สมาคม บลจ. แถลงผลงานปี 51 เป็นไปตามยุทธศาสตร์ 6 ข้อ ชูผลงานเด่น ผลักดันให้มีการบรรจุแผนการส่งเสริมการออมแบบผูกพันเพื่อความมั่นคงของชีวิตและความมั่งคั่งของประเทศ ผ่านคณะกรรมการพัฒนาตลาดทุน นายกสมาคมย้ำ พร้อมสานต่อนโยบาน หวังยกอุตสาหกรรมกองทุนให้ก้าวหน้า และรักษาผลประโยชน์ของผู้ลงทุน
นางวรวรรณ ธาราภูมิ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (สมาคมบลจ.) เปิดเผยว่า ผลงานของสมาคม บลจ. ประจำปี 2551 ที่ผ่านมา ถือว่าได้เป็นไปตามนโยบายที่เคยประกาศไว้ 6 ด้านด้วยกัน ซึ่งประกอบด้วย 1 ด้าน Industry Development ได้แก่ การเน้นการพัฒนาเพื่อการเจริญเติบโตที่ยั่งยืนของอุตสาหกรรมในทั้ง 3 กลุ่ม โดยมุ่งผลักดันและส่งเสริมพัฒนาเกี่ยวกับการออมแบบผูกพันเพื่อความมั่นคงของชีวิตและความมั่งคั่งของประเทศ ในรูปแบบของผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิเช่น กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF), กองทุนรวมเพื่อการศึกษา (EMF), Decentralized Mandatory Provident Fund พร้อมทั้งให้ความรู้ผู้ลงทุนเกี่ยวกับ Asset Allocation, Wealth Management และโดยเฉพาะ Tax Management ซึ่งเป็นเรื่องที่มีนักลงทุนจำนวนมากขาดความรู้ อีกทั้ง สมาคมต้องการส่งเสริมพัฒนาการใหม่ๆ ที่มีประโยชน์และเหมาะสมกับประเทศ
สำหรับด้านที่ 2 คือด้าน Positioning ได้แก่ การมีจุดยืนในการให้ความร่วมมือกับหน่วยงานราชการ สมาคม และองค์กรอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเพื่อให้สมาคมเป็นที่รู้จักและยอมรับกันอย่างแพร่หลาย ในบทบาทหน้าที่ และความสำคัญในการเป็นองค์กรหนึ่งที่มีผลต่อการพัฒนาตลาดทุน และพฤติกรรมการออม การลงทุน ของภาคประชาชน 3. ด้าน Rules and Regulations ได้แก่ การให้ความร่วมมือกับ ก.ล.ต. เพื่อแก้ไข ปรับปรุง หรือเพิ่มเติมกฎเกณฑ์ให้เหมาะสมและมีความเหมาะสมกับพัฒนาการของประเทศไทย โดยมีความสมดุลระหว่างการเติบโตของอุตสาหกรรม ผลประโยชน์ที่ยั่งยืนของผู้ลงทุน และ การกำกับธุรกิจ
4. ด้าน Industry Good Governance and CSR ได้แก่ การส่งเสริมให้อุตสาหกรรมจัดการกองทุนเป็นอุตสาหกรรมที่เป็นแบบอย่างที่ดีในเรื่องของ Good Governance และ Corporate Social Responsibility ตามกำลังและความเหมาะสม 5. ด้าน Communications ได้แก่การให้ความสำคัญกับการเผยแพร่ นโยบาย เป้าหมาย ของสมาคม รวมไปถึงกิจกรรม และความสำเร็จต่างๆ ของ สมาคม และสมาชิก โดยสม่ำเสมอ พร้อมทั้ง ส่งเสริมกิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างสัมพันธภาพที่ดีของสมาชิก และ 6. ด้าน Education ได้แก่ การพัฒนาความรู้ของสมาชิกสมาคมเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาษี และการให้คำแนะนำผู้ลงทุนในการบริหารสินทรัพย์ทางการเงิน รวมถึงความรู้ด้านอื่นๆ ที่จะยกระดับพนักงานของสมาชิกไปสู่สากล
นางวรวรรณ กล่าวว่า ในปี 2551 ที่ผ่านมาสมาคม บลจ. มีผลงานที่เด่นชัดตามนโยบายที่แถลงไว้ในทุกๆ ด้าน อาทิ การเข้าร่วมเป็นกรรมการในคณะกรรมการพัฒนาตลาดทุนแห่งชาติ ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธาน พร้อมทั้งผลักดันให้มีการบรรจุแผนการส่งเสริมการออมแบบผูกพันเพื่อความมั่นคงของชีวิตและความมั่งคั่งของประเทศ (RMF, EMF, Decentralized Mandatory Provident Fund) และการขยายฐานผู้ออมไว้ในร่างแผนพัฒนาตลาดทุนแห่งชาติ จัดทำข้อเสนอด้านต่างๆ นำเสนอต่อ กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ธนาคารแห่งประเทศไทย สภาวิชาชีพบัญชี กรมสรรพากร ฯลฯ ในการแก้ไขข้อจำกัดในการประกอบธุรกิจ และปรับปรุงกฎ ระเบียบต่างๆที่เกี่ยวข้องให้มีความยืดหยุ่น สอดคล้องกับสถานการณ์ ส่งเสริมการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรม และการดูแลรักษาสิทธิประโยชน์ของผู้ลงทุน ทั้งในกลุ่มธุรกิจกองทุนรวม กองทุนส่วนบุคคล และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
นอกจากนี้ ในปี 2551 ที่ผ่านมา สมาคมได้จัดสัมมนาวิชาการประจำปี 2551 ของสมาคมบริษัทจัดการลงทุนเป็นครั้งแรก พร้อมทั้งได้ปรับปรุงเว็บไซต์ภาษาไทยและจัดให้มีเว็บไซต์ภาษาอังกฤษเพื่อให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลที่เพียงพอประกอบการตัดสินใจและติดตามผลการจัดลงทุน จัดให้มีข้อมูลผลการดำเนินงานของกองทุนรวม (Fund Performance) เผยแพร่บนเว็บไซต์ของสมาคม www.aimc.or.th จัดทำข่าวเผยแพร่กิจกรรมของสมาคม ความเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรมจัดการลงทุน ความคืบหน้าเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการจัดทำบทความเผยแพร่ความรู้แก่ผู้ลงทุนในหนังสือพิมพ์ 3 ฉบับ เป็นประจำทุกสัปดาห์ จัดการสัมมนาเผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุน และแนะนำโอกาสการลงทุนแก่ผู้ลงทุนผ่านทางกองทุนรวม กองทุนส่วนบุคคล และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพตลอดทั้งปี
นางวรวรรณกล่าวต่อว่า สำหรับแผนงานในปี 2552 นี้ คณะกรรมการสมาคมยังคงนโยบายการบริหารงานสมาคมทั้ง 6 ด้านข้างต้น โดยมีแผนงานที่ชัดเจนรองรับนโยบายในแต่ละด้าน เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง และเกิดผลที่เป็นรูปธรรม ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมควบคู่ไปกับการดูแลรักษาผลประโยชน์ของผู้ลงทุน