xs
xsm
sm
md
lg

กองทุนเปิด ทิสโก้ ออยล์ ฟันด์ รอฟันกำไรช่วงราคานํ้ามันพุ่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ภาวะการลงทุนในปัจจุบัน เห็นจะมีสินทรัพย์ไม่กี่ชนิดเท่านั้นที่มีความน่าสนใจ และสามารถให้ผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจ สินทรัพย์แรกคงไม่ใช่อื่นไกล นอกเสียจากทองคำ ส่วนต่อมาคงเป็นสินทรัพย์ในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งราคาได้ปรับลงมาค่อนข้างมาก และหนึ่งในสินค้าประเภทดังกล่าวน้ำมันคงเป็นตัวเลือกแรกในใจของนักลงทุนหลายคน จะว่าไปแล้วน้ำมันก็คือ “Black Gold” นั่นเอง

ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันในช่วงนี้น่าจะเป็นกลับมาสู่ราคาที่ต่ำที่สุดแล้ว หลังจากในปีที่ผ่านมาเคยปรับขึ้นไปเกือบ 150 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาเรล ดังนั้น การที่ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงมาระดับปัจจุบันจึงมีความน่าสนใจไม่น้อย สำหรับการเข้าไปลงทุนในระยะยาว หรือการเข้าไปเก็งกำไรจากระดับราคาดังกล่าว ฉะนั้น การเข้าไปลงทุนในกองทุนน้ำมัน ณ เวลานี้ น่าจะเป็นเวลาที่ค่อนข้างเหมาะสม

คอลัมน์ MutualFund IPO วันนี้ขอแนะนำ กองทุนเปิด ทิสโก้ ออยล์ ฟันด์ ซึ่งเป็นกองทุนรวมหน่วยลงทุนที่ลงทุนในกองทุนต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) โดยมีกองทุนหลักคือ PowerShares DB Oil Fund เป็นกองทุนรวมอีทีเอฟ (Exchange Traded Fund) ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา (New York Stock Exchange, NYSE) ซึ่งมีนโยบายการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี Deutsche Bank Liquid Commodity Index - Optimum Yield Crude Oil Excess Return

สำหรับจุดเด่นกองทุนนี้คือ มีโอกาสรับผลตอบแทนเพิ่มขึ้นหากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากการปรับตัวลดลงมาอย่างมากในปีที่ผ่านมา โดยพบว่าราคาน้ำมันดิบลดลงเหลือเพียงประมาณ 38 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (ณ 20 ก.พ. 52) จากระดับสูงสุดถึงประมาณ 140 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในปี 2550 ในขณะที่น้ำมันเป็นทรัพยากรที่มีจำกัด จึงมีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องหากเกิดความขาดแคลนในอนาคต

ธีรนาถ รุจิเมธาภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด เล่าให้ฟังถึงที่มาที่ไปว่า กองทุนนี้ ต้องการตอบสนองนักลงทุนที่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนในน้ำมัน หลังจากที่ราคามีการปรับตัวลดลงมาอยู่ในระดับต่ำ โดยกองทุนนี้นับเป็นกองทุนแรกของประเทศไทยที่ไปลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของราคาน้ำมันผ่านกองทุนรวมในต่างประเทศอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าแนวโน้มราคาน้ำมันในปีนี้น่าจะยังมีความผันผวนอยู่ เนื่องจากเป็นธรรมดาของสินค้าโภคภัณฑ์ที่มักจะปรับขึ้นลงตามความต้องการและกำลังการผลิต แต่มองว่าจะไม่ผันผวนสูงมากเท่าปีที่ผ่านมา และแนวโน้มราคาน้ำมันไม่น่าจะลดต่ำลงไปกว่านี้ เนื่องจากตอนนี้ก็เข้าใกล้ต้นทุนในระดับต่ำที่สุดแล้ว ซึ่งหากมีการหยุดการผลิตบางส่วนจริงก็น่าจะทำให้ราคามีการปรับตัวขึ้นได้บ้าง

ส่วนสาเหตุที่กองทุนเลือกน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) หรือเวสต์เท็กซัสเป็นราคาอ้างอิงนั้น เพราะถือเป็นน้ำมันดิบที่มีสภาพคล่องในการซื้อขายในตลาดซื้อขายล่วงหน้าสูงสุด อีกทั้งยังเป็นตลาดที่มีสัดส่วนการซื้อขายล่วงหน้ามากที่สุดถึง 50% ของยอดการซื้อขายในตลาดโลก จึงถูกใช้เป็นเกณฑ์มาตรฐานในการอ้างอิงราคาน้ำมันดิบที่ใช้มากที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังเป็นน้ำมันดิบที่มีคุณภาพดี มีความหนาแน่นและกำมะถันต่ำอีกด้วย

ด้าน พิชา รัตนธรรม หัวหน้าธุรกิจกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคล บลจ.ทิสโก้ บอกว่า การที่ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงในปัจจุบันเนื่องจากความคาดหวังด้านความต้องการบริโภคน้ำมันช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว แต่เชื่อว่าในระยะยาวนักวิชาการยังคงเป็นห่วงการขาดแคลนน้ำมันที่มีอย่างจำกัด

ทั้งนี้ ในระยะสั้นการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมัน เนื่องจากความต้องการที่ลดลงประมาณ 1.5 ล้านบาร์เรลล์ต่อวัน ทำให้ปัจจุบันความต้องการจะอยู่ที่ 83-84 ล้านบาร์เรลล์ต่อวัน จากเดิมที่มีประมาณ 85 ล้านบาร์เรลล์ต่อวัน โดยส่วนหนึ่งมาจาก การบริโภคที่ลดลงของ ประเทศสหรัฐอเมริกา จีน และอินเดีย ตามภาวะของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและสะท้อนออกมาเป็นตัวเลข จีดีพีที่ปรับตัวลดลง

อย่างไรก็ตาม จากการคาดการณ์ว่าในปี 2010 เศรษฐกิจโลกจะเริ่มฟื้นตัว เชื่อว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เนื่องจากราคานํ้ามันมักจะปรับตัวล่วงหน้าเสมอ โดยหากเทียบกับการปรับตัวของหุ้นแล้วยังมีอัตราการปรับตัวที่รวดเร็วกว่าอีกด้วย

ส่วนราคาน้ำมันในช่วง 1-2 เดือนนี้คงจะมีการแกว่งตัวอยู่ในช่วงแคบๆ แต่เชื่อว่าขาลงจะน้อย เนื่องจากการลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศโอเปก ซึ่งหากเศรษฐกิจในปี 2010 ฟื้นตามที่คาดการณ์เชื่อว่าราคาน้ำมันจะรีบาวน์ขึ้นเร็วมาก

เขายังบอกด้วยว่า การปรับตัวของราคาน้ำมันหลังจากนี้เชื่อว่าจะไม่ลดต่ำลงไปมากกว่านี้อีก เนื่องจากแนวโน้มการลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศโอเปคน่าจะทำให้ราคากลับมามีเสถียรภาพมากขึ้น ขณะเดียวกันจากการที่ราคาลดต่ำลงมาอยู่ที่ประมาณ 40 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลล์นั้น เข้าใกล้ต้นทุนการขุดเจาะที่อยู่ประมาณ 25-30 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลล์มากแล้ว จึงทำให้ราคาไม่น่าจะลดลงไปต่ำมากกว่านี้ได้

“ราคานํ้ามันค่อนข้างต่ำและเข้าใกล้ Cash cost หรือต้นทุนการขุดเจาะที่เป็นเงินสดมากแล้ว ซึ่งหากราคาจะลดลงต่ำกว่านี้ การขุดเจาะน้ำมันคงจะต้องพังไปเหมือนกัน ซึ่งอาจส่งผลให้บางบ่อถึงกับเลิกเจาะไปเลยก็ได้ โดยเหตุการณ์แบบนี้มันก็ไม่น่าจะเกิดขึ้น ซึ่งหากจะลดต่ำลงอีกเล็กน้อยก็น่าจะได้ แต่มันต้องอยู่ในสมมุติฐานที่เศรษฐกิจโลกต้องแย่กว่านี้ด้วยไม่ใช่จะแย่อยู่ในระดับนี้ตลอด”

สำหรับกองทุนเปิด ทิสโก้ ออยล์ ฟันด์ จะเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 3 – 20 มีนาคมนี้ และมีเงินลงทุนขั้นต่ำอยู่ที่ 20,000 บาท ผู้สนใจลงทุนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่และขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ.ทิสโก้ Contact Center โทร .0 2633 6000 กด 4

ธีรนาถ รุจิเมธาภาส
พิชา รัตนธรรม
กำลังโหลดความคิดเห็น