คอลัมน์ คลายทุกข์ ยุควิกฤต
โดย White Cow (wc2552@yahoo.com)
ราคาทองคำได้ไต่ระดับมาอยู่ที่ 930 เหรียญในปัจจุบัน หากนำทฤษฎีคลื่นของอีลเลียต (Elliot’s waves) ลองมาจับดูกันอีกครั้งว่าจะไปในทิศทางใดต่อ พอจะนับคลื่นได้จาก ที่ระดับ 865 เหรียญ เป็นจุดเริ่มของคลื่นที่ 1 รอบใหม่ แล้วจบคลื่นลูกแรกไปที่ 918 เหรียญ มีการปรับตัวลงมาเป็นคลื่นลูกที่สองในระดับ 880 เหรียญ จากนั้นก็เริ่มคลื่นที่ 3 ซึ่งโดยปกติจะมีความยาวของคลื่นที่มากที่สุด ล่าสุดได้ทำการสะสมราคาที่ระดับยอดของคลื่นลูกแรกมาพักหนึ่งจนสามารถทะลุผ่านมาได้ ซึ่งเป็นการยืนยันการฟอร์มตัวของคลื่นลูกที่สามอย่างสมบูรณ์ จากนี้อยู่ที่ว่าจะไปสร้างจุดสูงสุดของคลื่นที่ระดับไหน จุดที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด ก็คือระดับสูงสุดเดิมที่ผ่านมา 1,005 เหรียญหรืออาจจะสูงกว่านั้น แล้วจึงมีการปรับตัวลงมาเป็นคลื่นลูกที่สี่โดยจะต้องไม่ต่ำกว่ายอดของคลื่นลูกแรกที่ 918 เหรียญ และถ้าเป็นไปตามที่คาดไว้นี้ เราก็คงจะได้เห็น New High ของราคาทองคำภายในปีนี้ ที่ระดับ 1,300 เหรียญ จากการยืดตัวของคลื่นที่ 5 (extended wave)
บทวิเคราะห์ ตามรูปกราฟราคาทองคำรายสัปดาห์ ดัชนีชี้วัดด้านเทคนิคทั้งสองกำลังจะมีสัญญาณซื้ออย่างชัดเจน โดย Modified Stochastic ค่า%K เริ่มสูงขึ้นมาสองสัปดาห์และกำลังจะตัดขึ้นที่ %D เท่ากับ 43.11 ส่วน MACD Oscillator ก็กำลังจะตัดเส้นศูนย์ แต่ทั้งนี้ความเสี่ยงของการลงทุนในทองคำยังมีอยู่ คือ ถ้าหากระดับราคาไม่สามารถทะลุระดับสูงสุดเดิมที่ 1,005 เหรียญไปได้ จะมีโอกาสทำให้เกิดเป็นรูปแบบ double top ได้ ซึ่งราคาจะลดลงมาอย่างรวดเร็วจนหลุดแนวรับที่ 918 เหรียญไป (ความเห็นส่วนตัวให้โอกาสของการเกิด New High มากกว่าการเกิด double top) ฉะนั้นเมื่อราคาขยับตัวมาถึงระดับสูงสุดเดิม เพื่อเป็นการลดความเสี่ยง อาจจะมีการขายทำกำไรออกมารอบหนึ่งก่อน แล้วรอดูว่าควรจะซื้อกลับ ณ ระดับราคาใด โดยเฉพาะที่แนวรับ 918 เหรียญห้ามหลุดเด็ดขาด สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้อาจจะไม่ต้องขายทำกำไร แต่กลับเพิ่มการลงทุนเมื่อราคามีการปรับตัวลงมาแทน ดัชนีชี้วัดอีกหนึ่งตัวที่สนับสนุนการขึ้นของราคาทองคำคือ อัตราส่วนระหว่างราคาทองคำต่อราคาน้ำมันดิบที่ได้เคยนำเสนอกันไปบ้างแล้ว ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 16.4 โดยอัตราส่วนดังกล่าวขึ้นไปมีค่าสูงสุดที่ 25 เมื่อราคาทองคำสูงสุดเดิม แล้วลดต่ำลงมาจนต่ำสุดที่ 15.6 เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา มีแนวโน้มกำลังจะขยับตัวขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
