อานิสงส์ตลาดหุ้นคึกคัก ดึงเม็ดเงินลงทุนไหลเข้ากองทุน LTF - RMF บลจ.อเบอร์ดีน โชว์ตัวเลขพฤษภาคมเดือนเดียว LTF โตขึ้น 298.20 ล้านบาท ส่วน RMF โตขึ้น 72.8 ล้านบาท ดันผลการดำเนินงานกระเตื้องตาม พร้อมแนะนักลงทุนวางแผนลงทุนสะสมรายเดือน รับมือตลาดหุ้นผันผวน
นายชัยเกษม วัฒนศิริพงษ์ หัวหน้าฝ่ายจัดจำหน่ายกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อเบอร์ดีน จำกัด เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ของตลาดหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาอย่างคึกคักในช่วงที่ผ่านมานี้ ได้ส่งผลต่อการลงทุนในกองทุนหุ้นของบริษัทด้วยเช่นกัน โดยกองทุนหุ้นของบริษัทรวมทั้งกองทุนรวมตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และ กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) มีเม็ดเงินไหลเข้าเพิ่มขึ้น โดยตั้งแต่ต้นปีกอง RMF มีมูลค่าทรัพย์สินอยู่ที่ 835.59 ล้านบาท โตขึ้น 148.2 ล้านบาท คิดเป็น 21.56% พฤษภาคมเดือนเดียวโตขึ้น 72.8 ล้านบาท หรือ 9.55% ส่วนกอง LTF ตั้งแต่ต้นปีมีมูลค่าทรัพย์สินอยู่ที่ 2,888.79 ล้านบาทโตขึ้น 614.31ล้านบาท หรือ 27.01% พฤษภาคมเดือนเดียว โตขึ้น 298.20 ล้านบาท หรือ 11.51%
ทั้งนี้ เป็นเพราะการปรับตัวเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นที่สะท้อนผลของวิกฤตเศรษฐกิจที่เริ่มมีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีขึ้นนั้น ได้ส่งผลในทางจิตวิทยาต่อการลงทุนโดยนักลงทุนเริ่มสนใจกลับเข้ามาลงทุนในกองทุน LTF และ RMF กันมากขึ้นกว่าตอนต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งการที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวดีขึ้นมานั้น ไม่ได้เป็นการปรับตัวขึ้นที่มาจากปัจจัยด้านพื้รนฐานเป็นหลัก แต่จะเป็นเพราะเรื่องของบรรยากาศการลงทุนที่นักลงทุนเริ่มมีความมั่นใจเพื่มมากขึ้น รวมทั้งสถานการณ์ของตลาดต่างประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
"จะเห็นได้ว่าสาเหตุที่ตลาดหุ้นไทยดีขึ้นนั้น อาจจะไม่ได้มาจากปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก แต่อาจจะเป็นไปตามตลาดต่างประเทศ รวมถึงความมั่นใจของผู้ลงทุนเองด้วย" นายชัยเกษม กล่าว
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของกองทุนอาร์เอ็มเอฟและแอลทีเอฟ ล่าสุด ณ วันที่ 3 มิถุนายน 2552 ของกองทุนเปิดอเบอร์ดีน สมาร์ทแคปปิตอลเพื่อการเลี้ยงชีพ มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 33.08% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อยู่ที่ 40.95% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 43.35% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 48.19% โดยผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 27.11% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 29.40%
ขณะที่ กองทุนเปิดอเบอร์ดีน สมาร์ทอินคัมเพื่อการเลี้ยงชีพ มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 0.17% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 1.12% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 1.39% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -0.10%โดยผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 0.89% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -5.26%
ส่วนกองทุน LTF นั้น กองทุนเปิด อเบอร์ดีนหุ้นระยะยาว มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 47.62% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 48.19% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 47.62% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 48.69% โดยผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 29.88% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 29.40%
ขณะเดียวกัน หัวหน้าฝ่ายจัดจำหน่ายกองทุน ยังแนะนำการลงทุนในช่วงที่ตลาดหุ้นมีอาจมีความผันผวนและราคาหุ้นมีราคาที่สูงขึ้นด้วยว่า เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงของผู้ลงทุนที่จะซื้อหน่วยลงทุนของกองทุน LTF และ RMF ในช่วงที่ราคาหน่วยลงทุนสูงขึ้นประกอบกับอยู่ในช่วงที่ตลาดหุ้นอาจมีความผันผวน ดังนั้น การวางแผนการลงทุนรายเดือน (Monthly Investment Plan) อาจเป็นกลยุทธ์หนึ่งที่เป็นประโยชน์ ซึ่งทางอเบอร์ดีนได้เล็งเห็นความสำคัญของการวางแผนการลงทุนดังกล่าว โดยเตรียมเปิดให้บริการการวางแผนการลงทุนรายเดือนในเร็ว ๆ นี้ เพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุนที่จะเริ่มลงทุนในกองทุน LTF และ RMF รวมทั้งนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในปีนี้เพื่อสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนทางภาษี
นายชัยเกษม วัฒนศิริพงษ์ หัวหน้าฝ่ายจัดจำหน่ายกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อเบอร์ดีน จำกัด เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ของตลาดหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาอย่างคึกคักในช่วงที่ผ่านมานี้ ได้ส่งผลต่อการลงทุนในกองทุนหุ้นของบริษัทด้วยเช่นกัน โดยกองทุนหุ้นของบริษัทรวมทั้งกองทุนรวมตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และ กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) มีเม็ดเงินไหลเข้าเพิ่มขึ้น โดยตั้งแต่ต้นปีกอง RMF มีมูลค่าทรัพย์สินอยู่ที่ 835.59 ล้านบาท โตขึ้น 148.2 ล้านบาท คิดเป็น 21.56% พฤษภาคมเดือนเดียวโตขึ้น 72.8 ล้านบาท หรือ 9.55% ส่วนกอง LTF ตั้งแต่ต้นปีมีมูลค่าทรัพย์สินอยู่ที่ 2,888.79 ล้านบาทโตขึ้น 614.31ล้านบาท หรือ 27.01% พฤษภาคมเดือนเดียว โตขึ้น 298.20 ล้านบาท หรือ 11.51%
ทั้งนี้ เป็นเพราะการปรับตัวเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นที่สะท้อนผลของวิกฤตเศรษฐกิจที่เริ่มมีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีขึ้นนั้น ได้ส่งผลในทางจิตวิทยาต่อการลงทุนโดยนักลงทุนเริ่มสนใจกลับเข้ามาลงทุนในกองทุน LTF และ RMF กันมากขึ้นกว่าตอนต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งการที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวดีขึ้นมานั้น ไม่ได้เป็นการปรับตัวขึ้นที่มาจากปัจจัยด้านพื้รนฐานเป็นหลัก แต่จะเป็นเพราะเรื่องของบรรยากาศการลงทุนที่นักลงทุนเริ่มมีความมั่นใจเพื่มมากขึ้น รวมทั้งสถานการณ์ของตลาดต่างประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
"จะเห็นได้ว่าสาเหตุที่ตลาดหุ้นไทยดีขึ้นนั้น อาจจะไม่ได้มาจากปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก แต่อาจจะเป็นไปตามตลาดต่างประเทศ รวมถึงความมั่นใจของผู้ลงทุนเองด้วย" นายชัยเกษม กล่าว
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของกองทุนอาร์เอ็มเอฟและแอลทีเอฟ ล่าสุด ณ วันที่ 3 มิถุนายน 2552 ของกองทุนเปิดอเบอร์ดีน สมาร์ทแคปปิตอลเพื่อการเลี้ยงชีพ มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 33.08% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อยู่ที่ 40.95% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 43.35% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 48.19% โดยผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 27.11% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 29.40%
ขณะที่ กองทุนเปิดอเบอร์ดีน สมาร์ทอินคัมเพื่อการเลี้ยงชีพ มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 0.17% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 1.12% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 1.39% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -0.10%โดยผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 0.89% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -5.26%
ส่วนกองทุน LTF นั้น กองทุนเปิด อเบอร์ดีนหุ้นระยะยาว มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 47.62% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 48.19% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 47.62% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 48.69% โดยผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 29.88% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 29.40%
ขณะเดียวกัน หัวหน้าฝ่ายจัดจำหน่ายกองทุน ยังแนะนำการลงทุนในช่วงที่ตลาดหุ้นมีอาจมีความผันผวนและราคาหุ้นมีราคาที่สูงขึ้นด้วยว่า เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงของผู้ลงทุนที่จะซื้อหน่วยลงทุนของกองทุน LTF และ RMF ในช่วงที่ราคาหน่วยลงทุนสูงขึ้นประกอบกับอยู่ในช่วงที่ตลาดหุ้นอาจมีความผันผวน ดังนั้น การวางแผนการลงทุนรายเดือน (Monthly Investment Plan) อาจเป็นกลยุทธ์หนึ่งที่เป็นประโยชน์ ซึ่งทางอเบอร์ดีนได้เล็งเห็นความสำคัญของการวางแผนการลงทุนดังกล่าว โดยเตรียมเปิดให้บริการการวางแผนการลงทุนรายเดือนในเร็ว ๆ นี้ เพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุนที่จะเริ่มลงทุนในกองทุน LTF และ RMF รวมทั้งนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในปีนี้เพื่อสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนทางภาษี
