ASTVผู้จัดการรายวัน-บลจ.พรีมาเวสท์ คาดอัตราดอกเบี้ยเกาหลีแตะ 1% ภายในปี 2552 หลังการอัดฉีดเงินของภาครัฐยังกระตุ้นเศรษฐกิจได้ไม่เพียงพอ ระบุนักลงทุนส่วนใหญ่ยังผวาเรื่องค่าเงิน ส่งผลให้เงินวอนอ่อนค่าสุดในรอบ 11 ปี แต่เชื่อทั้งปีจะนิ่งอยู่ที่ระดับ 1,350-1,450 วอน/ดอลลาร์สหรัฐ ขณะเดียวกันมั่นใจเศรษฐกิจเอเชียยังดี ศักยภาพทางการคลังสูงและน่าจะฟื้นตัวก่อนภูมิภาคอื่นได้
รายงานจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) พรีมาเวสท์ เปิดเผยบทวิเคราะห์ของเศรษฐกิจประเทศเกาหลีว่า หลังจากที่ธนาคารกลางเกาหลีใต้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอยู่ที่ระดับ 2% ในเดือนกุมภาพันธ์ 2552 และยังคงที่ระดับเดิมในการประชุมเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แม้ตลาดคาดการณ์ว่าน่าจะปรับลดลงอีก 0.25% นั้น
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าธนาคารเกาหลีใต้จะปรับลดดอกเบี้ยลงไปอยู่ในที่ระดับ 1% ในปี 2552 แม้การที่ภาครัฐได้ใช้เงินจำนวน 51 ล้านล้านวอนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 85.0 ในเดือนกุมภาพันธ์ จากระดับ 84.0 ในเดือนธันวาคมปี 2551 แต่อย่างไรก็ตามตัวเลขทางเศรษฐกิจอื่นๆ ยังคงสะท้อนความอ่อนแอของเศรษฐกิจ
โดยยอดส่งออกเดือน ก.พ. ลดลง 17.1% ยอดนำเข้าลดลง 30.9% แม้จะเริ่มฟื้นขึ้นจากเดือนก่อนบ้างก็ตาม แต่รวมแล้วดุลการค้าในเดือนกุมภาพันธ์ ปรับตัวขึ้นมาเกินดุล 3,295 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับดัชนีผลผลติอุตสาหกรรมในเดือนมกราคม ปรับตัวลดลง 25.6% ขณะที่เงินทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศปรับลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน โดย ณ สิ้นเดือน กุมภาพันธ์ มีทุนสำรองอยู่ที่ 201.54 พันล้านเหรียญสหรัฐ จาก 201.74 ล้านเหรียญสหรัฐ ในเดือนก่อน จากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และการอ่อนค่าของเงินเยนและยูโร
รายงานฉบับนี้ยังเปิดเผยอีกว่า ค่าเงินวอนในช่วงที่ผ่านมายังคงอ่อนค่าต่อเนื่อง โดยได้ผ่านจุดอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 11 ปี แล้ว ก่อนที่จะกลับแข็งค่าขึ้นมาบ้างเล็กน้อยจากการแทรกแซงตลาดของธนาคารกลาง ด้วยการเทขายดอลลาร์เพื่อพยุงค่าเงินวอน
ทั้งนี้ สาเหตุหลักของการอ่อนค่าลงของเงินวอนมาจากเศรษฐกิจที่อ่อนแอและจากความวิกตว่าธนาคาหลายแห่งของเกาหลีใต้อาจประสบปัญหาการระดมทุนหรือการหาแหล่งเงินทุนเพื่อจ่ายคืนหนี้ต่างประเทศที่จะครบกำหนดชำระ รวมถึงความกังวลต่อปัญหาการไหลออกอของเงินทุน
นอกจากนี้นักลงทุนยังวิตกเกี่ยงกับการขาดแคลนดอลลาร์สหรัฐ ในเกาหลีใต้แม้ว่า นายคิม อิคจู ผู้อำนวยการสำนักงานการเงินระหว่างประเทศ กระทรวงการคลัง จะออกมากล่าวว่าเกาหลีใต้จะดำเนินการอย่างเต็มที่ในการสร้างเสถียรภาพแต่ตลาดสกุลเงินภายในประเทศ นักวิเคราะห์ UBS คาดว่าค่าเงินวอนต่อดอลลาร์หสรัฐ จะอ่อนตัวต่อเนื่อง แต่น่าจะนิ่งที่ระดับ 1,350-1,450 วอน/ดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2552 นี้
อย่างไรก็ตาม บลจ. พรีมาเวสท์ เปิดเผยอีกว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าเศรษฐกิจของทวีปเอเชีย(ไม่รวมญี่ปุ่น) อาจฟื้นตัวของได้ในปีหน้า โดยบางประเทศอาจฟื้นตัวได้เร็วในปลายปีนี้ เนื่องจากเอเชียได้เปรียบภูมิภาคอื่นอยู่สองประเด็นคือ เอเชียในฐานะที่เป็นผู้นำเข้าวัตถุดิบรายใหญ่ ได้ประโยชน์จากราคาโภคภัณฑ์ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง และเอเชียซึ่งยกเว้นประเทศอินเดียขณะนี้มีสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ จีดีพี ต่ำว่าและมีฐานะทางการคลังที่ดี จึงสามารถใช้นโยบายการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากกว่า
นอกจากนี้ รัฐบาลเกาหลีใต้ยัง เตรียมตั้งกองทุนซื้อหนี่้เสียเป็นเงิน 40 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 2.68 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งหนี้เสียที่เป็นตราหนี้ภาคเอกชนและหลักทรัพย์ที่สถาบันการเงินเข้าไปลงทุน โดยให้ Korea Asset Management Corp หรือ Kamco ซึ่งเป็นบริษํทผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารหนี้เสียของรัฐบาลเป็นผู้ดูแลกองทุนนี้ไปจนถึงปี 2557 อีกด้วย
รายงานจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) พรีมาเวสท์ เปิดเผยบทวิเคราะห์ของเศรษฐกิจประเทศเกาหลีว่า หลังจากที่ธนาคารกลางเกาหลีใต้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอยู่ที่ระดับ 2% ในเดือนกุมภาพันธ์ 2552 และยังคงที่ระดับเดิมในการประชุมเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แม้ตลาดคาดการณ์ว่าน่าจะปรับลดลงอีก 0.25% นั้น
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าธนาคารเกาหลีใต้จะปรับลดดอกเบี้ยลงไปอยู่ในที่ระดับ 1% ในปี 2552 แม้การที่ภาครัฐได้ใช้เงินจำนวน 51 ล้านล้านวอนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 85.0 ในเดือนกุมภาพันธ์ จากระดับ 84.0 ในเดือนธันวาคมปี 2551 แต่อย่างไรก็ตามตัวเลขทางเศรษฐกิจอื่นๆ ยังคงสะท้อนความอ่อนแอของเศรษฐกิจ
โดยยอดส่งออกเดือน ก.พ. ลดลง 17.1% ยอดนำเข้าลดลง 30.9% แม้จะเริ่มฟื้นขึ้นจากเดือนก่อนบ้างก็ตาม แต่รวมแล้วดุลการค้าในเดือนกุมภาพันธ์ ปรับตัวขึ้นมาเกินดุล 3,295 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับดัชนีผลผลติอุตสาหกรรมในเดือนมกราคม ปรับตัวลดลง 25.6% ขณะที่เงินทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศปรับลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน โดย ณ สิ้นเดือน กุมภาพันธ์ มีทุนสำรองอยู่ที่ 201.54 พันล้านเหรียญสหรัฐ จาก 201.74 ล้านเหรียญสหรัฐ ในเดือนก่อน จากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และการอ่อนค่าของเงินเยนและยูโร
รายงานฉบับนี้ยังเปิดเผยอีกว่า ค่าเงินวอนในช่วงที่ผ่านมายังคงอ่อนค่าต่อเนื่อง โดยได้ผ่านจุดอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 11 ปี แล้ว ก่อนที่จะกลับแข็งค่าขึ้นมาบ้างเล็กน้อยจากการแทรกแซงตลาดของธนาคารกลาง ด้วยการเทขายดอลลาร์เพื่อพยุงค่าเงินวอน
ทั้งนี้ สาเหตุหลักของการอ่อนค่าลงของเงินวอนมาจากเศรษฐกิจที่อ่อนแอและจากความวิกตว่าธนาคาหลายแห่งของเกาหลีใต้อาจประสบปัญหาการระดมทุนหรือการหาแหล่งเงินทุนเพื่อจ่ายคืนหนี้ต่างประเทศที่จะครบกำหนดชำระ รวมถึงความกังวลต่อปัญหาการไหลออกอของเงินทุน
นอกจากนี้นักลงทุนยังวิตกเกี่ยงกับการขาดแคลนดอลลาร์สหรัฐ ในเกาหลีใต้แม้ว่า นายคิม อิคจู ผู้อำนวยการสำนักงานการเงินระหว่างประเทศ กระทรวงการคลัง จะออกมากล่าวว่าเกาหลีใต้จะดำเนินการอย่างเต็มที่ในการสร้างเสถียรภาพแต่ตลาดสกุลเงินภายในประเทศ นักวิเคราะห์ UBS คาดว่าค่าเงินวอนต่อดอลลาร์หสรัฐ จะอ่อนตัวต่อเนื่อง แต่น่าจะนิ่งที่ระดับ 1,350-1,450 วอน/ดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2552 นี้
อย่างไรก็ตาม บลจ. พรีมาเวสท์ เปิดเผยอีกว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าเศรษฐกิจของทวีปเอเชีย(ไม่รวมญี่ปุ่น) อาจฟื้นตัวของได้ในปีหน้า โดยบางประเทศอาจฟื้นตัวได้เร็วในปลายปีนี้ เนื่องจากเอเชียได้เปรียบภูมิภาคอื่นอยู่สองประเด็นคือ เอเชียในฐานะที่เป็นผู้นำเข้าวัตถุดิบรายใหญ่ ได้ประโยชน์จากราคาโภคภัณฑ์ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง และเอเชียซึ่งยกเว้นประเทศอินเดียขณะนี้มีสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ จีดีพี ต่ำว่าและมีฐานะทางการคลังที่ดี จึงสามารถใช้นโยบายการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากกว่า
นอกจากนี้ รัฐบาลเกาหลีใต้ยัง เตรียมตั้งกองทุนซื้อหนี่้เสียเป็นเงิน 40 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 2.68 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งหนี้เสียที่เป็นตราหนี้ภาคเอกชนและหลักทรัพย์ที่สถาบันการเงินเข้าไปลงทุน โดยให้ Korea Asset Management Corp หรือ Kamco ซึ่งเป็นบริษํทผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารหนี้เสียของรัฐบาลเป็นผู้ดูแลกองทุนนี้ไปจนถึงปี 2557 อีกด้วย
