ASTVผู้จัดการรายวัน - บลจ.แมนูไลฟ์ เผยหุ้นทั่วโลกดีดตัว เพราะได้อานิสงส์นักลงทุนมั่นใจเศรษฐกิจ กล้าลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ดันหุ้นยุโรปพุ่งตาม โชว์ผลตอบแทน "แมนูไลฟ์ สเตร็งค์ อิเมอร์จิ้ง อีสเทอร์น ยุโรป เอฟไอเอฟ " ย้อนหลัง 3 เดือน 47.17%
นายพนุกร จันทรประภพ ผู้อำนวยการฝ่ายตราสารทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้น ทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจในภาวะเศรษฐกิจโดยรวมมากขึ้น จึงกล้าที่จะโยกเม็ดเงินจากสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำมาลงทุนยังสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ขณะเดียวกัน การที่ผลตอบแทนจากการลงทุนในพันธบัตรปรับตัวลดลง ทำให้นักลงทุนมองการหาการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้น ดังนั้น การที่เม็ดเงินไหลออกจากพันธบัตรมาลงทุนในตลาดหุ้นเพิ่มขึ้น ได้ส่งผลให้ดัชนีทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม จากปัจจัยในเรื่องของผลตอบแทนที่ต่ำมากนั้น ทำให้นักลงทุนจึงเริ่มหันมามองการลงทุนในกลุ่มประเทศเกิดใหม่มากขึ้น โดยผลการดำเนินงานของกองทุนเปิด แมนูไลฟ์ สเตร็งค์ อิเมอร์จิ้ง อีสเทอร์น ยุโรป เอฟไอเอฟ ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในประเทศเกิดใหม่นั้น มีผลการดำเนินงานย้อนหลังค่อนข้างดี แม้ว่าภาพรวมเศรษฐทั่วโลกจะไม่ดีมากนัก
โดย ณ วันที่ 26 พฤษภาคม 2552 กองทุนเปิด แมนูไลฟ์ สเตร็งค์ อิเมอร์จิ้ง อีสเทอร์น ยุโรป เอฟไอเอฟ มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 47.17% ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 39.71% ขณะที่ผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 25.75% ส่วนเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 34.61% ด้านผลการดำเนินงานย้อนหลัง 9 เดือน -50.17% เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -37.33% ส่วนผลการดำเนินงานนับตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 25.21% ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 27.16% ทั้งนี้เกณฑ์มาตรฐานของกองทุนเปรียบเทียบMSCI EM Eastern Europe Index เป็นดัชนีที่จัดทำขึ้นโดย Morgan Stanley Capital International Inc. เพื่อสำหรับใช้ในการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานของการลงทุนในหลักทรัพย์ของประเทศในแถบยุโรปตอนกลางและตะวันออกข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลสกุลบาท
"แม้ก่อนหน้านี้ ได้มีการคาดการณ์ถึงภาพรวมเศรษฐกิจและแนวโน้มการฟื้นตัวของยุโรปตะวันออกว่ายังไม่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น แต่ก็มีนักลงทุนบางกลุ่มที่มองถึงโอกาสของการสร้างผลตอบแทนที่ดีสำหรับการลงทุนในกลุ่มประเทศเหล่านี้ ดังนั้น เมื่อภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศเหล่านี้เริ่มปรับตัวดีขึ้น กองทุนที่ไปลงทุนก็จะได้รับอานิสงส์จากจุดนี้ด้วย"นายพนุกร กล่าว
สำหรับกองทุนเปิด แมนูไลฟ์ สเตร็งค์ อิเมอร์จิ้ง อีสเทอร์น ยุโรป เอฟไอเอฟ เป็นกองทุนรวมหน่วยลงทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ที่ไม่กำหนดอายุโครงการ โดยเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Manulife GlobalFund-Emerging Eastern Europe Fund (Class A) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิส่วนที่เหลืออาจจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ หรือเงินฝากสถาบันการเงินที่มีอายุตราสารหรือระยะเวลาฝากเงินไม่เกิน 1 ปี
ด้านผู้จัดการกองทุนของ Manulife Global Fund-Emerging Eastern Europe Fund (Class A) ซึ่งเป็นกองแม่ของกองทุนเปิด แมนูไลฟ์ สเตร็งค์ อิเมอร์จิ้ง อีสเทอร์น ยุโรป เอฟไอเอฟ ได้กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจว่า ในเดือนเมษายน ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากในภูมิภาคยุโรปตะวันออก เช่นเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลกที่ยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยนักลงทุนได้มองข้ามภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปัจจุบันไปยังความหวังของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในปีหน้า
