ASTVผู้จัดการรายวัน - บลจ.นครหลวงไทย จ่อตั้งกองทุนลุยหุ้นไทย เน้นซื้อหลักทรัพย์ขนาดใหญ่ ปัจจัยพื้นฐานดี หวังรออานิสงส์ต่างชาติกลับเข้าตลาด เผยกลยุทธ์ลงทุนช่วงแรก ล็อกอายุ 3 ปี พร้อมจ่ายปันผลระหว่างทาง ล่าสุด อยู่ระหว่างโรดโชว์โดยจับกลุ่มนักลงทุนสถาบันเป็นหลัก
นายธีรพันธุ์ จิตตาลาน กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) นครหลวงไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมจัดตั้งกองทุนเปิดที่เน้นลงทุนหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) มีมูลค่าโครงการประมาณ 3,000 – 4,000 ล้านบาท และจะลงทุนในระยะยาวประมาณ 3 ปีขึ้นไป แต่จะเน้นขายให้แก่นักลงทุนสถาบันทั่วๆ ไป ได้แก่ สถาบันการเงิน ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารออมสิน ตลท. และกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ซึ่งอยู่ในระหว่างการเดินสายให้ข้อมูลแก่นักลงทุน (โรดโชว์) คาดว่าจะสามารถจัดตั้งกองทุนดังกล่าวได้ประมาณเดือนมิถุนายน 2552
สำหรับกองทุนนี้จะเน้นลงทุนในหุ้นที่มีขนาดใหญ่ และมีปัจจัยพื้นฐานที่ดีเป็นหลัก โดยที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติได้เทขายหุ้นในประเทศไทยออกไป อย่างไรก็ตาม เชื่อว่านักลงทุนต่างชาติจะกลับเข้ามาลงทุนในหุ้นไทยอีกครั้งอย่างแน่นอน โดยในช่วงวิกฤติการณ์เศรษฐกิจครั้งที่ผ่านมามีประสบการณ์ในการบริหารงานกองทุนประเภทนี้ และสามารถให้ผลตอบแทนประมาณ 130 – 140%
โดยปัจจุบัน ดัชนีหุ้นไทยอยู่ที่ประมาณ 500 จุด หลังจากก่อนหน้านี้เคยปรับขึ้นไปอยู่ที่ 800 จุด โดยเชื่อว่าดัชนีจะปรับตัวขึ้นไปที่ 800 จุดได้อีกครั้งภายใน 3 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ กองทุนนี้ในช่วง 3 ปีแรกจะไม่ให้นักลงทุนสถาบันขายหน่วยลงทุนออกไป เพื่อต้องการลงทุนในระยะยาว และบริหารงานอย่างเต็มที่ ซึ่งจะมีการจ่ายเงินปันผลในช่วงเวลาดังกล่าว แต่ไม่ได้มีการรับประกันผลตอบแทนขั้นต่ำไว้ โดยจะขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานของกองทุนเป็นสำคัญ
นายธีรพันธุ์ กล่าวว่า จากการที่บริษัทเข้าไปร่วมงานมหกรรมการเงินครั้งที่ 9 : Money Expo’ 09 ในระหว่างวันที่ 7-10 พฤษภาคม ที่ผ่านมา บริษัทมีเม็ดเงินลงทุนเข้ามาในช่วง 4 วันรวมทั้งสิ้นประมาณ 270 ล้านบาท นับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยมีนักลงทุนรายย่อยเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้นประมาณ 400 – 500 ราย
ส่วนกองทุนที่นักลงทุนให้ความสนใจมาลงทุนเป็นพิเศษในงานดังกล่าว ได้แก่ กองทุนเปิดเอสซีไอ ตราสารหนี้ต่างประเทศ จีไอ 9M3/09 (SCI INGI9M3/09) อายุโครงการประมาณ 9 เดือน และกองทุนเปิดนครหลวงไทยตราสารหนี้ต่างประเทศ KO 2Y (SCI FIFKO 2Y) ที่มีอายุโครงการประมาณ 2 ปี ทั้งสองกองทุนจะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ข องประเทศเกาหลีใต้ที่ออกโดย The Export-Import Bank of Korea (KEXIM) และมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ในระหว่างการเปิดขายกองทุนตราสารหนี้เกาหลีใต้จำนวน 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดเอสซีไอ ตราสารหนี้ต่างประเทศ จีไอ 9M4/09 (SCI INGI9M4/09) มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท อายุโครงการประมาณ 9 เดือน และกองทุนเปิดนครหลวงไทยตราสารหนี้ต่างประเทศ KO 3Y (SCI FIFKO 3Y) มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท อายุโครงการประมาณ 3 ปี โดยได้เปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) และครั้งเดียวตั้งแต่วันนี้ – 19 พฤษภาคม 2552 และมีมูลค่าเม็ดเงินลงทุนขั้นต่ำ 2,000 บาท
สำหรับกองทุน SCI INGI9M4/09 จะเน้นลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่เสนอขายในต่างประเทศ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือจากการลงทุนดังกล่าว บริษัทจัดการอาจลงทุนในเงินฝาก หรือ ตราสารแห่งหนี้ในประเทศ รวมทั้งลงทุนในหลักทรัพย์ หรือทรัพย์สินอื่น หรือ การหาดอกผลโดยวิธีอื่นใดตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด หรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้
ส่วนกองทุน SCI FIFKO 3Y จะเน้นลงทุนในตราสารแห่งหนี้ภาครัฐของประเทศเกาหลีใต้ หรือตราสารที่มีรูปแบบทำนองเดียวกับตราสารภาครัฐไทยที่รัฐบาล องค์การหรือหน่วยงานของรัฐบาล รัฐวิสาหกิจตามกฎหมายต่างประเทศของประเทศเกาหลีใต้เป็นผู้ออกหรือผู้ค้ำประกัน และหรือตราสารหนี้ที่ออกโดยสถาบันการเงินของประเทศเกาหลีใต้ที่มีอัยนดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่ลงทุนได้ (investment grade) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน