บลจ.ไอเอ็นจี ปลื้มกระแสตอบรับกองทุนเปิด “ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล” หลังจัดสัมนาให้ความรู้เเก่ลูกค้า พร้อมชี้ช่องทางการลงทุนรับวัยเกษียณ เปิด IPO ทั้ง 3 กองทุนเเล้วตั้งเเต่วันนี้ถึง 26 มี.ค.นี้

นายจุมพล สายมาลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลังจาก บลจ.ไอเอ็นจี ได้เปิดตัวกองทุนใหม่ในซีรีย์ส “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ ไซเคิล” (ING Thai Lifecycle Fund) ซึ่งประกอบด้วย 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2015 กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2020 และกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2025 โดยใช้ปีที่ผู้ลงทุนต้องการเกษียณอายุเป็นตัวกำหนดเป้าหมายการลงทุนนั้น ปรากฏว่า ได้รับความสนใจจากนักลงทุนสอบถามข้อมูลเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะหลังจากที่บริษัทฯ ได้จัดกิจกรรมสัมมนาเพื่อพบปะกับผู้ลงทุน ซึ่งกระแสตอบรับที่เกิดขึ้นในขณะนี้ มาจากการที่นักลงทุนส่วนใหญ่ตระหนักถึงการวางแผนทางการเงินเพื่อรองรับวัยเกษียณ ขณะที่นโยบายหลักของกองทุนในซีรียส์ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล ที่เน้นดูแลความเสี่ยงจากการลงทุนสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุนได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ เราต้องยอมรับว่า ผู้ลงทุนให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงเป็นหลัก โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจโลกกำลังอยู่ในภาวะถดถอย ซึ่งนโยบายของกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล สามารถตอบโจทย์ได้ เพราะกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนแบบผสม โดยส่วนของตราสารหนี้จะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นตั๋วเงินคลัง รวมถึง พันธบัตรรัฐบาลไทย ซึ่งเป็นตราสารมีความมั่นคงสูง ขณะที่การเลือกลงทุนในตราสารทุน ซึ่งจะเป็นส่วนที่สร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนนั้น เราจะลงทุนในหุ้นที่มีคุณภาพดีด้วยกระบวนการลงทุนของกลุ่มไอเอ็นจีที่เป็นมาตรฐานทั่วโลก ซึ่งจะเป็นการลงทุนในตราสารหนี้และหุ้นในประเทศเท่านั้น
นอกจากนี้ ยังมีการปรับสัดส่วนการลงทุนระหว่างตราสารหนี้ หุ้นและเงินสดโดยผู้จัดการกองทุนมืออาชีพ ทำให้ผู้ลงทุนไม่ต้องกังวลเรื่องจังหวะของการลงทุนและการเลือกลงทุนในแต่ละสินทรัพย์อีกด้วย
ขณะเดียวกันในไตรมาส 2 นี้ทางบลจ.จะให้บริการเซฟวิ่งเเพลนกับนักลงทุน ซึ่งเราเชื่อว่าจะทำให้ลูกค้ากองทุนรวมไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิลทั้ง 3 กองทุนสะดวกมากขึ้นอีกด้วย
สำหรับกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2025 จะมีอายุโครงการ 16 ปี 8 เดือน แต่มีสภาพคล่องด้วยการเปิดให้ซื้อ-ขายได้ทุกวันทำการ เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีอายุ 40-45 ปี และคาดว่าอยากจะเกษียณอายุในวัยประมาณ 60 ปี คือ ในปี 2023-2028 ซึ่งนักลงทุนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ยังอยู่ในวัยทำงานที่แสวงหาทั้งความมั่นคงในหน้าที่การงาน และความ มั่งคั่งให้กับตนเอง การแสวงหาผลตอบแทนที่ดีพร้อมกับการยอมรับความเสี่ยงจึงยังมีได้มาก ดังนั้น สัดส่วนการลงทุนจะเน้นการลงทุนในตราสารทุนในช่วงปีแรกไม่เกินกว่า 55% แต่ในปีใกล้สิ้นอายุของกองทุน ตราสารในพอร์ตการลงทุนจะมีการเพิ่มสัดส่วนตราสารหนี้ระยะสั้นมากขึ้นจนกลายเป็นตราสารหนี้ระยะสั้นทั้งหมดในวันสิ้นอายุกองทุน เพื่อลดความเสี่ยงในตลอดช่วงอายุการลงทุน
