ASTV ผู้จัดการรายวัน - บลจ.บัวหลวง ผนึกแบงก์กรุงเทพ จัดแคมเปญเด็ดกระตุ้นยอดกองทุนเปิด “ธนทวี” ซื้อหน่วยลงทุนผ่านบัตรไอแบงก์กิ้ง รับบัตรกินเอ็มเค 300 บาท หมดเขต 3 มีนาคมนี้
นายวศิน วัฒนวรกิจกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากปรับลดลงไป ส่งผลให้นักลงทุนหลายรายต่างหาช่องทางใหม่ ๆ เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่ดีขึ้น ซึ่งกองทุนเปิดบัวหลวงธนทวีก็เป็นหนึ่งในกองทุนที่ได้รับความสนใจ เห็นได้จากจำนวนเงินที่เข้ามาลงเพิ่มมากขึ้น เพราะกองทุนดังกล่าวให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการนำเงินไปฝากธนาคาร อีกทั้งความเสี่ยงยังต่ำอีกด้วย
นอกจากนี้ ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา บริษัทได้จดทะเบียนกองทุนเพิ่มเป็น 60,000 ล้านบาท จากเดิมที่มีอยู่ 55,000 ล้านบาท ซึ่งการเพิ่มทุนครั้งนี้เป็นการรองรับกับเงินลงทุนที่จะไหลเข้ามาในกองทุนดังกล่าว โดยมูลค่าทรัพย์สิน (เอ็นเอวี) ล่าสุด ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2552 มีอยู่ 56,123 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับช่วงปลายปีที่ผ่านมามีอยู่ที่ประมาณ 40,392 ล้านบาท
ล่าสุด บริษัทได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสำหรับกองทุนเปิดบัวหลวงธนทวี ซึ่งบริษัทได้ร่วมมือกับแบงก์กรุงเทพ สำหรับลูกค้าที่เข้ามาลงทุนผ่านบริการไอแบงก์กิ้ง ขั้นต่ำตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 3 มีนาคม 2552 จะได้บัตรรับประทานอาหารที่เอ็มเค มูลค่า 300 บาท ทั้งนี้ ผู้ลงทุนจะต้องมียอดคงเหลืออยู่ในบัญชีไม่ต่ำกว่า 50,000 บาทด้วย จึงจะได้บัตรดังกล่าว
สำหรับผลตอบแทนของกองทุน ณ วันที่ 26 ธันวาคม 2551 กองทุนให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน อยู่ที่ 3.03% เมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปีอยู่ที่ 2.56% ย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ 2.96% เมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปีอยู่ที่ 2.65% ย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 2.77% เมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปีอยู่ที่ 2.52% ย้อนหลัง 3 ปี อยู่ที่ 3.58% เมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปีอยู่ที่ 3.19% และผลตอบแทนตั้งแต่จัดตั้งกองทุน 3.40%
นายวศิน กล่าวว่า ขณะนี้นอกจากบริษัทได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสำหรับกองทุนเปิดธนทวีแล้ว บริษัทยังอยู่ในระหว่างการเปิดขายกองทุนซีรีย์ธนรัฐ กองที่ 3 ด้วย โดยกองทุนได้เริ่มทำการเปิดขายแล้วตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2552 มีขนาดโครงการ 3,000 ล้านบาท มีอายุโครงการประมาณ 5 – 7 เดือน ซึ่งกองทุนดังกล่าว เหมาะสมกับเงินลงทุนส่วนที่ต้องการความมั่นคงสูง และความเสี่ยงต่ำ โดยไม่ต้องไปลงทุนในหุ้น และเงินส่วนนี้จะต้องอยู่ในกองทุนเป็นระยะเวลาเท่ากับอายุ กองทุน โดยลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท ที่ราคาเสนอขาย 10 บาทต่อหน่วยลงทุน
โดยกองทุนจะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยหรือพันธบัตร หรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลังหรือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
นายวศิน วัฒนวรกิจกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากปรับลดลงไป ส่งผลให้นักลงทุนหลายรายต่างหาช่องทางใหม่ ๆ เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่ดีขึ้น ซึ่งกองทุนเปิดบัวหลวงธนทวีก็เป็นหนึ่งในกองทุนที่ได้รับความสนใจ เห็นได้จากจำนวนเงินที่เข้ามาลงเพิ่มมากขึ้น เพราะกองทุนดังกล่าวให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการนำเงินไปฝากธนาคาร อีกทั้งความเสี่ยงยังต่ำอีกด้วย
นอกจากนี้ ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา บริษัทได้จดทะเบียนกองทุนเพิ่มเป็น 60,000 ล้านบาท จากเดิมที่มีอยู่ 55,000 ล้านบาท ซึ่งการเพิ่มทุนครั้งนี้เป็นการรองรับกับเงินลงทุนที่จะไหลเข้ามาในกองทุนดังกล่าว โดยมูลค่าทรัพย์สิน (เอ็นเอวี) ล่าสุด ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2552 มีอยู่ 56,123 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับช่วงปลายปีที่ผ่านมามีอยู่ที่ประมาณ 40,392 ล้านบาท
ล่าสุด บริษัทได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสำหรับกองทุนเปิดบัวหลวงธนทวี ซึ่งบริษัทได้ร่วมมือกับแบงก์กรุงเทพ สำหรับลูกค้าที่เข้ามาลงทุนผ่านบริการไอแบงก์กิ้ง ขั้นต่ำตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 3 มีนาคม 2552 จะได้บัตรรับประทานอาหารที่เอ็มเค มูลค่า 300 บาท ทั้งนี้ ผู้ลงทุนจะต้องมียอดคงเหลืออยู่ในบัญชีไม่ต่ำกว่า 50,000 บาทด้วย จึงจะได้บัตรดังกล่าว
สำหรับผลตอบแทนของกองทุน ณ วันที่ 26 ธันวาคม 2551 กองทุนให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน อยู่ที่ 3.03% เมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปีอยู่ที่ 2.56% ย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ 2.96% เมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปีอยู่ที่ 2.65% ย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 2.77% เมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปีอยู่ที่ 2.52% ย้อนหลัง 3 ปี อยู่ที่ 3.58% เมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปีอยู่ที่ 3.19% และผลตอบแทนตั้งแต่จัดตั้งกองทุน 3.40%
นายวศิน กล่าวว่า ขณะนี้นอกจากบริษัทได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสำหรับกองทุนเปิดธนทวีแล้ว บริษัทยังอยู่ในระหว่างการเปิดขายกองทุนซีรีย์ธนรัฐ กองที่ 3 ด้วย โดยกองทุนได้เริ่มทำการเปิดขายแล้วตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2552 มีขนาดโครงการ 3,000 ล้านบาท มีอายุโครงการประมาณ 5 – 7 เดือน ซึ่งกองทุนดังกล่าว เหมาะสมกับเงินลงทุนส่วนที่ต้องการความมั่นคงสูง และความเสี่ยงต่ำ โดยไม่ต้องไปลงทุนในหุ้น และเงินส่วนนี้จะต้องอยู่ในกองทุนเป็นระยะเวลาเท่ากับอายุ กองทุน โดยลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท ที่ราคาเสนอขาย 10 บาทต่อหน่วยลงทุน
โดยกองทุนจะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยหรือพันธบัตร หรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลังหรือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน