กองทุนมันนี่มาร์เกตรับดีมานด์นักลงทุน พบเงินลงทุนภายใต้พอร์ต"เอวายเอฟ" เพิ่มขึ้นทั้ง 2 กอง รวมมูลค่ากว่า 7 พันล้านบาท โดย "อยุธยาตราสารเงินพลัส" รับเงินไหลเข้ากว่า 5 พันล้านบาท ส่วนผลตอบแทน ยังพบสูงกว่าเงินฝาก
ผู้สื่อข่าวรายงานข่าว ในช่วงที่ผ่านมา การลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ ได้รับความสนใจจากนักลงทุนค่อนข้างมาก โดยเฉพาะกองทุนรวมตลาดเงิน (มันนี่มาร์เกต)ที่มีความมั่นคงและสภาพคล่องสูง และมีลักษณะคล้ายกับเงินฝากมากที่สุด เนื่องจากก่อนหน้านี้ การลงทุนทั้งในหุ้นเอง หรือการลงทุนต่างประเทศ ค่อนข้างผันผวนอย่างรุนแรง ประกอบกับกองทุนดังกล่าว ให้ผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝากพอสมควร จึงทำให้นักลงทุนส่วนหนึ่ง โยกเงินมาพักไว้ในกองทุนประเภทนี้มากขึ้น ถึงแม้ผลตอบแทนจะลดลง ตามการปรับลดดอกเบี้ยบ้างก็ตาม ซึ่งกองทุนมันนี่มาร์เก็ตภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อยุธยา จำกัด (เอวายเอฟ)ก็เติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
โดยกองทุนเปิดอยุธยาตราสารเงิน ซึ่งเป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารเงินและตราสารหนี้ พบว่า สินทรัพย์เพิ่มขึ้นจากช่วงปลายปี 2551 อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด ณ วันที่ 19 มีนาคม 2552 ที่ผ่านมา กองทุนมีสินทรัพย์อยู่ที่ 7,284.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากต้นปีที่มีสินทรัพย์รวม 5,492.47 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้นประมาณ 1,700 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากการเปิดพอร์ตล่าสุด (ณ วันที่ 27 ก.พ. 2552)หลักทรัพย์กองทุนเข้าไปที่ลงทุน จะเป็นตราสรหนี้ภาครัฐเป็นหลัก ซึ่งประกอบด้วย ตราสารภาครัฐหรือองค์กรระหว่างประเทศ 69.85% พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย 28.78% เงินฝาก หรือตราสารหนี้ที่สถาบันการเงินเป็นผู้ออก 0.03% และทรัพย์สินอื่น 2.46%
สำหรับกองทุนเปิดอยุธยาตราสารเงิน เป็นกองทุนที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตจาก บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ในระดับ 'AAA(tha)/V1(tha)'ซึ่งล่าสุด ฟิทช์ เรทติ้งส์ ยังคงอันดับเคาดิตไว้ที่ระดับ 'AAA(tha)/V1(tha)'เช่นเดิม ซึ่งแสดงว่า กองทุนเปิดอยุธยาตราสารเงิน สามารถรักษาระดับคุณภาพของกองทุนตามที่กำหนดไว้ในนโยบายการลงทุน คุณภาพเครดิตของกองทุนอยู่ในระดับสูงจากการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอันดับเครดิต 'AAA(tha)'เป็นส่วนใหญ่ ความผันผวนของผลตอบแทนของกองทุนเนื่องจากปัจจัยตลาดอยู่ในระดับต่ำเนื่องจากสินทรัพย์ส่วนใหญ่มีอายุสั้น มีสภาพคล่องสูง และอายุถัวเฉลี่ยของกองทุนอยู่ในระดับต่ำกว่า 40 วัน
ทั้งนี้ กองทุนที่มีอันดับเครดิต 'AAA(tha)'แสดงถึงบคุณภาพเครดิตโดยเฉลี่ยของตราสารที่กองทุนลงทุนที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับกองทุนตราสารหนี้อื่นๆ ในประเทศในด้านต่างๆ ทั้งในแง่ของทรัพย์สินกองทุน การกระจายความเสี่ยง การจัดการลงทุนและความสามารถของบริษัทจัดการ และกองทุนที่ได้รับการจัดอันดับความผันผวนที่ระดับ ที่มีอันดับเครดิต 'V1(tha)'มีความเสี่ยงจากปัจจัยตลาดต่ำเมื่อเทียบกับกองทุนตราสารหนี้อื่นในประเทศ และมีผลตอบแทนโดยรวมค่อนข้างคงที่จากการลงทุนตั้งแต่ระยะสั้นถึงระยะยาว
ส่วนกองทุนเปิดอยุธยาตราสารเงินพลัส ซึ่งเป็นกองทุนมันนี่มาร์เกตอีก 1 กองทุน ก็พบว่า มีเงินลงทุนเข้ามาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยในช่วงเวลาเดียวกัน กองทุนมีเงินลงทุนเพิ่มขึ้นเป็น 8,562.66 ล้านบาท จากสินทรัพย์รวม 3,186.42ล้านบาทในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งคิดเป็นจำนวนเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้นถึง 5,376.24 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม กองทุนเปิดอยุธยาตราสารเงินพลัส มีนโยบายลงทุนที่ใกล้เคียงกับ กองทุนเปิดอยุธยาตราสารเงิน
สำหรับผลการดำเนินงานของทั้ง 2 กองทุนนั้น พบว่า ณ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2552 กองทุนเปิดอยุธยาตราสารเงิน ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 1.69% ในขณะที่ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 2.68% ส่วนผลการดำเนินงานของกองทุนเปิดอยุธยาตราสารเงินพลัส ในช่วงเวลาเดียวกัน กองทุนให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 1.72% และผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 2.79% ซึ่งถือว่าอยู่ใระดับที่ค่อนข้างสูง หากเทียบกับผลตอบแทนจากเงินฝาก