ขณะเดียวกัน หุ้นตุรกีและรัสเซียแข็งแกร่งขึ้นเป็นพิเศษ โดยตลาดรัสเซียได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งราคาที่ปรับขึ้นนี้ได้ส่งผลให้ค่าเงินรูเบิลแข็งค่าขึ้น ขณะที่หุ้นของธนาคารต่างๆ มีผลการดำเนินที่ดี โดยธนาคาร Halkbank ของตุรกีปรับตัวเพิ่มขึ้น 57.1%ขณะที่ธนาคาร Sberbank ของรัสเซียปรับตัวเพิ่มขึ้น 37.1% อันเป็นผลจากผลประกอบการในไตรมาสสี่และตลอดทั้งปี ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการควบคุมต้นทุนเป็นที่น่าพอใจ
ในส่วนของบริษัทน้ำมันหลัก Rosneft ของรัสเซีย ซึ่งเป็นหุ้นที่ได้มีการปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนให้มากกว่าตลาดอย่างมีนัยสำคัญที่สุดในพอร์ตการลงทุน ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 22.4% เป็นผลมาจากข่าวที่ว่า ประเทศจีนได้ขยายวงเงินกู้ให้แก่บริษัทฯอีก 15,000 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งทำให้เพียงพอต่อการดำรงเงินกองทุนขั้นต่ำไปอีกหลายปีข้างหน้า โดยมีข้อแลกเปลี่ยนคือรัสเซียจะต้องส่งน้ำมันให้แก่จีนตลอด20 ปีข้างหน้านี้
อย่างไรก็ตาม จากความหวังของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่มีความแน่นอนมากขึ้น และการพัฒนาเฉพาะด้านต่างๆของบริษัทได้มีความสำคัญเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในการเป็นตัวขับเคลื่อนของการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นโดยแนวโน้มในระยะกลางของกองทุนยังคงมีความน่าสนใจลงทุน
สำหรับกองทุนหลัก Manulife Global Fund-Emerging Eastern Europe Fund (Class A) ซึ่งเป็นกองแม่ของกองทุนเปิด แมนูไลฟ์ สเตร็งค์ อิเมอร์จิ้ง อีสเทอร์น ยุโรป เอฟไอเอฟ มีนโยบายการลงทุน โดยกองทุนมีเป้าหมายที่จะทำให้เงินลงทุนเติบโตโดยการลงทุนในหลักทรัพย์พื้นฐานซึ่งมีการจดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศในแถบยุโรปตอนกลางและตะวันออก ซึ่งกองทุนจะเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศสาธารณรัฐเชค ฮังการี โปแลนด์ สโลวาเกีย และรัสเซีย โดยหลักทรัพย์ดังกล่าว อาจมีการจดทะเบียนอยู่ในประเทศอื่น อย่างไรก็ตาม กองทุนอาจขยายการลงทุนไปในตลาดของประเทศอื่น ๆ ที่เปิดใหม่ในภูมิภาคเดียวกัน โดยจะไม่ลงทุนในประเทศใดประเทศหนึ่งเกินกว่า 50%ของขนาดสินทรัพย์กองทุน และจะไม่ลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในประเทศรัสเซียเพียงแห่งเดียว รวมกันเกินกว่า 10% ของขนาดสินทรัพย์กองทุน
นายพนุกร จันทรประภพ ผู้อำนวยการฝ่ายตราสารทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้น ทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจในภาวะเศรษฐกิจโดยรวมมากขึ้น จึงกล้าที่จะโยกเม็ดเงินจากสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำมาลงทุนยังสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ขณะเดียวกัน การที่ผลตอบแทนจากการลงทุนในพันธบัตรปรับตัวลดลง ทำให้นักลงทุนมองการหาการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้น ดังนั้น การที่เม็ดเงินไหลออกจากพันธบัตรมาลงทุนในตลาดหุ้นเพิ่มขึ้น ได้ส่งผลให้ดัชนีทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม จากปัจจัยในเรื่องของผลตอบแทนที่ต่ำมากนั้น ทำให้นักลงทุนจึงเริ่มหันมามองการลงทุนในกลุ่มประเทศเกิดใหม่มากขึ้น โดยผลการดำเนินงานของกองทุนเปิด แมนูไลฟ์ สเตร็งค์ อิเมอร์จิ้ง อีสเทอร์น ยุโรป เอฟไอเอฟ ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในประเทศเกิดใหม่นั้น มีผลการดำเนินงานย้อนหลังค่อนข้างดี แม้ว่าภาพรวมเศรษฐทั่วโลกจะไม่ดีมากนัก
โดย ณ วันที่ 26 พฤษภาคม 2552 กองทุนเปิด แมนูไลฟ์ สเตร็งค์ อิเมอร์จิ้ง อีสเทอร์น ยุโรป เอฟไอเอฟ มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 47.17% ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 39.71% ขณะที่ผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 25.75% ส่วนเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 34.61% ด้านผลการดำเนินงานย้อนหลัง 9 เดือน -50.17% เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -37.33% ส่วนผลการดำเนินงานนับตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 25.21% ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 27.16% ทั้งนี้เกณฑ์มาตรฐานของกองทุนเปรียบเทียบMSCI EM Eastern Europe Index เป็นดัชนีที่จัดทำขึ้นโดย Morgan Stanley Capital International Inc. เพื่อสำหรับใช้ในการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานของการลงทุนในหลักทรัพย์ของประเทศในแถบยุโรปตอนกลางและตะวันออกข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลสกุลบาท
