xs
xsm
sm
md
lg

TMBAM Employee’s Choice บริหารกองทุนตามสไตล์ของลูกจ้าง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นรูปแบบหนึ่งของการให้สวัสดิการแก่ลูกจ้าง ซึ่งนอกจากจะทำให้ลูกจ้างมีการออมอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังมีการนำเงินไปบริหารให้เกิดดอกผลงอกเงยโดยผู้บริหารโดยมืออาชีพที่เรียกว่า "บริษัทจัดการ" แต่การนำเงินไปลงทุนผ่านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพนั้น ที่ผ่านมามักประสบปัญหาในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ความรู้ของสมาชิกที่ไม่เข้าใจในเรื่องของการลงทุนมากพอ ขณะเดียวกันการลงทุนเกิดปัญหาขาดทุนขึ้นสมาชิกส่วนใหญ่มักไม่เข้าใจว่าทำไมตนเองถึงขาดทุน...

 ทั้งนี้ การลงทุนนั้นเป็นเรื่องที่ไม่สามารถที่จะให้ใครกำหนดได้เสมอไป เพราะแต่ละคนนั้นมีความแตกต่างๆ ดังนั้น การลงทุนที่ผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนได้ตามความเสี่ยงที่เรียกกันว่า "Employee’s Choice" จึงถูกพูดถึงและให้ความสำคัญกันมากขึ้น

 ...และ  TMBAM Employee’s Choice แนวทางการบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ภายใต้การจัดการของ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด ก็เป็นแนวคิดใหม่ ที่ตอบโจทย์ที่ว่า...ทุกคนมีความความแตกต่างกัน  รวมถึงมีความต้องการในการลงทุนที่แตกต่างกันไปตามสไตล์ของการลงทุนแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของ วัตุประสงค์ในการลงทุน ระยะเวลาในการลงทุน อีกทั้งในเรื่องของระดับความเสี่ยงที่ยอมได้ ซึ่งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในรูปแบบเดิมนั้นทาง คณะกรรมการบริหารของแต่ละ บลจ. จะเลือกให้แก่ลูกจ้างที่เป็นสมาชิกเองว่าจะลงทุนในสินทรัพย์อะไรบ้าง โดยที่สมาชิกไม่สามารถเลือกลงทุนได้ด้วยตนเอง 
ไพศาล ครุฑดำรงชัย
ทั้งนี้ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพในแบบของ บลจ.ทหารไทยนั้น จะเป็นการบริหารกองทุนในรูปแบบที่เรียกว่า  "Master Fund" ซึ่งจะมีลักษณะเป็นกองทุนร่วมทุน (Pool Fund) ที่นายจ้างสามารถเข้าจดทะเบียนร่วมเป็นสมาชิกกองทุนเพียงครั้งเดียว โดยรูปแบบดังกล่าวมีนโยบายการลงทุนให้สมาชิกสามารถเลือกลงทุนได้ด้วยตนเอง ซึ่งมีถึง 7 นโยบายประกอบด้วย กองทุนประเภทตราสารหนี้ที่เน้นความเสี่ยงต่ำ มีสภาพคล่องสูงจำนวน 2 นโยบาย คือนโยบายที่ 1 ลงทุนใน กองทุนเปิดทหารไทยธนรัฐ นโยบายที่ 2 ลงทุนใน กองทุนเปิดทหารไทยธนบดี ซึ่งทั้ง 2 กองทุนเหมาะกับผู้ที่ต้องการความมั่นคงสูงและความเสี่ยงต่ำ เพราะได้รับการจัดอันดับเครดิตสูงสุดจากฟิทซ์ เรตติ้ง คือ  AAA (th)/ V1+(tha) 

 ขณะที่นโยบายที่ 3 จะเน้นลงทุนในหุ้นเต็มอัตราได้แก่  กองทุนเปิดทหารไทย SET 50 ที่ลงทุนในหุ้นสามัญที่ให้ผลตอบแทนใกล้เคียงดัชนี SET 50 เช่นเดียวกับนโยบายที่ 4 คือ กองทุนเปิด JUMBO 25  ที่ลงทุนในหุ้นสามัญ 25 ตัวแรกที่คัดเลือกจากเกณฑ์มูลค่าตามราคาตลาด ผลประกอบการ การจ่ายเงินปันผลสภาพคล่องของหลักทรัพย์ และการควบคุมการกระจุกตัวของหลักทรัพย์ในแต่ละอุตสาหกรรม

 มากันที่นโยบายที่ 5 จะเป็นการลงทุนใน กองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ฟันด์ ที่ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศที่ลงทุนในทองคำแท่ง ส่วนนโยบายที่ 6 จะลงทุนในหุ้นต่างประเทศนั่นคือ กองทุนเปิดทหารไทย World Equity Index  ที่ลงทุนในกองทุน  Lyxor ETF MSCI world  เพื่อให้ได้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี  MSCI world  และนโยบายสุดท้ายจะลงทุนใน กองทุนเปิดทหารไทย Emerging Market Index Equity Fund  เพื่อลงทุนในหุ้นต่างประเทศผ่านกองทุน  iShares MSCI Emerging Market Index Fund เพื่อสร้างผลตอบแทนการลงทุนให้ใกล้เคียงดัชนี   MSCI Emerging

