ASTVผู้จัดการรายวัน - บลจ.เอ็มเอฟซี แก้ไข "I-15" จากกองปิดเป็นกองทุนเปิด หวังเปิดทางให้ผู้ถือหน่วยลงทุนต่อ โดยไม่ขาดทุน หลังใกล้ครบอายุการลงทุน 2 ปีเดือนมี.ค.นี้ แต่เอ็นเอวีต่อหน่วยยังต่ำกว่า 10 บาท ซึ่งเป็นผลพวงจากวิกฤตการเงินในสหรัฐฯ
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับเปลี่ยนนโยบายการลงทุนของกองทุนรวมเอ็มเอฟซีอินเตอร์เนชั่นแนล ฟิฟทีน (I-15) ใหม่ โดยปรับเปลี่ยนสภาพให้เป็นกองทุนเปิด และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีอินเตอร์เนชั่นแนล ฟิฟทีน (I-15) ขณะเดียวกัน ยังได้แก้ไขนโยบายการยกเลิกกองทุนเพิ่มเติม โดยกำหนดเงื่อนไขใหม่ว่า บริษัทจัดการจะเลิกโครงการก่อนครบอายุได้เมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 118 ของมูลค่าที่ตราไว้ (10 บาท) เป็นเวลา 5 วันทำการติดต่อกัน หรือ เมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 118 ของมูลค่าที่ตราไว้(10 บาท) และทรัพย์สินของกองทุนเป็นเงินสดทั้งหมดในสกุลเงินบาท ณ วันทำการใด โดยมูลค่าหน่วยลงทุนที่คืนให้ผู้ถือหน่วยลงทุน ต้องไม่ต่ำกว่าร้อยละ 115 ของมูลค่าที่ตราไว้ทั้งนี้แล้วแต่จะเกิดเหตุการณ์ใดขึ้นก่อน
ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากช่วงที่ผ่านมา กองทุนได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินในสหรัฐฯ จนส่งผลให้มูลค่าหน่วยลงทุนปรับลดลงอย่างมาก โดยล่าสุด ณ วันที่ 30 มกราคม 2551 กองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 6.0095 บาท ทำให้โอกาสที่ผลตอบแทนของกองทุนจะปรับขึ้นไปตามนโยบายเดิมที่กำหนดเป้าหมายผลตอบแทนเอาไว้ที่ 15% ภายใน 2 ปีนั่นค่อนข้างลำบาก ซึ่งกองทุนจะครบอายุในช่วงเดือนมีนาคมนี้ ดังนั้น การแก้ไขโครงการเป็นกองทุนเปิด และไม่กำหนดอายุการลงทุน ก็จะเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนเดิมสามารถถือหน่วยต่อไปได้ โดยไม่ขาดทุนหากต้องขายคืนหน่วยลงทุนออกมา ขณะเดียวกัน ยังมีโอกาสที่จะได้ผลตอบแทนสูงขึ้นหากการลงทุนในต่างประเทศปรับตัวดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม กองทุนยังได้ปรับเปลี่ยนนโยบายลงทุนเพิ่มเติม โดยให้ความสำคัญกับการป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจเป็นหลัก โดยจะเน้นกระจายการลงทุนของกองทุนในตราสารแห่งทุน ตราสารแห่งหนี้และหรือเงินฝาก ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน ตลอดจนหลักทรัพย์และทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนด โดยบริษัทจัดการกองทุนจะจัดสัดส่วนการ ลงทุนให้เหมาะกับสภาวการณ์ในแต่ละขณะเพื่อผลตอบแทนการลงทุนที่ดีและเป็นการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน
ทั้งนี้ ในกรณีที่การลงทุนในต่างประเทศไม่เหมาะสม เช่น ภาวะตลาดและเศรษฐกิจมีความ ผันผวน เกิดภัยพิบัติหรือเหตุการณ์ไม่ปกติต่างๆ และ/หรือกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบเกี่ยวกับวงเงินหรือการลงทุนในต่างประเทศ และ/หรือ 2 วันทำการในช่วงก่อนและหลังการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน และ/หรือ 30 วันสุดท้ายของกองทุน บริษัทจัดการอาจไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามสัดส่วนการลงทุนในส่วนที่เกี่ยวกับการลงทุนในต่างประเทศไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนได้
นอกจากนี้ บริษัทจัดการอาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ที่มีตัวแปรเป็นอัตราแลกเปลี่ยนเงิน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุน (Hedging) และจะไม่ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note)
สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุน ล่าสุด ณ วันที่ 30 มกราคม 2551 พบว่า กองทุนให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (9 มี.ค. 50) อยู่ที่ -39.89% ในขณะที่ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี (1เดือน) อยู่ที่ -3.64% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 0.87% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -28.59% และย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ -36.89%
ทั้งนี้ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีอินเตอร์เนชั่นแนล ฟิฟทีน จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2550 โดยกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนประเภททาร์เก็ตฟันด์ ที่เน้นลงทุนในหุ้นต่างประเทศ และกำหนดผลตอบแทนไว้ที่ 15% ภายใน 2 ปี โดยระหว่างทางหากกองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 118 ของมูลค่าที่ตราไว้(10 บาท) เป็นเวลา 5 วันทำการติดต่อกัน และมูลค่าหน่วยลงทุนที่ คืนให้ผู้ถือหน่วยลงทุน ต้องไม่ต่ำกว่าร้อยละ 115 ของมูลค่าที่ตราไว้ และทรัพย์สินของกองทุนเป็นเงินสดทั้งหมด ก็จะสามารถเลิกกองทุนก่อนกำหนดได้ ทั้งนี้ แล้วแต่จะเกิดเหตุการณ์ใดขึ้นก่อน