สำนวนวันนี้ ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน – คงจะไม่ต้องอธิบายกันมาก ความหมายของสำนวน ตรงไปตรงมาและสอดคล้องกับธรรมะในเรื่องกรรมและผลของกรรมหรือวิบากกรรม ผู้ที่มีความซื่อสัตย์ในการปฏิบัติหน้าที่ย่อมเป็นที่รักของทั้งผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชา ทำให้มีงานทำไปได้ตลอด เปรียบเสมือนมีของให้กินไม่รู้จักหมด หรือพนักงานที่บริการและมีความซื่อสัตย์ต่อลูกค้าเสมอต้นเสมอปลาย ก็ย่อมเป็นที่ถูกใจของลูกค้า แล้วลูกค้าก็จะกลับมาซื้อหรือใช้บริการใหม่ไปตลอด ตรงตามสำนวน “ซื่อกินไม่หมด” ในทางกลับกันผู้ที่ไม่มีความซื่อสัตย์หรือที่เรียกว่า “คดในหน้าที่” เมื่อถูกจับได้ก็คงจะต้องถูกไล่ออกจากงาน อย่างข่าวล่าสุดพนักงานของธนาคารแห่งหนึ่งที่ทำการโอนเงินของธนาคารเข้าบัญชีตัวเองไป 200 กว่าล้านบาท โดยทำตัวเป็นผู้ขยันขันแข็งในหน้าที่ ส่วนเนื้อแท้ของจิตใจนั้นมีแต่ความไม่ซื่อสัตย์ แม้ว่าจะลอยนวลอยู่ได้นานร่วม 2 ปี แต่สุดท้ายวิบากกรรมก็ส่งผลให้ไปรับโทษทัณฑ์กันในคุก จะเห็นได้ว่าถูกต้องตามสำนวน “คดกินไม่นาน”
ของฝาก ดาวพฤหัสบดีกำลังจะพักร์หรือเดินถอยหลังตั้งแต่ 12 มิถุนายนจนถึง 22 ตุลาคมนี้ เหตุการณ์บ้านเมืองของทั้งในบ้านเราและทั่วโลก อาจจะมีเรื่องราวที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ (ในทางที่ไม่ดี) ฉะนั้นการลงทุนในช่วงดังกล่าวอาจจะต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น ไม่แน่เหมือนกันนะคะว่าโรคไข้หวัดใหญ่ (เม็กซิโก) ปี 2009 อาจจะมีการกลายพันธุ์ได้ทำให้จนลุกลามไปทั่วโลก ขอให้ท่านผู้อ่านทุกท่านรักษาสุขภาพกันไว้ด้วย วิตามินซี เป็นหนึ่งทางเลือกสำหรับการทานเพื่อเสริมให้ร่างกายมีภูมิต้านทานสูงขึ้นได้ ลองหาซื้อมาทานกันไว้ก็ดี โดยเฉพาะผู้ที่ไม่มีโอกาสได้รับวิตามินซีโดยตรงจากผลไม้รสเปรี้ยว สำหรับผู้ที่มีรายได้หรือเงินออมมากพอก็อาจจะหาซื้อประกันไว้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นกรมธรรม์ประกันสุขภาพหรือประกันชีวิต เพราะหากเกิดอะไรที่คาดไม่ถึงขึ้นมาก็ยังพอมีเงินช่วยเหลือจากการประกันให้ไว้กับตัวเองหรือผู้ที่อยู่ข้างหลังได้บ้าง และอย่าลืมออกกำลังกาย ทานอาหารให้เหมาะสม อยู่ในสถานที่มีอากาศบริสุทธิ์ เพื่อให้มีสุขภาพที่ดีและพ้นจากโรคภัยต่าง ๆ สมกับคำที่ว่า “อโรคยา ปรมาลาภา” ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ
โดย White Cow (wc2552@yahoo.com)
ราคาทองคำได้ไต่ระดับมาอยู่ที่ 930 เหรียญในปัจจุบัน หากนำทฤษฎีคลื่นของอีลเลียต (Elliot’s waves) ลองมาจับดูกันอีกครั้งว่าจะไปในทิศทางใดต่อ พอจะนับคลื่นได้จาก ที่ระดับ 865 เหรียญ เป็นจุดเริ่มของคลื่นที่ 1 รอบใหม่ แล้วจบคลื่นลูกแรกไปที่ 918 เหรียญ มีการปรับตัวลงมาเป็นคลื่นลูกที่สองในระดับ 880 เหรียญ จากนั้นก็เริ่มคลื่นที่ 3 ซึ่งโดยปกติจะมีความยาวของคลื่นที่มากที่สุด ล่าสุดได้ทำการสะสมราคาที่ระดับยอดของคลื่นลูกแรกมาพักหนึ่งจนสามารถทะลุผ่านมาได้ ซึ่งเป็นการยืนยันการฟอร์มตัวของคลื่นลูกที่สามอย่างสมบูรณ์ จากนี้อยู่ที่ว่าจะไปสร้างจุดสูงสุดของคลื่นที่ระดับไหน จุดที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด ก็คือระดับสูงสุดเดิมที่ผ่านมา 1,005 เหรียญหรืออาจจะสูงกว่านั้น แล้วจึงมีการปรับตัวลงมาเป็นคลื่นลูกที่สี่โดยจะต้องไม่ต่ำกว่ายอดของคลื่นลูกแรกที่ 918 เหรียญ และถ้าเป็นไปตามที่คาดไว้นี้ เราก็คงจะได้เห็น New High ของราคาทองคำภายในปีนี้ ที่ระดับ 1,300 เหรียญ จากการยืดตัวของคลื่นที่ 5 (extended wave)
บทวิเคราะห์ ตามรูปกราฟราคาทองคำรายสัปดาห์ ดัชนีชี้วัดด้านเทคนิคทั้งสองกำลังจะมีสัญญาณซื้ออย่างชัดเจน โดย Modified Stochastic ค่า%K เริ่มสูงขึ้นมาสองสัปดาห์และกำลังจะตัดขึ้นที่ %D เท่ากับ 43.11 ส่วน MACD Oscillator ก็กำลังจะตัดเส้นศูนย์ แต่ทั้งนี้ความเสี่ยงของการลงทุนในทองคำยังมีอยู่ คือ ถ้าหากระดับราคาไม่สามารถทะลุระดับสูงสุดเดิมที่ 1,005 เหรียญไปได้ จะมีโอกาสทำให้เกิดเป็นรูปแบบ double top ได้ ซึ่งราคาจะลดลงมาอย่างรวดเร็วจนหลุดแนวรับที่ 918 เหรียญไป (ความเห็นส่วนตัวให้โอกาสของการเกิด New High มากกว่าการเกิด double top) ฉะนั้นเมื่อราคาขยับตัวมาถึงระดับสูงสุดเดิม เพื่อเป็นการลดความเสี่ยง อาจจะมีการขายทำกำไรออกมารอบหนึ่งก่อน แล้วรอดูว่าควรจะซื้อกลับ ณ ระดับราคาใด โดยเฉพาะที่แนวรับ 918 เหรียญห้ามหลุดเด็ดขาด สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้อาจจะไม่ต้องขายทำกำไร แต่กลับเพิ่มการลงทุนเมื่อราคามีการปรับตัวลงมาแทน ดัชนีชี้วัดอีกหนึ่งตัวที่สนับสนุนการขึ้นของราคาทองคำคือ อัตราส่วนระหว่างราคาทองคำต่อราคาน้ำมันดิบที่ได้เคยนำเสนอกันไปบ้างแล้ว ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 16.4 โดยอัตราส่วนดังกล่าวขึ้นไปมีค่าสูงสุดที่ 25 เมื่อราคาทองคำสูงสุดเดิม แล้วลดต่ำลงมาจนต่ำสุดที่ 15.6 เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา มีแนวโน้มกำลังจะขยับตัวขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