ขณะที่กองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2020 จะมีอายุโครงการ 11 ปี 8 เดือน เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีอายุ 45-50 ปี โดยคาดว่าจะเกษียณที่อายุประมาณ 60 ปี ในปี 2018-2023 ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความสม่ำเสมอของรายได้และ รับความเสี่ยงได้น้อยลง ดังนั้น จึงให้น้ำหนักการลงทุนในตราสารหนี้มากขึ้น โดยจะลงทุนในตราสารทุนในช่วงปีแรกไม่เกินกว่า 45%
ส่วนกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2015 อายุโครงการ 6 ปี 8 เดือน เป็นกองทุนที่เหมาะกับผู้ลงทุนที่มีอายุ 50-55 ปี ซึ่งคาดว่าจะเกษียณที่อายุประมาณในปี 2013-2023 ดังนั้น การจัดสรรการลงทุนจะเน้นความปลอดภัยมากกว่าผลตอบแทนที่สูง เพื่อเตรียมเงินทุนไว้รองรับการใช้จ่ายในยามเกษียณแล้ว โดยในช่วงปีแรกจะลงทุนในตราสารทุนไม่เกินกว่า 30% และจะกลายเป็นตราสารหนี้ระยะสั้นในที่สุด
นายจุมพล กล่าวอีกว่า กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล ทั้ง 3 กองทุนจะเปิดขายตั้งเเต่วันนี้ถึง 26 มีนาคม 2552 นี้โดยกำหนดวงเงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด โทร.0-2688-7777 หรือ www.ingfunds.co.th รวมทั้งที่ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารซิตี้แบงก์ ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น (HSBC) และผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุนของ บลจ.ไอเอ็นจี
นายจุมพล สายมาลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลังจาก บลจ.ไอเอ็นจี ได้เปิดตัวกองทุนใหม่ในซีรีย์ส “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ ไซเคิล” (ING Thai Lifecycle Fund) ซึ่งประกอบด้วย 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2015 กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2020 และกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2025 โดยใช้ปีที่ผู้ลงทุนต้องการเกษียณอายุเป็นตัวกำหนดเป้าหมายการลงทุนนั้น ปรากฏว่า ได้รับความสนใจจากนักลงทุนสอบถามข้อมูลเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะหลังจากที่บริษัทฯ ได้จัดกิจกรรมสัมมนาเพื่อพบปะกับผู้ลงทุน ซึ่งกระแสตอบรับที่เกิดขึ้นในขณะนี้ มาจากการที่นักลงทุนส่วนใหญ่ตระหนักถึงการวางแผนทางการเงินเพื่อรองรับวัยเกษียณ ขณะที่นโยบายหลักของกองทุนในซีรียส์ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล ที่เน้นดูแลความเสี่ยงจากการลงทุนสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุนได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ เราต้องยอมรับว่า ผู้ลงทุนให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงเป็นหลัก โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจโลกกำลังอยู่ในภาวะถดถอย ซึ่งนโยบายของกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล สามารถตอบโจทย์ได้ เพราะกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนแบบผสม โดยส่วนของตราสารหนี้จะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นตั๋วเงินคลัง รวมถึง พันธบัตรรัฐบาลไทย ซึ่งเป็นตราสารมีความมั่นคงสูง ขณะที่การเลือกลงทุนในตราสารทุน ซึ่งจะเป็นส่วนที่สร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนนั้น เราจะลงทุนในหุ้นที่มีคุณภาพดีด้วยกระบวนการลงทุนของกลุ่มไอเอ็นจีที่เป็นมาตรฐานทั่วโลก ซึ่งจะเป็นการลงทุนในตราสารหนี้และหุ้นในประเทศเท่านั้น
