บอนด์ "เกาหลี-อิตาลี" ขายดีต่อเนื่อง บลจ.พร้อมใจส่งกองทุนโกยเงินเข้าพอร์ต ชูผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝาก-บอนด์ไทย "ทหารไทย" คลอดกองทุนเปิดทหารไทยเกาหลีใต้ รุ่นที่ 4 ลงทุนยาว 1 ปี ให้ผลตอบแทน 4.6% ต่อปี มั่นใจ ฐานะเกาหลีใต้ยังแกร่ง ด้าน "วรรณ" สานต่อกองที่ 2 ให้ผลตอบแทน 4.40% ต่อปี ขณะที่ "ไทยพาณิชย์" เดินหน้าออกกองบอนด์แดนมะกะโรนีกองที่ 4 ลงทุนสั้นๆ 6 เดือน
นายไพศาล ครุฑดำรงชัย รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 20-28 เมษายนนี้ บริษัทเตรียมที่จะเปิดขายกองทุนที่เข้าไปลงทุนในตราสารหนี้เกาหลีใต้ จำนวน 1 กองทุนคือ กองทุนเปิดทหารไทยเกาหลีใต้ รุ่นที่ 4 (TMB South Korean Series 4 ) อายุโครงการ 1 ปี โดยมีมูลค่ากองทุน 1,500 ล้านบาท สามารถจองซื้อขั้นต่ำ 2,000 บาท
โดยนโยบายในการลงทุนของกองทุนดังกล่าว จะเหมือนกับกองทุนเกาหลีใต้ที่เปิดขายไปแล้วก่อนหน้านี้จำนวน 5 กอง โดยจะลงทุนในพันธบัตรของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าของเกาหลีใต้เท่านั้น โดยพันธบัตรดังกล่าวจะมีอายุคงเหลือประมาณ 1 ปี ซึ่งจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 4.6 ต่อปี โดยมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน
ทั้งนี้ กองทุนเปิดทหารไทยเกาหลีใต้เป็นกองที่ได้รับการตอบรับดีมากในขณะนี้ โดยนักลงทุนยังคงมีความต้องการและสอบถามเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯได้ออกกองทุนเพื่อลงทุนในพันธบัตรธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าเกาหลีใต้ไปแล้ว 5 กองทุน สามารถระดมเงินได้กว่า 9,000 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจนักลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกซึ่งนอกจากจะให้อัตราผลตอบแทนอยู่ในระดับที่สูงแล้ว ยังมีความมั่นคงโดยธนาคารเพื่อการนำเข้าและส่งออกประเทศเกาหลีใต้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากฟิทซ์ เรตติ้งอยู่ที่ระดับ A+ เทียบเท่าเครดิตรัฐบาลเกาหลีใต้
นายไพศาลกล่าวว่า ในช่วงเดือนธันวาคม 2551 ถึงเดือนมกราคม 2552 ธนาคารเพื่อการนำเข้าและส่งออกประเทศเกาหลีใต้ได้รับการเพิ่มทุนจากรัฐบาลเกาหลีใต้เป็นเงิน 950,000 ล้านวอน เพื่อสนับสนุนการปล่อยสินเชื่อตลอดจนเป็นการเพิ่มฐานเงินทุนของธนาคารให้แข็งแกร่งขึ้น นอกจากนี้ ธนาคารยังมีนโยบายการดำเนินธุรกิจแบบยั่งยืนโดยเน้นการตั้งสำรองที่สูง โดยรัฐบาลยังได้เพิ่ม Tier 1 ทั้งในรูปของเงินสดและเงินลงทุนเพื่อให้มีความสามารถในการปล่อยสินเชื่อได้อย่างต่อเนื่อง จึงมีสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง มี Capital Ratio ที่ 10 เท่า และมี Tier 1 ที่ 8.29 เท่า ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2551
นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด กล่าวว่า บลจ.วรรณอยู่นะหว่างการเสนอขายกองทุนเปิด วรรณตราสารหนี้ต่างประเทศ 1Y/2 โดยกองทุนดังกล่าวจะเน้นลงทุนใน Export-Import Bank of Korea ซึ่งตราสารที่ลงทุนจะมีอายุประมาณ 12 เดือน ซึ่งจะเปิดเสนอขายช่วงไอพีโอไปจนถึงวันที่ 24 เมษายน 2552 นี้
สำหรับกองทุนเปิด วรรณ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1Y/2 เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่เสนอขายในต่างประเทศ ที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) โดยจะเปิดเสนอขายครั้งแรกที่หน่วยลงทุนละ 10 บาท ซึ่งนักลงทุนสามารถลงทุนขั้นต่ำเพียง 10,000 บาท และจะเปิดขายครั้งต่อไปทุกรอบระยะเวลา 10-13 เดือน ถัดจากวันทำการซื้อขายหน่วยลงทุนครั้งล่าสุด
นายสมจินต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นักลงทุนที่ลงทุนในกองทุนเปิด วรรณตราสารหนี้ต่างประเทศ 1Y/2 นั้น จะเป็นกลุ่มผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในประเทศ ซึ่งดังกล่าว จะเน้นลงทุนในพันธบัตรเกาหลีซึ่งมีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่สูงและให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในประเทศ โดยผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับจากการลงทุนประมาณ 4.40% ต่อปี