สำนวนวันนี้ ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน – คงจะไม่ต้องอธิบายกันมาก ความหมายของสำนวน ตรงไปตรงมาและสอดคล้องกับธรรมะในเรื่องกรรมและผลของกรรมหรือวิบากกรรม ผู้ที่มีความซื่อสัตย์ในการปฏิบัติหน้าที่ย่อมเป็นที่รักของทั้งผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชา ทำให้มีงานทำไปได้ตลอด เปรียบเสมือนมีของให้กินไม่รู้จักหมด หรือพนักงานที่บริการและมีความซื่อสัตย์ต่อลูกค้าเสมอต้นเสมอปลาย ก็ย่อมเป็นที่ถูกใจของลูกค้า แล้วลูกค้าก็จะกลับมาซื้อหรือใช้บริการใหม่ไปตลอด ตรงตามสำนวน “ซื่อกินไม่หมด” ในทางกลับกันผู้ที่ไม่มีความซื่อสัตย์หรือที่เรียกว่า “คดในหน้าที่” เมื่อถูกจับได้ก็คงจะต้องถูกไล่ออกจากงาน อย่างข่าวล่าสุดพนักงานของธนาคารแห่งหนึ่งที่ทำการโอนเงินของธนาคารเข้าบัญชีตัวเองไป 200 กว่าล้านบาท โดยทำตัวเป็นผู้ขยันขันแข็งในหน้าที่ ส่วนเนื้อแท้ของจิตใจนั้นมีแต่ความไม่ซื่อสัตย์ แม้ว่าจะลอยนวลอยู่ได้นานร่วม 2 ปี แต่สุดท้ายวิบากกรรมก็ส่งผลให้ไปรับโทษทัณฑ์กันในคุก จะเห็นได้ว่าถูกต้องตามสำนวน “คดกินไม่นาน”
ของฝาก ดาวพฤหัสบดีกำลังจะพักร์หรือเดินถอยหลังตั้งแต่ 12 มิถุนายนจนถึง 22 ตุลาคมนี้ เหตุการณ์บ้านเมืองของทั้งในบ้านเราและทั่วโลก อาจจะมีเรื่องราวที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ (ในทางที่ไม่ดี) ฉะนั้นการลงทุนในช่วงดังกล่าวอาจจะต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น ไม่แน่เหมือนกันนะคะว่าโรคไข้หวัดใหญ่ (เม็กซิโก) ปี 2009 อาจจะมีการกลายพันธุ์ได้ทำให้จนลุกลามไปทั่วโลก ขอให้ท่านผู้อ่านทุกท่านรักษาสุขภาพกันไว้ด้วย วิตามินซี เป็นหนึ่งทางเลือกสำหรับการทานเพื่อเสริมให้ร่างกายมีภูมิต้านทานสูงขึ้นได้ ลองหาซื้อมาทานกันไว้ก็ดี โดยเฉพาะผู้ที่ไม่มีโอกาสได้รับวิตามินซีโดยตรงจากผลไม้รสเปรี้ยว สำหรับผู้ที่มีรายได้หรือเงินออมมากพอก็อาจจะหาซื้อประกันไว้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นกรมธรรม์ประกันสุขภาพหรือประกันชีวิต เพราะหากเกิดอะไรที่คาดไม่ถึงขึ้นมาก็ยังพอมีเงินช่วยเหลือจากการประกันให้ไว้กับตัวเองหรือผู้ที่อยู่ข้างหลังได้บ้าง และอย่าลืมออกกำลังกาย ทานอาหารให้เหมาะสม อยู่ในสถานที่มีอากาศบริสุทธิ์ เพื่อให้มีสุขภาพที่ดีและพ้นจากโรคภัยต่าง ๆ สมกับคำที่ว่า “อโรคยา ปรมาลาภา” ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ
