xs
xsm
sm
md
lg

พรีมาเวสท์เล็งดัชนีฮั่งเส็ง-หุ้นกู้ไทย เชื่อสัญญาณศก.ฟื้นยิลด์บอนด์จ่อขึ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.พรีมาเวสท์เล็งหาทางเลือกใหม่ให้นักลงทุน พุ่งเป้ากองทุนหุ้นดัชนีฮั่งเส็ง หลังสัญญาณเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว พร้อมระบุกองทุนน้ำมันยังน่าสนใจ แม้ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดไตรมาส 4 อาจปรับตัวแตะ 70-80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลได้ ขณะเดียวกันคาด ผลตอบแทนหุ้นกู้ไทยมีโอกาสปรับขึ้นอีกได้ หลังภาครัฐออกพันธบัตรกระตุ้นเศรษฐกิจอีกระลอก 2 แสนล้านบาท

นางสาวศรีเนตร ฤทธิรงค์
ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) พรีมาเวสท์ จำกัด เปิดเผยว่า การเปิดขายกองทุนของบริษัทขณะนี้ยังมองไปที่หุ้นกู้ของเอกชนอยู่ แต่ยังคงพิจารณาทางเลือกอื่นเอาไว้ให้กับนักลงทุนเช่นกัน โดยเชื่อว่าการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศขณะนี้มีความน่าสนใจพอสมควร เนื่องจากมองว่าสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจน่าจะเริ่มมีผลหลังจากนี้

"ตอนนี้ดูไว้คงจะเป็นการลงทุนในดัชนีฮั่งเส็ง เพราะเชื่อว่าน่าจะฟื้นตัวได้เร็วกว่าหลังจากเศรษฐกิจดีขึ้น ส่วนดัชนี A-share H-share ก็มีความน่าสนใจเช่นกันแต่คงจะไปลงตรงไม่ได้เราคงต้องหาตราสารที่ลิ้งก์กับดัชนีพวกนี้แทน"นางสาวศรีเนตรกล่าว

นอกจากนี้ การลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ก็ยังเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน โดยภายหลังที่ทำการเปิดขายกองทุนเปิด พรีมาเวสท์ ออยล์ ฟันด์ ในช่วงที่ผ่านมาล่าสุดกองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนได้กว่า 3.4% แล้วในระยะเวลาไม่ถึง 1 เดือน นอกจากนี้ขนาดของกองทุนยังโตขึ้นอย่างรวดเร็วจากเดิมที่ 116 ล้านบาทในช่วงปิดการเสนอขายครั้งแรกมาอยู่ที่ 150 ล้านบาทในปัจจุบัน

ทั้งนี้ เชื่อว่าราคาน้ำมันน่าจะมีโอกาสปรับตัวขึ้นอีก และน่าจะอยู่ในระหว่าง 70-80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลได้ในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ เนื่องจากการบริโภคที่เพิ่มมากขึ้นหลังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่กำลังส่งสัญญาณอยู่ในขณะนี้ อย่างไรก็ตามความผันผวนของราคาน้ำมันน่าจะยังมีอยู่ แต่ในช่วงขาลงนั้นคาดว่าจะมีไม่มากนักและราคาต่ำสุดไม่น่าลดลงเกินกว่า 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

นางสาวศรีเนตร กล่าวอีกว่า เหตุผลที่บริษัททำการเปิดขายกองทุนหุ้นกู้เอกชนที่มีอายุโครงการเพียง 3 เดือนเนื่องจากผลตอบแทนของหุ้นกู้เอกชนระยะเวลา 9 เดือนและ 3 เดือนใกล้เคียงกันมาก ซึ่งระยะเวลา 3 เดือนน่าจะสร้างผลตอบแทนสูงสุดให้กับนักลงทุนได้

"มองว่าตอนนี้อัตราดอกเบี้ยคงจะนิ่งแล้ว ถึงจะลงก็คงลงไม่มากนัก โดยเมื่อสังเกตจากดอกเบี้ยแบงก์ชาติเมื่อครั้งที่แล้ก็น่าจะพอเดาได้ถึงเทรนด์นี้"นางสาวศรีเนตรกล่าว

นอกจากนี้ยังคาดว่า อัตราผลตอบแทนของหุ้นกู้เอกชนเองน่าจะมีการปรับตัวขึ้นได้อีกเช่นกัน หลังจากที่รัฐบาลออกพันธบัตรในการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 4 แสนล้านบาท และเหลืออีกประมาณ 2 แสนล้านบาทจะเข้ามาในตลาดนั้น เชื่อว่าจะทำให้ผลตอบแทนของหุ้นกู้เอกชนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเกณฑ์มาตรฐานของพันธบัตรรัฐบาลที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

นางสาวศรีเนตร กล่าวอีกว่า ความเป็นไปได้ของผลตอบแทนจากหุ้นกู้เอกชนจะปรับตัวขึ้น น่าจะเป็นส่วนของยิลด์พันธบัตรรัฐบาลที่ใช้เป็นเกณฑ์วัดปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากดีมานและซัพพลายในตลาดหลังจากมีการออกพันธบัตรรัฐบาลชุดใหม่มาเพิ่มเติม แต่จะต้องดูก่อนว่าอายุพันธบัตรที่ออกมาจะอยู่ในช่วงใด

"ถ้าเป็นอายุ 5 ปีที่ออกมาเยอะยิลด์มันอาจปรับได้ เพราะคนจะไปซื้อที่หลังเพราะคาดว่ายิลด์จะดีกว่า โดยขณะนี้หากเป็นพันธบัตรระยะยาวยังคงเป็นที่ต้องการของกลุ่มประกัน แต่โดยส่วนตัวแล้วอยากให้ออกในรูปแบบออมทรัพย์มากกว่า เพราะประชาชนจะมีทางเลือกในการลงทุนเพิ่ม ไม่เช่นนั้นพวกสถาบันก็เอาไปหมด"นางสาวศรีเนตรกล่าว

ทั้งนี้ บลจ.พรีมาเวสท์ยังอยู่ในระหว่างเปิดขาย กองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์ ฟิกซ์อินคัม 3M1 (KPF3M1) จนถึงวันที่ 9 มิถุนายน 2552 โดยอัตรารับซื้อคืนอัตโนมัติประมาณ 1.50% ต่อปี อายุโครงการประมาณ 3 เดือน ลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาท โดยกองทุนนี้จะลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกโดยสถาบันการเงิน และ/หรือภาคเอกชนที่มีระดับความน่าเชื่อถือในระดับ Investment Grade ขึ้นไป
กำลังโหลดความคิดเห็น