xs
xsm
sm
md
lg

กรุงไทยปรับยิลด์กองทุนบอนด์เกาหลี ให้3.80%ต่อปีหลังรัฐบาลสั่งคงดอกเบี้ย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.กรุงไทย ปรับเพิ่มผลตอบเเทน "กรุงไทยตราสารต่างประเทศ 6 เดือน 22 " จาก 3.20 % เป็น 3.80% หลังรัรฐบาลเกาหลีใต้ คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 2% รวมถึงค่าเงินบาท ยังมีเเนวโน้มอ่อนลง
นายสมชัย บุญนำศิริ
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับอัตราผลตอบแทนของกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารต่างประเทศ 6 เดือน 22 (KTFIF6M22) จาก 3.20% ต่อปี เพิ่มขึ้นเป็น 3.80% ต่อปี เนื่องจากรัฐบาลเกาหลีใต้ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2% ต่อปี ซึ่งไม่เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะมีการปรับลดลง 0.25% - 0.50%ต่อปี นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง (Libor) ยังอยู่ในแนวโน้มที่ปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับค่าเงินบาทยังคงมีแนวโน้มอ่อนค่าลง ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารต่างประเทศ เมื่อแปลงกับเป็นสกุลบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น

สำหรับกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารต่างประเทศ 6 เดือน 22 มีอายุโครงการ 6 เดือน มูลค่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่าย ถึงวันที่ 17 มีนาคม 2552 เป็นกองทุนที่เน้นการลงทุนในตราสารการเงินในประเทศเกาหลีใต้ ประเภท Euro Commercial Paper (ECP) /Euro Medium Term Note (EMTN) ที่ออกโดยสถาบันการเงินภาครัฐของประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นตราสารที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระยะสั้นในอันดับสูงสุด คือ A1 โดย S&P และ F1 โดย Fitch โดยกองทุนจะลงทุนใน Export - Import Bank of Korea , Industral Bank of Korea ในสัดส่วนสถาบันการเงินละ 35% และ Korea Development Bank 30% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่งผลให้กองทุนได้รับผลตอบแทนประมาณการที่ 3.80%ต่อปี จึง เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่สูงกว่า การลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ ที่มีระดับความเสี่ยงใกล้เคียงกัน และ เงินลงทุนจะมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน

ขณะที่ฝ่ายวิจัยบลจ.กรุงไทย มองว่า ตัวเลขเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ในสัปดาห์ที่ผ่านมายังสะท้อนความอ่อนเเอของเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นไปตามเเนวโน้มเศรษฐกิจโลก การส่งออกในเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 17.1%YoY มาอยู่ที่ 25,848 ล้านดอลล์สหรัฐฯ เเต่ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนที่ส่งออกได้ 21,368 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนการนำเข้าในเดือนกุมภาพันธ์อยู่ที่ 24,724 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯหดตัวลง 30.9%YoY เเต่เพิ่มขึ้นจาก 22,533 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในเดือนก่อน โดยรวมเเล้วดุลการค้าในเดือนกุมภาพันธ์ปรับตัวดีขึ้นมาเกินดุล 3,295 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯดีกว่าการขาดดุล 3,356 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในเดือนมกราคม ในด้านการผลิต เกาหลีใต้ยังคงมีการผลิตในระดับต่ำ ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนธันวาคมที่ลดลง 18.6%YoY เนื่องจากอุปสงค์ของโลกที่อ่อนเเอทำให้ผู้ผลิตปรับลดกำลังผลิต ส่วนดัชนีชี้นำภาวะเศรษฐกิจยังมีเเนวโน้มลดลง โดยดัชนีในเดือนมกราคมอยู่ที่ 11.01 ลดลง 0.3%MoM หรือลดลง 4.5%YoY อัตราเงินเฟ้ดในเดือนกุมภาพันธ์ ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย มาจากราคาอาหารเสื้อผ้าที่เพิ่มสูงขึ้น โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไป (Headline Inflation) อยูที่ 4.1% เพิ่มขึ้นจาก3.75% ในเดือนก่อน

สำหรับเครื่องชี้เสถียรภาพของเศรษฐกิจนั้น ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศปรับลดลงเป็นครั้งเเรกในรอบ 3 เดือนโดย ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ ทุนสำรองอยู่ที่ 201.54 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯลดลงจาก 201.47 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯในเดือนก่อน เนื่องจากการเเข็งค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ค่าเงินเยนเเละยูโรที่ถือไว้อ่อนค่าลง อย่างไรก็ตามกองทุนสำรองเงินตราต่างประเทศยังมากกว่าระดับ 200 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯซึ่งเป็นระดับที่มีความสำคัญทางจิตวิทยา

โดยธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) ได้จัดการเงินกู้ระยะ 84 วัน วงเงิน 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯให้กับธนาคารภายในประเทสโดยใช้วงเงินสินเชื่อของ Fedเเละในการประมูลมีธนาคาร 14 เเห่งยื่นเงินกู้ 4.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่มีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1.3160% ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยโดยเฉลี่ยที่ 1.4398% ที่กำหนดไว้ในการประมูลในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ทั้งนี้ BOK ได้ใช้เงินเเล้วทั้งสิ้น 2.035 หมื่อนล้านดอลลาร์สหรัฐฯจาก Swap line 3หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ทำกับ FED ขณะที่ได้รับเงินคืน 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากธนาคารภายในประเทศโดย Swap line ดังกล่าวจะยังคงมีอยู่ต่อไปจนถึงวันที่ 30 ตุลาคม 2552 ซึ่งเป็นเเนวทางสำคัญที่ BOK ใช้เพื่อจัดการกับปัญหาการขาดเเคลนดอลลาร์ในประเทศ ซึ่งนอกจากSwap line กับ FED เเล้ว BOK ยังมี Swap line กับญี่ปุ่น เเละ จีน รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 4.8 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ
กำลังโหลดความคิดเห็น