บลจ.ไอเอ็นจี ทยอยจ่ายปันผลพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ 3 กองทุนในพอร์ต ผู้ถือหน่วยเฮรับพร้อมกันถ้วนหน้า 12 มิถุนายนนี้
นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด รายงานผลประกอบการและการจ่ายเงินปันผลของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ภายใต้การบริหารจำนวน4 กองทุน ซึ่งประกอบด้วย กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยอินดัสเตรียล 1 (TIF1) โดยผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2552 ซึ่งกองทุนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,315 ล้านบาท เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 85,326 ล้านบาท และกำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 0.0146 บาท เมื่อเทียบกับช่วงเปลี่ยนแปลงลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 98.46 โดยกองทุนมียอดกำไรสุทธิประจำงวดปี 2551 เป็นจำนวน 85.33 ล้านบาท ในขณะที่ประจำงวด 1 ปีในปีนี้ กองทุนมีกำไรสุทธิเพียง 1.32 ล้านบาท
ทั้งนี้ สาเหตุดังกล่าวมาจากในระหว่างปี 2551 และปี 2552 กองทุนมีการว่าจ้างผู้ประเมินราคาอิสระให้ทำการประเมินมูลค่าเงินลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โดยใช้วิธีพิจารณาจากรายได้ โดยในปี 2551 มีการปรับมูลค่าของเงินลงทุนเพิ่มขึ้นและรับรู้กำไรสุทธิที่ยังไม่เกิดขึ้นจากเงินลงทุนเป็นจำนวน 21.06 ล้านบาท ในขณะที่ในงวดปี 2552 มีการปรับมูลค่าเงินลงทุนลดลงและรับรู้ขาดทุนสุทธิที่ยังไม่เกิดขึ้นจากเงินลงทุนจำนวน 55.45 ล้านบาท จึงเป็นเหตุให้กำไรสุทธิของงวด 1 ปีสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2552 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะเดียวกันกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยอินดัสเตรียล 1 จะทำการจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 15 จากผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2552 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2552 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.150 บาท
นอกจากนี้ บลจ.ไอเอ็นจี ยังได้ประกาศจ่ายปันผลกองทุนอสังหาริมทรัพย์ในพอร์ตด้วย ซึ่งประกอบด้วย กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บ้านแสนสิริ (SIRIPF) จะจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 14 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.182 บาท และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ฟิวเจอร์พาร์ค (FUTUREPF) จ่ายเงินปันผลครั้งที่ 10 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.251 บาท โดยทั้ง 3 กองทุนบริษัทกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 12 มิถุนายน 2552 ทั้งนี้ กองทุนจะกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน เพื่อกำหนดสิทธิในการรับเงินปันผลครั้งที่ 15 นี้ในวันที่ 29 พฤษภาคม 2552
ด้านกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บางกอก (BKKCP) ที่บริหารจัดการโดย บลจ. วรรณ สรุปผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ณ วันที่ 31 มีนาคม 2552 กองทุนมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 19,693 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านี้อยู่ที่ 18,857 ล้านบาท ส่วนกำไรสิทธิต่อหน่วยลงทุนอยู่ที่ 0.1969 บาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านี้ 0.1886 บาท
ขณะที่กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ลักซ์ชัวรี่ (LUXF) สรุปผลการดำเนินงาน 3 เดือนแรกตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 31 มีนาคม 2552 กองทุนมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 121,071 ล้านบาท และกำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 0.6161 บาท ส่วนผลการดำเนินงานตั้งแต่เริ่มจดทะเบียนจัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2551 ถึง วันที่ 31 มีนาคม 2552 มีผลกำไรสุทธิทั้งสิ้น 191,811 ล้านบาท และกำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 0.9761 บาท
นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด รายงานผลประกอบการและการจ่ายเงินปันผลของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ภายใต้การบริหารจำนวน4 กองทุน ซึ่งประกอบด้วย กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยอินดัสเตรียล 1 (TIF1) โดยผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2552 ซึ่งกองทุนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,315 ล้านบาท เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 85,326 ล้านบาท และกำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 0.0146 บาท เมื่อเทียบกับช่วงเปลี่ยนแปลงลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 98.46 โดยกองทุนมียอดกำไรสุทธิประจำงวดปี 2551 เป็นจำนวน 85.33 ล้านบาท ในขณะที่ประจำงวด 1 ปีในปีนี้ กองทุนมีกำไรสุทธิเพียง 1.32 ล้านบาท
ทั้งนี้ สาเหตุดังกล่าวมาจากในระหว่างปี 2551 และปี 2552 กองทุนมีการว่าจ้างผู้ประเมินราคาอิสระให้ทำการประเมินมูลค่าเงินลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โดยใช้วิธีพิจารณาจากรายได้ โดยในปี 2551 มีการปรับมูลค่าของเงินลงทุนเพิ่มขึ้นและรับรู้กำไรสุทธิที่ยังไม่เกิดขึ้นจากเงินลงทุนเป็นจำนวน 21.06 ล้านบาท ในขณะที่ในงวดปี 2552 มีการปรับมูลค่าเงินลงทุนลดลงและรับรู้ขาดทุนสุทธิที่ยังไม่เกิดขึ้นจากเงินลงทุนจำนวน 55.45 ล้านบาท จึงเป็นเหตุให้กำไรสุทธิของงวด 1 ปีสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2552 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะเดียวกันกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยอินดัสเตรียล 1 จะทำการจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 15 จากผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2552 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2552 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.150 บาท
นอกจากนี้ บลจ.ไอเอ็นจี ยังได้ประกาศจ่ายปันผลกองทุนอสังหาริมทรัพย์ในพอร์ตด้วย ซึ่งประกอบด้วย กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บ้านแสนสิริ (SIRIPF) จะจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 14 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.182 บาท และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ฟิวเจอร์พาร์ค (FUTUREPF) จ่ายเงินปันผลครั้งที่ 10 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.251 บาท โดยทั้ง 3 กองทุนบริษัทกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 12 มิถุนายน 2552 ทั้งนี้ กองทุนจะกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน เพื่อกำหนดสิทธิในการรับเงินปันผลครั้งที่ 15 นี้ในวันที่ 29 พฤษภาคม 2552
ด้านกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บางกอก (BKKCP) ที่บริหารจัดการโดย บลจ. วรรณ สรุปผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ณ วันที่ 31 มีนาคม 2552 กองทุนมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 19,693 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านี้อยู่ที่ 18,857 ล้านบาท ส่วนกำไรสิทธิต่อหน่วยลงทุนอยู่ที่ 0.1969 บาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านี้ 0.1886 บาท
ขณะที่กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ลักซ์ชัวรี่ (LUXF) สรุปผลการดำเนินงาน 3 เดือนแรกตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 31 มีนาคม 2552 กองทุนมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 121,071 ล้านบาท และกำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 0.6161 บาท ส่วนผลการดำเนินงานตั้งแต่เริ่มจดทะเบียนจัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2551 ถึง วันที่ 31 มีนาคม 2552 มีผลกำไรสุทธิทั้งสิ้น 191,811 ล้านบาท และกำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 0.9761 บาท