตตามความเหมาะสมเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหน่วย ลงทุน
ขณะที่กองทุนเปิด อเบอร์ดีน โกลบอล อีเมอร์จิ้ง โกรท ฟันด์ มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 48.79% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานดัชนี MSCI Emerging Markets Indexอยู่ที่ 49.28% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 43.01% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 49.49% ย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 32.59% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 34.59%
ทั้งนี้กองทุนมีนโยบายการลงทุนในกองทุนรวมอเบอร์ดีน โกลบอล - อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ตส์ เอคควิตี้ ฟันด์ (Aberdeen Global -Emerging Markets Equity Fund) เพียงกองทุนเดียวโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนหรือตามอัตราส่วนที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. จะประกาศกำหนด แต่ทั้งนี้จะลงทุนในต่างประเทศไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนโดยในส่วนที่เหลือบริษัทจัดการอาจพิจารณาลงทุนในหลักทรัพย์ ตราสารการเงินอื่นๆหรือทรัพย์สินอื่นหรือหาดอกผลโดยวิธีการอื่นตามที่กำหนดโดยประกาศ คณะกรรมการ ก.ล. ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.
สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุนล่าสุดจะเห็นว่า ตลาดหุ้นของกลุ่มประเทศเกิดใหม่นั้นปรับตัวขึ้นค่อนข้างมากกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคอื่น เนื่องจากความเชื่อมั่นจากนักลงทุนเริ่มกลับมาเข้าสู่ตลาดเกิดใหม่ขณะเดียวกันตลาดเกิดใหม่นั้นที่ผ่านได้รับผลกระทบจากวิกฤตไม่มากนักการฟื้นตัวจึงเร็วกว่า