 ...สำหรับ จุดเด่นของ "TMBAM Employee’s Choice "  อยู่ที่มีนโยบายการลงทุนที่หลากหลายให้สมาชิกเลือกผ่านกองทุนที่จัดตั้งไว้ ซึ่งแต่ละนโยบาย เน้นการลงทุนในประเภทหลักทรัพย์และระดับความเสี่ยงที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน (Define Asset Class) ทำให้สมาชิกสามารถตัดสินใจเลือกได้อย่างไม่ยุ่งยาก
 
 โดยนายจ้างจะนำส่งเงินโดยจำทำเช็คเพียง 1 ใบและบริษัทจะทำหน้าที่กระจายเงินของสมาชิกไปยังกองทุนที่เลือก เมื่อกองทุนมีขนาดใหญ่ขึ้น จะส่งผลให้สามารถต่อรองกับบริษัทต่างๆที่เกี่ยวข้องในการบริหารเงินลงทุนได้มากขึ้นทำให้ค่าใช้จ่ายโดยรวมลดลง

 ที่สำคัญ...เรายังไม่คิดค่าใช้จ่ายในการจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เนื่องจากเงินกองทุนจะถูกนำไปลงทุนในหน่วยลงทุนในกองทุนที่จัดตั้งไว้จึงไม่ถูกเรียกเก็บซ้ำซ้อน ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีบริการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนและวิธีการเลือกนโยบายการลงทุนให้เหมาะกับความต้องการ นอกจากนี้ สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพยยังจะได้รับบริการด้านต่างๆเช่นเดียวกับผู้ถือหน่วย บลจ. ทหารไทย ไม่ว่าจะเป็น Call Center หรือ The Library และโปรแกรม Fund Link ฯลฯ

 ไพศาล ครุฑดำรงชัย  รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด บอกว่า ที่ผ่านมานโยบายการลงทุนของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จะกำหนดโดยคณะกรรมการกองทุนและจะกำหนดเป็นนโยบายเดียวสำหรับสมาชิกกองทุนทุกคน ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับกับสมาชิกแต่ละคนที่มีความแตกต่างกัน ทั้งอายุ ความต้องการ ระยะเวลาการออม จำนวนเงินออม ความเสี่ยงที่รับได้ ตลอดจนความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุน อีกทั้งสมาชิกในแต่ละวัยอาจมีเป้าหมายในการออมที่แตกต่างกัน ดังนั้น
 การจัดรูปแบบการลงทุนที่แตกต่างให้สมาชิกแต่ลละคนเลือกตามกรอบนโยบาย จะเป็นทางออกที่เหมาะสม เพราะสมาชิกจะสามารถเปลี่ยนแผนการลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเองได้ตลอดเวลา
 ข้อดีของ Master Fund Employee’s Choice

 - สมาชิกสามารถเลือกนโยบายการลงทุนได้ทุกนโยบายที่มีในขณะนั้น โดยสามารถจัดสรรเงินกองทุนเพื่อลงทุนในแต่ละนโยบายที่เลือกได้  ตามสัดส่วนที่ต้องการ   และ ความเหมาะสมของ แต่ละบุคคล ซึ่งอาจแตกต่างกัน  ภายใต้กรอบที่นายจ้างวางไว้
 - ได้รับผลตอบแทนที่คาดหวังตามนโยบายการลงทุนที่ตนเองเลือก
 - สามารถกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนโดยเลือกลงทุนในหลายนโยบายการลงทุน
 - ลดภาระในการบริหารจัดการ  เนื่องจากไม่ต้องแยกเป็นหลายกองทุน มีคณะกรรมการกองทุนและข้อบังคับกองทุนเดียวกัน
 - ลดค่าใช้จ่ายที่เป็นต้นทุนคงที่   อาทิ ค่าสอบบัญชี
 - สมาชิกสามารถเลือกนโยบายการลงทุนได้ทุกนโยบายที่มีในขณะนั้น โดยสามารถจัดสรรเงินกองทุนเพื่อลงทุนในแต่ละนโยบายที่เลือกได้ตามสัดส่วนที่ต้องการ

 นอกจากนี้แล้วสมาชิกยังจะได้รับประโยชน์สูงสุดในด้านต่างๆ ดังนี้
 -  การประหยัดขนาดเป็นผลให้ค่าใช้จ่ายลดลง
 - สมาชิกสามารถเลือกนโยบายการลงทุนที่เหมาะสมได้ด้วยตนเอง
 - การลงทุนของกองทุนจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น
 - สิทธิในการเลือกนโยบายการลงทุน 
 - ได้รับข้อมูลการลงทุนอย่างครบถ้วน
 - ไม่มีค่าธรรมเนียมเรียกเก็บซ้ำซ้อน (No double Fee Charged)
 - มีความโปร่งใส
 - สมาชิกทุกคนเท่าเทียมกัน

  ...ถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างมากสำหรับบรรดาลูกจ้างที่ลงทุนอยู่ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ที่จะได้สามารถบริหารการลงทุนของตนเองได้ด้วยตนเองกันแล้วนะครับ ซึ่งต่อจากนี้คงต้องติดตามสถานการณ์การลงทุนกันมากขึ้นแล้วว่า มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรในแวดวงการลงทุนบ้าง รวมทั้งต้องศึกษาข้อมูลรวมถึงภาวะต่างๆกันมากขึ้นอีก เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนของแต่ละท่าน ที่สำคัญ
อย่าลืมว่า...ความเสี่ยงกับผลตอบแทนเป็นของคู่กัน
กำลังโหลดความคิดเห็น