นอกจากนี้ ยังมีการปรับสัดส่วนการลงทุนระหว่างตราสารหนี้ หุ้นและเงินสดโดยผู้จัดการกองทุนมืออาชีพ ทำให้ผู้ลงทุนไม่ต้องกังวลเรื่องจังหวะของการลงทุนและการเลือกลงทุนในแต่ละสินทรัพย์อีกด้วย
ขณะเดียวกันในไตรมาส 2 นี้ทางบลจ.จะให้บริการเซฟวิ่งเเพลนกับนักลงทุน ซึ่งเราเชื่อว่าจะทำให้ลูกค้ากองทุนรวมไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิลทั้ง 3 กองทุนสะดวกมากขึ้นอีกด้วย
สำหรับกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2025 จะมีอายุโครงการ 16 ปี 8 เดือน แต่มีสภาพคล่องด้วยการเปิดให้ซื้อ-ขายได้ทุกวันทำการ เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีอายุ 40-45 ปี และคาดว่าอยากจะเกษียณอายุในวัยประมาณ 60 ปี คือ ในปี 2023-2028 ซึ่งนักลงทุนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ยังอยู่ในวัยทำงานที่แสวงหาทั้งความมั่นคงในหน้าที่การงาน และความ มั่งคั่งให้กับตนเอง การแสวงหาผลตอบแทนที่ดีพร้อมกับการยอมรับความเสี่ยงจึงยังมีได้มาก ดังนั้น สัดส่วนการลงทุนจะเน้นการลงทุนในตราสารทุนในช่วงปีแรกไม่เกินกว่า 55% แต่ในปีใกล้สิ้นอายุของกองทุน ตราสารในพอร์ตการลงทุนจะมีการเพิ่มสัดส่วนตราสารหนี้ระยะสั้นมากขึ้นจนกลายเป็นตราสารหนี้ระยะสั้นทั้งหมดในวันสิ้นอายุกองทุน เพื่อลดความเสี่ยงในตลอดช่วงอายุการลงทุน
ขณะที่กองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2020 จะมีอายุโครงการ 11 ปี 8 เดือน เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีอายุ 45-50 ปี โดยคาดว่าจะเกษียณที่อายุประมาณ 60 ปี ในปี 2018-2023 ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความสม่ำเสมอของรายได้และ รับความเสี่ยงได้น้อยลง ดังนั้น จึงให้น้ำหนักการลงทุนในตราสารหนี้มากขึ้น โดยจะลงทุนในตราสารทุนในช่วงปีแรกไม่เกินกว่า 45%
ส่วนกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2015 อายุโครงการ 6 ปี 8 เดือน เป็นกองทุนที่เหมาะกับผู้ลงทุนที่มีอายุ 50-55 ปี ซึ่งคาดว่าจะเกษียณที่อายุประมาณในปี 2013-2023 ดังนั้น การจัดสรรการลงทุนจะเน้นความปลอดภัยมากกว่าผลตอบแทนที่สูง เพื่อเตรียมเงินทุนไว้รองรับการใช้จ่ายในยามเกษียณแล้ว โดยในช่วงปีแรกจะลงทุนในตราสารทุนไม่เกินกว่า 30% และจะกลายเป็นตราสารหนี้ระยะสั้นในที่สุด
นายจุมพล กล่าวอีกว่า กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล ทั้ง 3 กองทุนจะเปิดขายตั้งเเต่วันนี้ถึง 26 มีนาคม 2552 นี้โดยกำหนดวงเงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด โทร.0-2688-7777 หรือ www.ingfunds.co.th รวมทั้งที่ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารซิตี้แบงก์ ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น (HSBC) และผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุนของ บลจ.ไอเอ็นจี