"แม้ก่อนหน้านี้ ได้มีการคาดการณ์ถึงภาพรวมเศรษฐกิจและแนวโน้มการฟื้นตัวของยุโรปตะวันออกว่ายังไม่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น แต่ก็มีนักลงทุนบางกลุ่มที่มองถึงโอกาสของการสร้างผลตอบแทนที่ดีสำหรับการลงทุนในกลุ่มประเทศเหล่านี้ ดังนั้น เมื่อภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศเหล่านี้เริ่มปรับตัวดีขึ้น กองทุนที่ไปลงทุนก็จะได้รับอานิสงส์จากจุดนี้ด้วย"นายพนุกร กล่าว
สำหรับกองทุนเปิด แมนูไลฟ์ สเตร็งค์ อิเมอร์จิ้ง อีสเทอร์น ยุโรป เอฟไอเอฟ เป็นกองทุนรวมหน่วยลงทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ที่ไม่กำหนดอายุโครงการ โดยเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Manulife GlobalFund-Emerging Eastern Europe Fund (Class A) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิส่วนที่เหลืออาจจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ หรือเงินฝากสถาบันการเงินที่มีอายุตราสารหรือระยะเวลาฝากเงินไม่เกิน 1 ปี
ด้านผู้จัดการกองทุนของ Manulife Global Fund-Emerging Eastern Europe Fund (Class A) ซึ่งเป็นกองแม่ของกองทุนเปิด แมนูไลฟ์ สเตร็งค์ อิเมอร์จิ้ง อีสเทอร์น ยุโรป เอฟไอเอฟ ได้กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจว่า ในเดือนเมษายน ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากในภูมิภาคยุโรปตะวันออก เช่นเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลกที่ยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยนักลงทุนได้มองข้ามภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปัจจุบันไปยังความหวังของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในปีหน้า
ขณะเดียวกัน หุ้นตุรกีและรัสเซียแข็งแกร่งขึ้นเป็นพิเศษ โดยตลาดรัสเซียได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งราคาที่ปรับขึ้นนี้ได้ส่งผลให้ค่าเงินรูเบิลแข็งค่าขึ้น ขณะที่หุ้นของธนาคารต่างๆ มีผลการดำเนินที่ดี โดยธนาคาร Halkbank ของตุรกีปรับตัวเพิ่มขึ้น 57.1%ขณะที่ธนาคาร Sberbank ของรัสเซียปรับตัวเพิ่มขึ้น 37.1% อันเป็นผลจากผลประกอบการในไตรมาสสี่และตลอดทั้งปี ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการควบคุมต้นทุนเป็นที่น่าพอใจ
ในส่วนของบริษัทน้ำมันหลัก Rosneft ของรัสเซีย ซึ่งเป็นหุ้นที่ได้มีการปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนให้มากกว่าตลาดอย่างมีนัยสำคัญที่สุดในพอร์ตการลงทุน ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 22.4% เป็นผลมาจากข่าวที่ว่า ประเทศจีนได้ขยายวงเงินกู้ให้แก่บริษัทฯอีก 15,000 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งทำให้เพียงพอต่อการดำรงเงินกองทุนขั้นต่ำไปอีกหลายปีข้างหน้า โดยมีข้อแลกเปลี่ยนคือรัสเซียจะต้องส่งน้ำมันให้แก่จีนตลอด20 ปีข้างหน้านี้
อย่างไรก็ตาม จากความหวังของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่มีความแน่นอนมากขึ้น และการพัฒนาเฉพาะด้านต่างๆของบริษัทได้มีความสำคัญเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในการเป็นตัวขับเคลื่อนของการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นโดยแนวโน้มในระยะกลางของกองทุนยังคงมีความน่าสนใจลงทุน
สำหรับกองทุนหลัก Manulife Global Fund-Emerging Eastern Europe Fund (Class A) ซึ่งเป็นกองแม่ของกองทุนเปิด แมนูไลฟ์ สเตร็งค์ อิเมอร์จิ้ง อีสเทอร์น ยุโรป เอฟไอเอฟ มีนโยบายการลงทุน โดยกองทุนมีเป้าหมายที่จะทำให้เงินลงทุนเติบโตโดยการลงทุนในหลักทรัพย์พื้นฐานซึ่งมีการจดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศในแถบยุโรปตอนกลางและตะวันออก ซึ่งกองทุนจะเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศสาธารณรัฐเชค ฮังการี โปแลนด์ สโลวาเกีย และรัสเซีย โดยหลักทรัพย์ดังกล่าว อาจมีการจดทะเบียนอยู่ในประเทศอื่น อย่างไรก็ตาม กองทุนอาจขยายการลงทุนไปในตลาดของประเทศอื่น ๆ ที่เปิดใหม่ในภูมิภาคเดียวกัน โดยจะไม่ลงทุนในประเทศใดประเทศหนึ่งเกินกว่า 50%ของขนาดสินทรัพย์กองทุน และจะไม่ลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในประเทศรัสเซียเพียงแห่งเดียว รวมกันเกินกว่า 10% ของขนาดสินทรัพย์กองทุน