บลจ.ไอเอ็นจี ยิ้มรับยอดขายหน่วยลงทุนกองทุน “ไอเอ็นจี ไทย ไอเอสเอฟ 12M1” ทะลุเป้า ส่งกองทุน “ไอเอ็นจี ไทย ไอเอสเอฟ 12M2” ขายต่อเนื่องทันที ชูผลตอบเเทนถึง 4.60%ต่อปี เปิดไอพีโอเเล้วตั้งเเต่วันนี้ถึง 30 เมษายน 2552 ด้าน บลจ.ไทยพาณิชย์ เริ่มเปิดขายกองบอนด์อิตาลี รุ่นที่ 5 ในวันนี้
นายจุมพล สายมาลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายธุรกิจกองทุนรวมและที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลังจาก บลจ.ไอเอ็นจี ได้เปิดขายหน่วยลงทุนกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไอเอสเอฟ 12M1 หรือ ING Thai ISF 12M1 Fund ซึ่งเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 16-23 เมษายนที่ผ่านมา ปรากฏว่า ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างเป็นจำนวนมาก ทำให้กองทุนดังกล่าวสามารถขายได้ครบจำนวนตามมูลค่าโครงการที่ 2,300 ล้านบาท ดังนั้น เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของนักลงทุนที่มีเข้ามาเป็นจำนวนมาก บลจ.ไอเอ็นจี จึงได้ดำเนินการเปิดตัวกองทุนใหม่ ได้แก่ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไอเอสเอฟ 12 M2 หรือ ING Thai ISF 12M2 Fund ต่อจากกองทุนที่เปิดขายไปก่อนหน้านี้
โดย บริษัทได้เปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งเเรก (IPO) ของกองทุนดังกล่าวเเล้วตั้งเเต่วันนี้จนถึง 30 เมษายน 2552 ซึ่งกำหนดการจองซื้อขั้นต่ำ 10,000 บาท และผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ได้ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด 02-688-7777 หรือ www.ingfunds.co.th
“หลังจากกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไอเอสเอฟ 12M1 ประสบความสำเร็จอย่างมาก ทำให้เราเชื่อว่า กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไอเอสเอฟ 12M2 จะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างมากเช่นเดียว เพราะขณะนี้นักลงทุนจำนวนไม่น้อยกำลังแสวงหาแหล่งลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการฝากเงินกับธนาคารพาณิชย์ ซึ่งแม้ว่าขณะนี้อัตราดอกเบี้ยจะอยู่ในระดับต่ำอยู่แล้ว แต่ยังมีโอกาสที่ดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์จะปรับลดลงเรื่อยๆ ขณะที่การลงทุนในตราสารหนี้สกุลเกาหลีใต้ยังคงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ” นายจุมพลกล่าว
ทั้งนี้ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไอเอสเอฟ 12 M2 เป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ที่ยังคงมีนโยบายลงทุนในตราสารแห่งหนี้ อายุประมาณ 12 เดือน ซึ่งกองทุนจะจัดสรรการลงทุนโดยเน้นการลงทุนในตั๋วแลกเงินที่ออกโดยสถาบันการเงินต่างประเทศ เงินฝากธนาคาร พันธบัตรรัฐบาลและที่มีรัฐบาลค้ำประกันสกุลเกาหลีใต้ โดยผู้ออกตราสารได้รับการจัดอันดับเครดิตจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ทั้งสแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ (เอสแอนด์พี) อยู่ในระดับ A ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน จึงทำให้ตราสารหนี้สกลุเกาหลีใต้ยังคงเป็นแหล่งลงทุนที่น่าสนใจและยังเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุน ขณะที่จุดเด่นของกองทุนนี้จะอยู่ที่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน 100% โดยอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนจะอยู่ที่ประมาณ 4.60% ต่อปีแล้ว และผู้ลงทุนที่เป็นบุคคลธรรมดา ยังไม่ต้องรับภาระภาษีอีกด้วย
นอกจากนี้ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไอเอสเอฟ 12M2 จะลงทุนใน เงินฝาก และ/หรือตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง(Structured Note) ที่ออก รับรอง รับอาวัล หรือค้ำประกันการจ่ายเงินโดยภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจภาคเอกชน และ/หรือ สถาบันการเงินในต่างประเทศ โดยตราสารดังกล่าวได้รับอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ได้ รับการยอมรับจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. อยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้(investment grade) โดยตราสารส่วนใหญ่ที่กองทุนลงทุนจะมีอายุคงเหลือประมาณ 1 ปีนับตั้งแต่วันที่ลงทุน
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่กองทุนคาดว่าจะไม่สามารถซื้อตราสารที่มีอายุคงเหลือดังกล่าวได้ครบตามจำนวนที่ต้องการ กองทุนจะเข้าลงทุนในตราสารที่มีอายุยาวกว่า 1 ปี โดยจะเข้าทำสัญญาขายตราสารดังกล่าวล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ลงทุนในตราสารดังกล่าว เพื่อให้อายุของสัญญาสอดคล้องกับวันรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ซึ่งกำหนดไว้ประมาณ 1 ปี
ขณะเดียวกัน รายงานจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดขายกองทุนเปิดไทยพาณิชย์พันธบัตรอิตาลี 6M5 (SCB ITALY BOND OPEN END FUND 6M5 : SCBIBF6M5) มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท อายุโครงการประมาณ 6 เดือน ซึ่งเป็นกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ ที่ลงทุนในต่างประเทศ ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ ที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน และจะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐของประเทศอิตาลี โดยได้เปิดขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) และครั้งเดียวตั้งแต่วันที่ 24 - 30 เมษายน 2552 และมีมูลค่าเม็ดเงินลงทุนขั้นต่ำที่ 10,000 บาท