ด้านนางสาวพรอุมา เทวาหุดี ผู้จัดการกองทุน บลจ.วรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากที่ผ่านมา แม้เกาหลีจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินโลก แต่เมื่อมองถึงความเเข็งแกร่งของประเทศ รวมไปถึงสภาพคล่องทางการเงินในประเทศ เงินสำรองภายในประเทศ อีกทั้ง แนวโน้มในการแก้ปัญหาวิกฤตและมาตราการต่างๆ ที่ออกมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น จะช่วยให้เศรษฐกิจมีการฟื้นตัวได้ ทั้งนี้ การที่เกาหลีได้มีนโยบายการเงินโดยการตรึงอัตราดอกเบี้ยเชิงนโยบายมาแล้วถึง 2 ครั้ง ซึ่งเป็นการยืนยันถึงความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของเกาหลีได้
"เวลานี้ จากการตรึงอัตราดอกเบี้ยของรัฐบาลเกาหลี ทำให้ความเสี่ยงน้อยลง อีกทั้งผลตอบแทนที่จะได้รับนั้นสูงกว่าการลงทุนในประเทศ ขณะเดียวกัน การจัดอันดับความน่าเชื่อถือของเกาหลีใต้ก็ดีกว่าประเทศไทย เงินสำรองของประเทศเกาหลีก็มีสูงด้วย"นางสาวพรอุมา กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการจัดตั้งกองทุนเพื่อไปลงทุนยังประเทศอื่นๆนั้น ขณะนี้ยังไม่มีแผน เนื่องจากว่า บลจ.มีฐานลูกค้าที่ไม่กว้างมากนัก เหมือนกับ บลจ.ที่มีแม่เป็นธนาคารพาณิชย์ ซึ่งช่วยสนันสนุนในการขายหน่วยลงทุนให้แก่นักลงทุนจึงทำให้บลจ.เหล่านี้มีฐานลูกค้าที่กว้างกว่าบลจ.วรรณ ดังนั้นการออกโปนดักใหม่ๆเพื่อไปลงทุนยังประเทศต่างๆนั้นจึงสามารถทำได้มากกว่า
แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับการออกโปรดักส์ของบลจ.วรรณนั้นจะเน้นความต้องการของนักลงทุนเป็นหลัก โดยก่อนที่จะออกโปรดักส์ต่างๆนั้น บลจ.จะทำการสำรวจและเก็บข้อมูลจากนักลงทุนถึงความต้องการอยากลงทุนในสินทรัพย์หรือต้องการโปรดักส์ประเภทไหนเป็นหลัก
ด้านรายงานจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดขายกองทุนเปิดไทยพาณิชย์พันธบัตรอิตาลี 6M4 (SCB ITALY BOND OPEN END FUND 6M4 : SCBIBF6M4) มูลค่าโครงการ 1,700 ล้านบาท อายุโครงการประมาณ 6 เดือน โดยจะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐของประเทศอิตาลี โดยได้เปิดขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) และครั้งเดียวตั้งแต่วันที่ 17 – 23 เมษายน 2552 และมีมูลค่าเม็ดเงินลงทุนขั้นต่ำที่ 10,000 บาท
สำหรับกองทุน SCBIBF6M4 มีนโยบายเน้นลงทุนในพันธบัตรหรือตราสารภาครัฐของประเทศอิตาลี โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือบริษัทจัดการอาจพิจารณาลงทุนในเงินฝาก หรือตราสารแห่งหนี้ในประเทศ ตราสารแห่งหนี้ภาคเอกชนหรือตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์หรือบริษัทเอกชนชั้นดี หรือทรัพย์สินอื่น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสำรองเงินไว้สำหรับการดำเนินงาน รอการลงทุน หรือรักษาสภาพคล่อง การลงทุนในตราสารหนี้ดังกล่าวข้างต้นอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด ตลอดจนหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง ตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนดหรือให้ความเห็นชอบ
ทั้งนี้ กองทุนจะ เข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยง (Hedging) จากอัตราแลกเปลี่ยน (Foreign Exchange Rate Risk) เช่น การทำสัญญาสวอปและ/หรือสัญญาฟอร์เวิร์ดที่อ้างอิงกับอัตราแลกเปลี่ยน เป็นต้น โดยกองทุนจะไม่ลงทุนในตราสารหนี้ที่มีลักษณะสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) รวมถึงตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าที่สามารถลงทุนได้ (non – investment grade) และตราสารหนี้ที่ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Unrated Securities)