บลจ.กรุงไทยได้ฤกษ์ขายมันนี่มาร์เก็ตกองใหม่ "กรุงไทยเซฟวิ่งฟันด์" เน้นลงตราสารหนี้ภาครัฐทั้งหมด เปิดขายไอพีโอเเล้วตั้งเเต่วันนี้ถึง 3 มิถุนายนพร้อมเปิดขายครั้งต่อไปในวันที่ 10 มิถุนายน 52 เป็นต้นไป
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าว่า บลจ.กำลังอยู่ในช่วงเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยเซฟวิ่งฟันด์ (KTSV) ซึ่งถือว่าเป็นกองทุนมันนี่มาร์เก็ตกองที่ 2 ของบลจ. ต่อจากกองทุนรวมตลาดเงินแรกของบลจ.คือ กองทุนเปิดกรุงไทยสะสมทรัพย์ ( KTSS )
สำหรับกองทุนเปิดกรุงไทยเซฟวิ่ง ฟันด์ มีนโยบายที่เน้นลงทุนในตราสารภาครัฐไทย โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยส่วนที่เหลือจะลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งเงินฝาก ตราสารเเห่งหนี้เเละหรือตราสารทางการเงินอื่น รวมทั้งลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีตามสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์เเละตลาดหลักทรัพย์กำหนด หรือเห็นชอบให้ลงทุนได้ ซึ่งมีกำหนดชำระคืนเมือทวงถามหรือจะครบกำหนดชำระคืนหรือมีอายุสัญญาไม่เกิน 1ปี นับตั้งเเต่วันที่กองทุนได้ลงทุน
ทั้งนี้ กองทุนนี้จะเปิดขายครั้งแรก ( IPO) ตั้งเเต่วันนี้ ถึง3 มิถุนายน 2552 และจะเปิดขายครั้งต่อไปในวันที่ 10 มิถุนายน 2552 เป็นต้นไป เเละในช่วงระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม -31 กรกฎาคม 2552 หากนักลงทุนเลือกลงทุนในกองทุน KTSV และกองทุน KTSS ตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป จะได้รับหน่วยลงทุนเพิ่มอีกมูลค่า 200 บาท โดยกองทุนจะจำหน่ายผ่านสาขาธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศ
"กองทุนกรุงไทยเซฟวิ่งฟันด์ เเตกต่างกับกองทุนกรุงไทยสะสมทรัพย์ตรงที่ จะลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐรัฐบาลทั้งหมด ซึ่งความเสี่ยงของกองทุนสามารถเทียบได้กับการฝากเงินออมทรัพย์เลยทีเดียว" นายสมชัย กล่าว
อย่างไรก็ตามกองทุนจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เเละจะไม่ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเเฝง(Structured Note) รวมถึงตราสารเเห่งหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือผู้ออดตราสารต่ำกว่าที่สามารถลงทุนได้ (non investment grade) หรือไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ
ส่วนกองทุนเปิดกรุงไทยสะสมทรัพย์นั้น เป็นกองทุนที่ลงทุนในเงินฝาก ตราสารหนี้ที่ออกโดยสถาบันการเงิน ตราสารหนี้ภาครัฐหรือตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ Investment Grade ขึ้นไป ที่มีอายุไม่เกิน1 ปี
สำหรับมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนเปิดกรุงไทยสะสมทรัพย์ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 8,000 ล้านบาทเเละมีอัตราผลตอบแทนนับจากต้นปีถึงปัจจุบัน อยู่ที่ประมาณ 1.42%ต่อปี
นายสมชัย กล่าวอีกว่า นอกจากกองทุนตลาดเงินแล้ว ขณะนี้บลจ.กำลังทำการเปิดขายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ9เดือน3 (KTFIF9M3) กองทุนตราสารหนี้อายุโครงการ 9 เดือน มูลค่า 5,000 ล้านบาทอีกด้วย โดยกองทุนนี้จะมีนโยบายลงทุนตราสารหนี้สถาบันการเงินภาครัฐต่างประเทศ ที่เน้นลงทุนใน ECP หรือ EMTN ซึ่งเป็นตราสารหนี้สกุลดอลล่าร์สหรัฐฯที่ออกโดยสถาบันการเงินเกาหลีใต้ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับสูงสุด A1 โดย S&P
ทั้งนี้ตราสารที่กองทุนลงทุนประกอบด้วย KDB, K-EXIM ,IBK และ Kookmin Bank ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีส่วนแบ่งการตลาดทั้งด้านสินเชื่อและเงินฝากสูงสุดในเกาหลีใต้ ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณการที่ 2.60 -3.00 % ต่อปีทั้งนี้ เงินลงทุนในกองทุนดังกล่าวจะทำการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ซึ่งจะเปิดขายตั้งเเต่วันนี้ถึง26 พฤษภาคม 2552