นายจุมพล สายมาลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายธุรกิจกองทุนรวมและที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลังจาก บลจ.ไอเอ็นจี ได้เปิดขายหน่วยลงทุนกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไอเอสเอฟ 12M1 หรือ ING Thai ISF 12M1 Fund ซึ่งเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 16-23 เมษายนที่ผ่านมา ปรากฏว่า ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างเป็นจำนวนมาก ทำให้กองทุนดังกล่าวสามารถขายได้ครบจำนวนตามมูลค่าโครงการที่ 2,300 ล้านบาท ดังนั้น เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของนักลงทุนที่มีเข้ามาเป็นจำนวนมาก บลจ.ไอเอ็นจี จึงได้ดำเนินการเปิดตัวกองทุนใหม่ ได้แก่ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไอเอสเอฟ 12 M2 หรือ ING Thai ISF 12M2 Fund ต่อจากกองทุนที่เปิดขายไปก่อนหน้านี้
โดย บริษัทได้เปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งเเรก (IPO) ของกองทุนดังกล่าวเเล้วตั้งเเต่วันนี้จนถึง 30 เมษายน 2552 ซึ่งกำหนดการจองซื้อขั้นต่ำ 10,000 บาท และผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ได้ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด 02-688-7777 หรือ www.ingfunds.co.th
“หลังจากกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไอเอสเอฟ 12M1 ประสบความสำเร็จอย่างมาก ทำให้เราเชื่อว่า กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไอเอสเอฟ 12M2 จะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างมากเช่นเดียว เพราะขณะนี้นักลงทุนจำนวนไม่น้อยกำลังแสวงหาแหล่งลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการฝากเงินกับธนาคารพาณิชย์ ซึ่งแม้ว่าขณะนี้อัตราดอกเบี้ยจะอยู่ในระดับต่ำอยู่แล้ว แต่ยังมีโอกาสที่ดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์จะปรับลดลงเรื่อยๆ ขณะที่การลงทุนในตราสารหนี้สกุลเกาหลีใต้ยังคงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ” นายจุมพลกล่าว
ทั้งนี้ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไอเอสเอฟ 12 M2 เป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ที่ยังคงมีนโยบายลงทุนในตราสารแห่งหนี้ อายุประมาณ 12 เดือน ซึ่งกองทุนจะจัดสรรการลงทุนโดยเน้นการลงทุนในตั๋วแลกเงินที่ออกโดยสถาบันการเงินต่างประเทศ เงินฝากธนาคาร พันธบัตรรัฐบาลและที่มีรัฐบาลค้ำประกันสกุลเกาหลีใต้ โดยผู้ออกตราสารได้รับการจัดอันดับเครดิตจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ทั้งสแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ (เอสแอนด์พี) อยู่ในระดับ A ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน จึงทำให้ตราสารหนี้สกลุเกาหลีใต้ยังคงเป็นแหล่งลงทุนที่น่าสนใจและยังเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุน ขณะที่จุดเด่นของกองทุนนี้จะอยู่ที่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน 100% โดยอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนจะอยู่ที่ประมาณ 4.60% ต่อปีแล้ว และผู้ลงทุนที่เป็นบุคคลธรรมดา ยังไม่ต้องรับภาระภาษีอีกด้วย
นอกจากนี้ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไอเอสเอฟ 12M2 จะลงทุนใน เงินฝาก และ/หรือตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง(Structured Note) ที่ออก รับรอง รับอาวัล หรือค้ำประกันการจ่ายเงินโดยภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจภาคเอกชน และ/หรือ สถาบันการเงินในต่างประเทศ โดยตราสารดังกล่าวได้รับอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ได้ รับการยอมรับจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. อยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้(investment grade) โดยตราสารส่วนใหญ่ที่กองทุนลงทุนจะมีอายุคงเหลือประมาณ 1 ปีนับตั้งแต่วันที่ลงทุน
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่กองทุนคาดว่าจะไม่สามารถซื้อตราสารที่มีอายุคงเหลือดังกล่าวได้ครบตามจำนวนที่ต้องการ กองทุนจะเข้าลงทุนในตราสารที่มีอายุยาวกว่า 1 ปี โดยจะเข้าทำสัญญาขายตราสารดังกล่าวล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ลงทุนในตราสารดังกล่าว เพื่อให้อายุของสัญญาสอดคล้องกับวันรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ซึ่งกำหนดไว้ประมาณ 1 ปี
ขณะเดียวกัน รายงานจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดขายกองทุนเปิดไทยพาณิชย์พันธบัตรอิตาลี 6M5 (SCB ITALY BOND OPEN END FUND 6M5 : SCBIBF6M5) มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท อายุโครงการประมาณ 6 เดือน ซึ่งเป็นกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ ที่ลงทุนในต่างประเทศ ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ ที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน และจะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐของประเทศอิตาลี โดยได้เปิดขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) และครั้งเดียวตั้งแต่วันที่ 24 - 30 เมษายน 2552 และมีมูลค่าเม็ดเงินลงทุนขั้นต่ำที่ 10,000 บาท