ผู้สื่อข่าวรายงานข่าว ในช่วงที่ผ่านมา การลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ ได้รับความสนใจจากนักลงทุนค่อนข้างมาก โดยเฉพาะกองทุนรวมตลาดเงิน (มันนี่มาร์เกต)ที่มีความมั่นคงและสภาพคล่องสูง และมีลักษณะคล้ายกับเงินฝากมากที่สุด เนื่องจากก่อนหน้านี้ การลงทุนทั้งในหุ้นเอง หรือการลงทุนต่างประเทศ ค่อนข้างผันผวนอย่างรุนแรง ประกอบกับกองทุนดังกล่าว ให้ผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝากพอสมควร จึงทำให้นักลงทุนส่วนหนึ่ง โยกเงินมาพักไว้ในกองทุนประเภทนี้มากขึ้น ถึงแม้ผลตอบแทนจะลดลง ตามการปรับลดดอกเบี้ยบ้างก็ตาม ซึ่งกองทุนมันนี่มาร์เก็ตภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อยุธยา จำกัด (เอวายเอฟ)ก็เติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
โดยกองทุนเปิดอยุธยาตราสารเงิน ซึ่งเป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารเงินและตราสารหนี้ พบว่า สินทรัพย์เพิ่มขึ้นจากช่วงปลายปี 2551 อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด ณ วันที่ 19 มีนาคม 2552 ที่ผ่านมา กองทุนมีสินทรัพย์อยู่ที่ 7,284.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากต้นปีที่มีสินทรัพย์รวม 5,492.47 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้นประมาณ 1,700 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากการเปิดพอร์ตล่าสุด (ณ วันที่ 27 ก.พ. 2552)หลักทรัพย์กองทุนเข้าไปที่ลงทุน จะเป็นตราสรหนี้ภาครัฐเป็นหลัก ซึ่งประกอบด้วย ตราสารภาครัฐหรือองค์กรระหว่างประเทศ 69.85% พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย 28.78% เงินฝาก หรือตราสารหนี้ที่สถาบันการเงินเป็นผู้ออก 0.03% และทรัพย์สินอื่น 2.46%
สำหรับกองทุนเปิดอยุธยาตราสารเงิน เป็นกองทุนที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตจาก บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ในระดับ 'AAA(tha)/V1(tha)'ซึ่งล่าสุด ฟิทช์ เรทติ้งส์ ยังคงอันดับเคาดิตไว้ที่ระดับ 'AAA(tha)/V1(tha)'เช่นเดิม ซึ่งแสดงว่า กองทุนเปิดอยุธยาตราสารเงิน สามารถรักษาระดับคุณภาพของกองทุนตามที่กำหนดไว้ในนโยบายการลงทุน คุณภาพเครดิตของกองทุนอยู่ในระดับสูงจากการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอันดับเครดิต 'AAA(tha)'เป็นส่วนใหญ่ ความผันผวนของผลตอบแทนของกองทุนเนื่องจากปัจจัยตลาดอยู่ในระดับต่ำเนื่องจากสินทรัพย์ส่วนใหญ่มีอายุสั้น มีสภาพคล่องสูง และอายุถัวเฉลี่ยของกองทุนอยู่ในระดับต่ำกว่า 40 วัน
ทั้งนี้ กองทุนที่มีอันดับเครดิต 'AAA(tha)'แสดงถึงบคุณภาพเครดิตโดยเฉลี่ยของตราสารที่กองทุนลงทุนที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับกองทุนตราสารหนี้อื่นๆ ในประเทศในด้านต่างๆ ทั้งในแง่ของทรัพย์สินกองทุน การกระจายความเสี่ยง การจัดการลงทุนและความสามารถของบริษัทจัดการ และกองทุนที่ได้รับการจัดอันดับความผันผวนที่ระดับ ที่มีอันดับเครดิต 'V1(tha)'มีความเสี่ยงจากปัจจัยตลาดต่ำเมื่อเทียบกับกองทุนตราสารหนี้อื่นในประเทศ และมีผลตอบแทนโดยรวมค่อนข้างคงที่จากการลงทุนตั้งแต่ระยะสั้นถึงระยะยาว
ส่วนกองทุนเปิดอยุธยาตราสารเงินพลัส ซึ่งเป็นกองทุนมันนี่มาร์เกตอีก 1 กองทุน ก็พบว่า มีเงินลงทุนเข้ามาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยในช่วงเวลาเดียวกัน กองทุนมีเงินลงทุนเพิ่มขึ้นเป็น 8,562.66 ล้านบาท จากสินทรัพย์รวม 3,186.42ล้านบาทในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งคิดเป็นจำนวนเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้นถึง 5,376.24 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม กองทุนเปิดอยุธยาตราสารเงินพลัส มีนโยบายลงทุนที่ใกล้เคียงกับ กองทุนเปิดอยุธยาตราสารเงิน
สำหรับผลการดำเนินงานของทั้ง 2 กองทุนนั้น พบว่า ณ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2552 กองทุนเปิดอยุธยาตราสารเงิน ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 1.69% ในขณะที่ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 2.68% ส่วนผลการดำเนินงานของกองทุนเปิดอยุธยาตราสารเงินพลัส ในช่วงเวลาเดียวกัน กองทุนให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 1.72% และผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 2.79% ซึ่งถือว่าอยู่ใระดับที่ค่อนข้างสูง หากเทียบกับผลตอบแทนจากเงินฝาก