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับเปลี่ยนนโยบายการลงทุนของกองทุนรวมเอ็มเอฟซีอินเตอร์เนชั่นแนล ฟิฟทีน (I-15) ใหม่ โดยปรับเปลี่ยนสภาพให้เป็นกองทุนเปิด และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีอินเตอร์เนชั่นแนล ฟิฟทีน (I-15) ขณะเดียวกัน ยังได้แก้ไขนโยบายการยกเลิกกองทุนเพิ่มเติม โดยกำหนดเงื่อนไขใหม่ว่า บริษัทจัดการจะเลิกโครงการก่อนครบอายุได้เมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 118 ของมูลค่าที่ตราไว้ (10 บาท) เป็นเวลา 5 วันทำการติดต่อกัน หรือ เมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 118 ของมูลค่าที่ตราไว้(10 บาท) และทรัพย์สินของกองทุนเป็นเงินสดทั้งหมดในสกุลเงินบาท ณ วันทำการใด โดยมูลค่าหน่วยลงทุนที่คืนให้ผู้ถือหน่วยลงทุน ต้องไม่ต่ำกว่าร้อยละ 115 ของมูลค่าที่ตราไว้ทั้งนี้แล้วแต่จะเกิดเหตุการณ์ใดขึ้นก่อน
ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากช่วงที่ผ่านมา กองทุนได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินในสหรัฐฯ จนส่งผลให้มูลค่าหน่วยลงทุนปรับลดลงอย่างมาก โดยล่าสุด ณ วันที่ 30 มกราคม 2551 กองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 6.0095 บาท ทำให้โอกาสที่ผลตอบแทนของกองทุนจะปรับขึ้นไปตามนโยบายเดิมที่กำหนดเป้าหมายผลตอบแทนเอาไว้ที่ 15% ภายใน 2 ปีนั่นค่อนข้างลำบาก ซึ่งกองทุนจะครบอายุในช่วงเดือนมีนาคมนี้ ดังนั้น การแก้ไขโครงการเป็นกองทุนเปิด และไม่กำหนดอายุการลงทุน ก็จะเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนเดิมสามารถถือหน่วยต่อไปได้ โดยไม่ขาดทุนหากต้องขายคืนหน่วยลงทุนออกมา ขณะเดียวกัน ยังมีโอกาสที่จะได้ผลตอบแทนสูงขึ้นหากการลงทุนในต่างประเทศปรับตัวดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม กองทุนยังได้ปรับเปลี่ยนนโยบายลงทุนเพิ่มเติม โดยให้ความสำคัญกับการป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจเป็นหลัก โดยจะเน้นกระจายการลงทุนของกองทุนในตราสารแห่งทุน ตราสารแห่งหนี้และหรือเงินฝาก ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน ตลอดจนหลักทรัพย์และทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนด โดยบริษัทจัดการกองทุนจะจัดสัดส่วนการ ลงทุนให้เหมาะกับสภาวการณ์ในแต่ละขณะเพื่อผลตอบแทนการลงทุนที่ดีและเป็นการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน
ทั้งนี้ ในกรณีที่การลงทุนในต่างประเทศไม่เหมาะสม เช่น ภาวะตลาดและเศรษฐกิจมีความ ผันผวน เกิดภัยพิบัติหรือเหตุการณ์ไม่ปกติต่างๆ และ/หรือกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบเกี่ยวกับวงเงินหรือการลงทุนในต่างประเทศ และ/หรือ 2 วันทำการในช่วงก่อนและหลังการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน และ/หรือ 30 วันสุดท้ายของกองทุน บริษัทจัดการอาจไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามสัดส่วนการลงทุนในส่วนที่เกี่ยวกับการลงทุนในต่างประเทศไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนได้
นอกจากนี้ บริษัทจัดการอาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ที่มีตัวแปรเป็นอัตราแลกเปลี่ยนเงิน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุน (Hedging) และจะไม่ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note)
สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุน ล่าสุด ณ วันที่ 30 มกราคม 2551 พบว่า กองทุนให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (9 มี.ค. 50) อยู่ที่ -39.89% ในขณะที่ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี (1เดือน) อยู่ที่ -3.64% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 0.87% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -28.59% และย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ -36.89%
ทั้งนี้ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีอินเตอร์เนชั่นแนล ฟิฟทีน จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2550 โดยกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนประเภททาร์เก็ตฟันด์ ที่เน้นลงทุนในหุ้นต่างประเทศ และกำหนดผลตอบแทนไว้ที่ 15% ภายใน 2 ปี โดยระหว่างทางหากกองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 118 ของมูลค่าที่ตราไว้(10 บาท) เป็นเวลา 5 วันทำการติดต่อกัน และมูลค่าหน่วยลงทุนที่ คืนให้ผู้ถือหน่วยลงทุน ต้องไม่ต่ำกว่าร้อยละ 115 ของมูลค่าที่ตราไว้ และทรัพย์สินของกองทุนเป็นเงินสดทั้งหมด ก็จะสามารถเลิกกองทุนก่อนกำหนดได้ ทั้งนี้ แล้วแต่จะเกิดเหตุการณ์ใดขึ้นก่อน