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าว่า บลจ.กำลังอยู่ในช่วงเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยเซฟวิ่งฟันด์ (KTSV) ซึ่งถือว่าเป็นกองทุนมันนี่มาร์เก็ตกองที่ 2 ของบลจ. ต่อจากกองทุนรวมตลาดเงินแรกของบลจ.คือ กองทุนเปิดกรุงไทยสะสมทรัพย์ ( KTSS )
สำหรับกองทุนเปิดกรุงไทยเซฟวิ่ง ฟันด์ มีนโยบายที่เน้นลงทุนในตราสารภาครัฐไทย โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยส่วนที่เหลือจะลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งเงินฝาก ตราสารเเห่งหนี้เเละหรือตราสารทางการเงินอื่น รวมทั้งลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีตามสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์เเละตลาดหลักทรัพย์กำหนด หรือเห็นชอบให้ลงทุนได้ ซึ่งมีกำหนดชำระคืนเมือทวงถามหรือจะครบกำหนดชำระคืนหรือมีอายุสัญญาไม่เกิน 1ปี นับตั้งเเต่วันที่กองทุนได้ลงทุน
ทั้งนี้ กองทุนนี้จะเปิดขายครั้งแรก ( IPO) ตั้งเเต่วันนี้ ถึง3 มิถุนายน 2552 และจะเปิดขายครั้งต่อไปในวันที่ 10 มิถุนายน 2552 เป็นต้นไป เเละในช่วงระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม -31 กรกฎาคม 2552 หากนักลงทุนเลือกลงทุนในกองทุน KTSV และกองทุน KTSS ตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป จะได้รับหน่วยลงทุนเพิ่มอีกมูลค่า 200 บาท โดยกองทุนจะจำหน่ายผ่านสาขาธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศ
"กองทุนกรุงไทยเซฟวิ่งฟันด์ เเตกต่างกับกองทุนกรุงไทยสะสมทรัพย์ตรงที่ จะลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐรัฐบาลทั้งหมด ซึ่งความเสี่ยงของกองทุนสามารถเทียบได้กับการฝากเงินออมทรัพย์เลยทีเดียว" นายสมชัย กล่าว
อย่างไรก็ตามกองทุนจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เเละจะไม่ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเเฝง(Structured Note) รวมถึงตราสารเเห่งหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือผู้ออดตราสารต่ำกว่าที่สามารถลงทุนได้ (non investment grade) หรือไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ
ส่วนกองทุนเปิดกรุงไทยสะสมทรัพย์นั้น เป็นกองทุนที่ลงทุนในเงินฝาก ตราสารหนี้ที่ออกโดยสถาบันการเงิน ตราสารหนี้ภาครัฐหรือตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ Investment Grade ขึ้นไป ที่มีอายุไม่เกิน1 ปี
สำหรับมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนเปิดกรุงไทยสะสมทรัพย์ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 8,000 ล้านบาทเเละมีอัตราผลตอบแทนนับจากต้นปีถึงปัจจุบัน อยู่ที่ประมาณ 1.42%ต่อปี
นายสมชัย กล่าวอีกว่า นอกจากกองทุนตลาดเงินแล้ว ขณะนี้บลจ.กำลังทำการเปิดขายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ9เดือน3 (KTFIF9M3) กองทุนตราสารหนี้อายุโครงการ 9 เดือน มูลค่า 5,000 ล้านบาทอีกด้วย โดยกองทุนนี้จะมีนโยบายลงทุนตราสารหนี้สถาบันการเงินภาครัฐต่างประเทศ ที่เน้นลงทุนใน ECP หรือ EMTN ซึ่งเป็นตราสารหนี้สกุลดอลล่าร์สหรัฐฯที่ออกโดยสถาบันการเงินเกาหลีใต้ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับสูงสุด A1 โดย S&P
ทั้งนี้ตราสารที่กองทุนลงทุนประกอบด้วย KDB, K-EXIM ,IBK และ Kookmin Bank ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีส่วนแบ่งการตลาดทั้งด้านสินเชื่อและเงินฝากสูงสุดในเกาหลีใต้ ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณการที่ 2.60 -3.00 % ต่อปีทั้งนี้ เงินลงทุนในกองทุนดังกล่าวจะทำการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ซึ่งจะเปิดขายตั้งเเต่วันนี้ถึง26 พฤษภาคม 2552
